ปฏิเสธไม่ได้วาอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่สร้างมลพิษและผลิตขยะจำนวนมหาศาลในแต่ละปี แม้ว่าสินค้าแฟชั่นมีรูปลักษณ์ที่สวยงามเพียงใด เมื่อหมดเทรนด์หรือหมดอายุการใช้งานก็จะถูกโยนทิ้งลงถัง ทำให้หลายแบรนด์พยายามพัฒนาสินค้าของแบรนด์ที่นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Bottega Veneta เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไฮเอนด์ที่ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการส่งรองเท้าบู๊ทรูปทรงเทอะทะที่แลดูธรรมดาๆตามเทรนด์ Gorpcore ที่เน้นการใช้งานมากกว่าสไตล์ ขึ้นแสดงบนรันเวย์ Autumn/Winter 2020 ซึ่งเตะตาเหล่าแฟชั่นนิสต้าและสาวกของแบรนด์ทั่วโลก โดยความพิเศษของรองเท้าบู๊ทคู่นี้คือผลิตจากวัสดุโพลีเมอร์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และยังมีแผนจะที่นำ Thermoplastic Polyurethane ที่มีความยืดหยุ่นสูงมาใช้ผลิตส่วนที่เป็นพื้นรองเท้าบู๊ทในคอลเลคชั่น AW21 อีกด้วย
ด้านโฆษกของแบรนด์ได้กล่าวถึงพลาสติกโพลีเมอร์ว่ารองเท้าบู๊ทคอลเลคชั่นนี้สามารถย่อยสลายได้ “ภายใต้ปัจจัยเฉพาะ” ในโรงกำจัดขยะ แต่ทางแบรนด์ก็ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของวิธีการในการรีไซเคิลแต่อย่างใด
สำหรับวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตนั้น เหล่าคนในวงการแฟชั่นกำลังตั้งข้อสงสัยในเรื่องชิดของวัสดุยาง ทั้งนี้เพราะยางมีหลายประเภทที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วจะถูกจำแนกออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ยางธรรมชาติ ซึ่งได้มาจากต้นไม้ตามธรรมชาติ และยางสังเคราะห์ ซึ่งเป็นยางที่ผลิตขึ้นในห้องแลบโดยมีน้ำมันเป็นสารตั้งต้น
จากประสบการณ์ของ John Frazier ผู้อำนวยการอาวุโสแห่ง Hohenstein ที่เคยทำงานเป็นนักเคมีให้กับ Nike มา 15 ปี ให้ความเห็นว่า โดยปกติแล้วรองเท้ายางไม่ได้ผลิตมาจากยางเพียงอย่างเดียว แต่จะมีส่วนผสมของสารเร่งปฏิกิริยาและสารตัวเติมเพื่อให้ได้ตามสูตรที่ต้องการ ในขณะที่ Martin Mulvihill ผู้ก่อตั้งร่วมบริษัท Safer Made ก็ให้ความเห็นในลักษณะเดียวกันว่า “ยางธรรมชาติปกติสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แต่การนำไปผลิตเป็นรองเท้าต้องผสมสารเคมีเข้าไปเพื่อการเกาะตัว ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้มันกลายเป็นยางที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ”
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าการนำยางธรรมชาติมาใช้ในการผลิตไม่สามารถระบุได้ว่าแบรนด์นั้น ๆ ได้แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จทั้งระบบ เพราะแบรนด์ยังต้องคำนึงถึงเงื่อนไขหลังสิ้นสุดการใช้งานว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเจ้าของสินค้าจึงควรให้ความสนใจว่ายางนั้นจะมี “ความสามารถในการย่อยสลาย” เป็นอย่างไร แทนที่จะสนใจว่ามันจะมี “ความสามารถในการย่อยสลายตามธรรมชาติ” หรือไม่ นอกจากนี้ ความท้าทายต่างๆยังเกิดขึ้นกับซัพพลายเชน บางแบรนด์อาจจะไม่มีความสามารถในการสร้างความยั่งยืน จึงเป็นเหตุผลที่แบรนด์ควรจะสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อื่นๆที่มีกำลังจะบรรลุเป้าหมายนี้ในวงกว้างผ่านซัพพลายเชนที่ใหญ่ขึ้น
การที่แบรนด์ลักชัวรี่นำวัสดุใหม่ๆมาใช้ในการผลิตในรูปแบบใหม่นับเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมลักชัวรี่เนื่องจากสินค้าลักชัวรี่ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค แต่การนำเสนอโซลูชั่นที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงต่างหากที่จะทำให้แบรนด์นั้นๆเป็นผู้ชนะในตลาด นอกจากนี้ การสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างจริงใจยังคงเป็นกุญแจที่สำคัญสำหรับแฟชั่นที่มีความรับผิดชอบอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลายๆแบรนด์เริ่มลงทุนด้านความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราจะได้เห็นอนาคตของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
credit:www.voguebusiness.com/fashion/rubber-shoes-are-trending-sustainability-experts-have-doubts-bottega-veneta-matches-fashion#intcid=_voguebusiness-uk-right-rail_1b812366-c5f1-497c-a5b1-215f20f3adc5_popular4-1