มูลนิธิฟรีแลนด์รณรงค์แคมเปญระดับโลก “EndPandemics” ที่มุ่งแสดงให้คนทั่วโลกเห็นถึง “ต้นตอ” การแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เผยต้นเหตุของโรคอุบัติใหม่ที่ผ่านมารวมทั้งโควิด-19 มาจากสัตว์ป่าเป็น “พาหะ” เสนอโรดแมป 5 ข้อให้รัฐบาลไทยเปลี่ยนจากบทบาท ”ผู้ค้า”มาเป็น “ผู้พิทักษ์” เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำของประเทศอื่นๆ ตามแนวทาง “One Health”ขององค์การอนามัยโลก
“สตีเวน กัลสเตอร์” (Steven Galster) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟรีแลนด์ องค์กรระดับสากล เพื่อต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งระเบิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่ทำร้ายผู้คนไปทั้งโลก สร้างผลกระทบในวงกว้างทั้งความตาย ความเจ็บป่วย และการชะงักงันทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลร้ายลึกกว่าภัยธรรมชาติหรือการก่อการร้ายตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา
แม้การรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย จะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ด้วยผลลัพธ์ของผู้ติดเชื้อที่ต่ำมาก และเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในโลก แต่วันนี้ประเทศไทย ยังมีประตูอีกบานที่ยังปิดไม่สนิท ซึ่งจะเปิดทางให้การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสกลับมาได้อีกครั้ง นั่นคือ “การค้าสัตว์ป่า”
“กัลสเตอร์” ชี้ว่า ประเทศไทยขณะนี้ เสมือนกำลังยืนอยู่บนทางแยก ที่เลือกได้ว่าจะเป็นแหล่งระบาดของไวรัสครั้งใหม่ หรือเลือกที่จะนำโลกไปสู่การสร้างวัคซีนธรรมชาติซึ่งให้ผลอย่างยั่งยืน ถาวร ตามแนวทาง “One Health” ซึ่งจะมีผลต่อการช่วยพิทักษ์รักษาธรรมชาติ ซึ่งวันนี้ผู้นำของโลกที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับการระบาดของโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น โรคซาร์ส (SARS), โรคไข้หวัดนก (H5N1), โรคเมอร์ส (MERS), โรคเอสด์ (HIV) และโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า 70-75% ของโรคอุบัติใหม่ เกิดจากโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน และกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสาเหตุหลักจาก “สัตว์ป่า” ที่ถูกนำออกมาจากถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ให้มาอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากกว่าที่ควรจะเป็น จากการค้าสัตว์ป่าที่เพิ่มมากขึ้น และการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ป่า
“กัลสเตอร์” และมูลนิธิฟรีแลนด์ เป็นแนวหน้าในการรณรงค์แคมเปญระดับโลก “EndPandemics” ที่มุ่งแสดงให้คนทั่วโลกเห็นถึง “ต้นตอ” ของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เพื่อป้องกันการระบาดครั้งใหม่ที่จะเป็นตัวการสำคัญในการทำลายล้างโลก ซึ่งจากความร่วมมือของ 30 องค์กรทั่วโลก มูลนิธิฟรีแลนด์ มีความเห็นว่าประเทศไทยจะเป็น “ประตู” สำคัญสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการ “ปิดตาย” ประตูการค้าสัตว์ป่า และก้าวสู่การเป็นผู้นำของประเทศอื่นๆ ตามแนวทาง “One Health” โดยการสร้างวัคซีนธรรมชาติ ที่จะช่วยพิทักษ์ชีวิตของผู้คน สัตว์ป่า และระบบนิเวศทั้งหมด
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟรีแลนด์ ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลทั่วโลก บริษัทข้ามชาติต่าง และองค์การอนามัยโลก กำลังไล่ล่าหาวัคซีนอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณมหาศาล อย่างไรก็ตาม วัคซีนตัวใหม่นี้ก็จะใช้ไม่ได้ผลกับการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นั่นหมายความว่าแพ็กเกจต่างๆ ที่ใช้เพื่อกระตุ้นและรื้อฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางแก้ที่แท้จริงจึงอยู่ที่ การสร้าง “วัคซีนที่ยั่งยืน” เพื่อหยุด “ต้นตอ” ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเหล่านี้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ และเดินตามแนวทาง “One Health” ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รณรงค์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยพิทักษ์ชีวิตของผู้คน แต่ยังรวมถึงการรักษาชีวิตของสัตว์ป่า และระบบนิเวศทั้งหมดด้วย
มูลนิธิฟรีแลนด์ เชื่อว่า ประเทศไทยจะเป็นผู้นำระดับโลก และสามารถสร้างสถิติการเป็นผู้นำโลกรายใหม่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสามารถกำจัดโรคระบาดจากสัตว์สู่คนให้พ้นจากประเทศไทย ด้วยการห้ามการค้าสัตว์ป่าทุกชนิด นอกจากนี้ จะกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถหยุดการค้าสัตว์ป่าได้
“โควิด-19 เปรียบเหมือนเราเพิ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการตัดสินใจที่ยากในเวลาอันรวดเร็ว มิฉะนั้นการระบาดครั้งต่อไปอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงกว่านี้”
ปัจจุบันประเทศไทย มีกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่บังคับใช้ในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งเพิ่มบทลงโทษผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และทำให้การซื้อขายสัตว์ป่าทำได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ป่าทั่วโลก และยังมีแนวโน้มเป็นแหล่งสำคัญของการเริ่มต้นและการแพร่กระจายของโรคระบาดจากสัตว์สู่คน
“ไวรัสชนิดร้ายแรง ไม่รู้จักความแตกต่างระหว่างสัตว์ที่ถูกซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย หรือผิดกฏหมาย ซึ่งการค้าสัตว์ทั้ง 2 รูปแบบต่างนำอันตรายมาสู่คนไทย สัตว์ป่าในประเทศ รวมถึงสัตว์ที่นำมาเลี้ยงในบ้าน ตลอดจนเป็นอันตราต่อชีวิต และเศรษฐกิจของชาติอื่นๆ” กัลสเตอร์กล่าว
ท่ามกลางการเป็นศูนย์กลางการค้าสัตว์ป่า แต่ในขณะเดียวกันประเทศไทยกลับเป็นประเทศที่มีการอนุรักษ์ประชากรเสือโคร่งในป่าธรรมชาติ ในโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง โดยมูลนิธิฟรีแลนด์ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ร่วมเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลไทย ในการค้นหาและปกป้องประชากรเสือโคร่งอินโดจีน หนึ่งในสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในโลก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ขณะที่ประเทศอื่นๆ โดยรอบ สัตว์ป่าตระกูลเสือแทบจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แต่ประเทศไทยยังสามารถฟื้นฟูจำนวนประชากรของพวกมันได้ มูลนิธิฟรีแลนด์เรียกสิ่งนี้ว่า “ความมหัศจรรย์” ซึ่งจำเป็นได้รับการบอกต่อปรากฎการณ์ดังกล่าวให้กับทั่วโลกได้รับรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูชีวิตสัตว์ป่าที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง
มูลนิธิฟรีแลนด์ ได้นำเสนอโรดแมปที่จะเปลี่ยนประเทศไทยจากทางผ่านของการค้าสัตว์ป่า สู่การเป็นผู้พิทักษ์ ชีวิตผู้คนและธรรมชาติ ประกอบด้วย
• ห้ามการค้าสัตว์ป่า
• ช่วยผู้ค้าที่ขายสัตว์ป่าถูกกฎหมาย ให้สามารถดำรงชีพในรูปแบบอื่น
• ขยายโครงการฟื้นฟูชีวิตสัตว์ป่าที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างมากขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างในระดับโลก
• นำเครือข่ายการพิทักษ์ชีวิตสัตว์ป่าแห่งอาเซียนที่มีประเทศไทยเป็นผู้นำ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง
• มอบอำนาจให้สำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน ยึดทรัพย์สินของผู้ค้าผิดกฎหมาย เพื่อนำไปเป็นทุนในการคุ้มครองธรรมชาติ