อิเกียจะยุติการขายสินค้าพลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้ง !

หลอด จาน ถ้วย ถุงแช่แข็ง ถุงขยะ รวมถึงจานและถ้วยกระดาษเคลือบพลาสติก หยุดขายในสโตร์อิเกียทั่วโลกให้ได้ ภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 ตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้ชื่อ People and Planet Positive เป็นตัวกำหนดแนวทางการดำเนินงานของอิเกียทั่วโลก

สินค้าที่ผลิตจากพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งอิเกียจะยกเลิกการจำหน่าย ได้แก่ หลอดดูด รุ่น SODA/ซูดา ,หลอดดูด รุ่น SÖTVATTEN/เซิตวัตเทน ,ถุงใส่อาหารแช่แข็ง รุ่น FÖRNYBAR/เฟอร์นือบาร์ (ทั้งหมด 3 สี) และถุงทำน้ำแข็ง รุ่น ISIGA/อิซิกา

อิเกียมุ่งมั่นรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะเป็นองค์กรที่สรรค์สร้างแต่สิ่งดีแก่ผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ได้ภายในปี 2573 อิเกียจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่การใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อิเกียตระหนักดีว่า ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้ง อาจเป็นภัยต่อสัตว์ป่า เช่นเดียวกับที่จะสร้างมลภาวะในมหาสมุทรและแหล่งน้ำต่างๆ หากไม่ได้ผ่านการกำจัดอย่างถูกวิธี จึงมุ่งมั่นที่จะร่วมรับผิดชอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม

อิเกียได้ประกาศคำมั่นสัญญานี้ให้ทุกคนทราบอย่างเป็นทางการในงาน Democratic Design Days ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง Älmhult ประเทศสวีเดน งานนี้รวมนักพัฒนาสินค้าอิเกียจากทั่วโลก ซึ่งจะนำเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่พัฒนาขึ้นด้วยวัสดุรีไซเคิลและนวัตกรรมต่างๆ มาจัดแสดง รวมถึงสินค้าที่เอื้อต่อการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเองก็จะได้จัดแสดงในงานด้วยเช่นกัน

พร้อมกันนี้ อิเกียยังได้ประกาศใช้กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้ชื่อ People and Planet Positive กลยุทธ์ใหม่นี้เป็นตัวกำหนดแนวทางการดำเนินงานของอิเกียทั่วโลกในด้านต่างๆ ได้แก่ การใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ** การบริหารและดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม

อิเกียตั้งใจจะควบคุมการดำเนินงานไม่ให้ส่งผลเสียต่อสภาพอากาศให้ได้ภายในปี 2573 หมายความว่า จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากกว่าที่ปล่อยก๊าซเหล่านั้นออกมา เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ อิเกียจะต้อง

  • ออกแบบสินค้าอิเกียทั้งหมดโดยใช้หลักการใหม่ ซึ่งก็คือหลักการใช้งานแบบหมุนเวียน เป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ จะต้องใช้เฉพาะวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น สินค้าของเรายังต้องเอื้อต่อการดัดแปลง ซ่อมแซม นำกลับมาใช้ใหม่ นำไปขายต่อ และนำไปรีไซเคิล ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมการสร้างของเสียจากสินค้าของเราให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • บรรจุสินค้าในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และ/หรือรีไซเคิลได้เท่านั้น
  • ยุติการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากพลาสติกซึ่งสังเคราะห์จากสารตั้งต้นจำพวกเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • เพิ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือเมนูทางเลือกที่ทำจากผักในรายการสินค้าอาหารของเรา

Torbjörn Lööf  ซีอีโอ Inter IKEA Group กล่าวว่า  ความตั้งใจของเรา คือ การเป็นองค์กรที่จะสรรค์สร้างแต่สิ่งดีแก่ผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ได้ภายในปี 2573 ขณะเดียวกันในแง่ของธุรกิจ บริษัทก็จะยังขยายตัวต่อไปตามปกติ

“ด้วยขนาดของบริษัทและขอบเขตการดำเนินธุรกิจ ผมว่าเรามีโอกาสที่จะสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้ผู้คนทั่วไปอีกกว่าพันล้านคนใช้ชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นได้ โดยไม่กระทบสิ่งแวดล้อม เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต่อเมื่อเราร่วมแรงร่วมใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการร่วมมือกันครั้งนี้ ส่วนผู้ที่จะมาร่วมสรรค์สร้างสิ่งดีๆ ไปด้วยกันกับเราก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าของเรา”

อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแฟรนไชส์อิเกียที่ดำเนินกิจการอยู่ในภูมิภาค มีสโตร์อิเกียอยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจระดับโลกนี้ด้วยเช่นกัน โดยมุ่งมั่นที่จะทำงานและปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้

  • เพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ผลิตพลังงานหมุนเวียน และใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น
  • ไม่สร้างขยะที่ต้องกำจัดด้วยวิธีฝังกลบ
  • คัดเลือกเฉพาะผู้ผลิตที่ดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมมาร่วมงานกับเราในการจัดหาและจำหน่ายสินค้าและบริการ
  • บูรณะสโตร์อิเกียที่มีอยู่เดิมและสร้างสโตร์ใหม่ รวมถึงสโตร์ที่เชื่อมกับศูนย์การค้า ให้มีลักษณะถูกต้องตามมาตรฐานอาคารสีเขียว
  • สนับสนุนการดำเนินกิจการของผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมอย่างน้อยหนึ่งรายในแต่ละตลาดที่เราเข้าไปทำธุรกิ
  • สร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้พนักงาน ลูกค้า ผู้มาเยี่ยมชมสโตร์ และชุมชนรอบสโตร์ของเราได้ใช้ชีวิตอย่า
  • สุขภาพดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

“เราต้องใช้ความมุ่งมั่นและแน่วแน่อย่างมาก เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเราก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยพยายามให้ทุกแผนกคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการทำงานของพวกเขา”

ลาร์ช สเวนสัน ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนและการสื่อสาร กล่าวและเสริมว่า

“ที่สำคัญที่สุดก็คือ การเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ด้วยสินค้าที่จำหน่ายให้แก่พวกเขา เราหวังจะได้เห็นผู้คนทั่วไปหลายล้านคนปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันในบ้านของพวกเขา ด้วยการประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ ลดการสร้างขยะ และนำขยะไปรีไซเคิลให้มากขึ้น”

ข่าวเกี่ยวข้อง

 

Stay Connected
Latest News