เมื่อพูดถึงหมากฝรั่ง หลายคนก็มักจะมีพกไว้เพื่อใช้ลดกลิ่นปากหลังรับประทานอาหาร หรือเคี้ยวเพลินๆ ในระหว่างทำงาน และหลายคนก็คงจะยี้เวลาเห็นเศษหมากฝรั่งตามกำแพงอาคารบ้านเรือน ป้ายรถเมล์ หรือแม้แต่เสื้อผ้า ที่สร้างความรำคาญตาเป็นอย่างมาก จนบางประเทศถึงขั้นต้องออกกฎหมายห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งกันเลยทีเดียว
แต่สำหรับนักศึกษาชาวฝรั่งเศสนามว่า Hugo Maupetit และ Vivian Fischer ที่กำลังศึกษาด้านการออกแบบที่ The L’École de design Nantes Atlantique กลับคิดนอกกรอบโดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของเศษหมากฝรั่งจึงได้ต่อยอดความรู้ไปสู่การพัฒนาเศษหมากฝรั่งไปเป็นล้อสเก็ตบอร์ดที่มีสีสันสวยงาม
โดยนักศึกษาทั้งสองได้ปิ๊งวิธีในการจัดเก็บเศษหมากฝรั่งที่ปกติแล้วมักจะถูกแปะไว้ตามกำแพง หรือป้ายต่างๆ ด้วยการติดตั้งกระดานสำหรับแปะหมากฝรั่งตามบริเวณเมือง Nantes ประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้คนที่เดิ2นผ่านไปมาแปะเศษหมากฝรั่งที่เคี้ยวเสร็จแล้วลงไปบนกระดาน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดการทิ้งเศษหมากฝรั่งไม่เป็นที่เป็นทางได้ โดยเศษหมากฝรั่งเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บทุกสัปดาห์ก่อนที่มันจะแห้งติดกระดานที่ทำมาจากอะคริลิคแก้ว หรือ PMMA
Maupetit กล่าวกับ Dezeen ว่า “ในช่วงที่ทำการทดสอบ เราต้องการเศษหมากฝรั่งเพียง 10 และ 30 แผ่น ต่อ 1 ล้อ เท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของเศษหมากฝรั่งและความทนทานของล้อที่ต้องการ”
โดยปกติแล้วหมากฝรั่งจะผลิตจากยางไม้ที่หาได้ตามธรรมชาติ แต่ในปัจจุบัน หมากฝรั่งส่วนมากจะมีส่วนประกอบของยางสังเคราะห์ชื่อว่า polyisobutylene ซึ่งเป็นยางประเภทเดียวกับที่ผลิตยางรถยนต์นั่นเอง
ทั้งสองได้เล่าถึงกระบวนการในการทำล้อสเก็ตบอร์ดจากเศษหมากฝรั่งว่า เศษหมากฝรั่งที่เก็บได้จากกระดานอะคริลิคแก้วจะถูกนำมาผสมกับสารยึดเกาะและสีธรรมชาติก่อนการฉีดขึ้นรูปเป็นล้อสเก็ตบอร์ด ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 ขนาด ที่มาพร้อมกับ 3 ระดับความทนทาน เมื่อล้อดังกล่าวสึกหรอลงไป มันก็ยังสามารถถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตล้ออันใหม่ได้ ซึ่งนับเป็นกระบวนการ Closed-loop system
แม้ว่าตอนนี้ล้อสเก็ตบอร์ดจากเศษหมากฝรั่งกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในสเกลเล็กๆ แต่ทั้งคู่ก็วาดฝันไว้ว่าจะสามารถนำไปสู่การต่อยอดในการร่วมมือกับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ผลิตเครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาสเก็ตบอร์ด อย่าง Vans และ Mentos ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Perfetti Van Melli ที่ผลิตลูกอมและหมากฝรั่งในอนาคตได้
Maupetit ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆที่ต้องมีส่วนร่วมกับปัญหาในลักษณะนี้ เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดที่ทำให้เกิดขยะอุตสาหกรรม ซึ่งการรีไซเคิลขยะเหล่านี้จะทำให้เกิดวงจรที่ดี โดยบริษัทเองสูญเสียวัสดุในปริมาณที่น้อยลง และยังสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยเป็นขยะมาก่อนอีกด้วย”
SD Thailand ขอเป็นกำลังใจให้กับ Maupetit และ Fischer ในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้ เพราะเราเชื่อว่าเขาทั้งสองจะช่วยกระตุ้นให้คนอีกหลายล้านคนเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
Credit : www.dezeen.com/2021/04/20/gum-skateboard-wheels-hugo-maupetit-vivian-fischer/
