เกาะพีพีได้ชื่อว่าเป็นมรกตแห่งอันดามัน ฉายานี้ได้จากน้ำทะเลสีเขียวมรกตตัดกับหาดทรายขาวละเอียด กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี แต่การที่มีคนต่างถิ่นเข้ามาที่นี่ปีละหลายแสนคน ทำให้ธรรมชาติของเกาะพีพีบอบช้ำแสนสาหัส ที่สำคัญคือมีขยะอยู่ใต้ทะเลปะปนกับปะการังเต็มไปหมด ธรรมชาติที่งดงามได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์
หลายปีที่ผ่านมาเกาะพีพีถูกสังคมประณามว่าเป็นเกาะสกปรกมีขยะทั้งบนดินและในทะเล จนหน่วยราชการ อบต.และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องลงมาแก้ไขปัญหาขยะลอยเต็มทะเล แต่แก้อย่างไรก็ไม่หมดเพราะยังนักท่องเที่ยวแห่กันเข้ามาตลอดเวลา
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกาะพีพีจำเป็นต้องใช้มาตรการปิดเกาะชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่เกาะพีพีเงียบร้างปราศจากนักท่องเที่ยว ผู้บริการเกาะพีพีทุกภาคส่วนจึงพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส แม้รายได้จากการท่องเที่ยวจะหายไป แต่กลับเป็นโอกาสดีที่ทุกคนลุกขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจทำความสะอาดและเก็บกวาดทุกซอกทุกมุมของเกาะพีพี ฟื้นฟูธรรมชาติให้เกาะพีพีกลับมามีเสน่ห์อีกครั้ง
วันนี้ท้องทะเลเกาะพีพีเริ่มกลับมาเป็นสีเขียวมรกตงดงามดังเดิม ฝูงปลาที่เคยหนีหายไปเพราะมนุษย์มารบกวน บัดนี้ได้กลับมาแหวกว่ายอย่างเริงร่า คงไม่มีใครคิดว่าเกาะพีพีจะมีวันที่ธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้
SDThailand.com มีโอกาสพูดคุยกับประเสริฐ วงษ์นา ประธานชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพี และรองนายก อบต.อ่าวนาง หนึ่งในกำลังหลักที่ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติของเกาะพีพีให้กลับมาสวยเหมือนเดิม
ประเสริฐ วงษ์นา เริ่มสนทนาในปัญหาของเกาะพีพีว่า “ เมื่อก่อนเกาะพีพีเคยโดนประณามว่ามีขยะเยอะ แต่ 2 ปีที่ผ่านมาเราก็เห็นปัญหาเรื่องนี้จึงร่วมมือกับราชการมาบริหารจัดการเรื่องขยะ เพราะเราคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องดูแลเกาะให้สวยงามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เกาะพีพีสะอาดขึ้นมากเพราะเรามีมาตรการเรื่องขยะ แต่ก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่เราต้องการ”
SDThailand :ช่วงปิดเกาะพีพี ทางผู้บริหารทำอะไรในเรื่องขยะบ้าง
เดิมชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพีวางแผนว่าเดือนมิถุนายน จะมีโครงการเก็บขยะใต้ทะเล 19 จุด มีการระดมนักดำน้ำจากสถานที่ต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่มาเจอเรื่องโควิด-19 ก่อน จึงระงับไว้
แต่ช่วงเกิดวิกฤติโควิดนั้ น เราเห็นว่าที่เกาะพีพีไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องคนติดเชื้อเพราะเป็นเกาะปิดไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกเลย เรียกว่าเราอยู่ว่าง ๆ ก็เลยคิดแผนการเรื่องเก็บกวาดขยะทะเล ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวที่ยังติดค้างอยู่บนเกาะพีพี รวมถึงคนต่างด้าวที่มาทำมาหากินที่นี่ ชวนกันมาช่วยเก็บขยะ โดยวางแผนเก็บขยะ 3 แห่ง
SDThailand : มีที่ไหนบ้าง
แห่งแรกเป็นงานใหญ่คือเก็บขยะในทะเลตรงจุดใต้สะพานท่าเทียบเรือทั้งหมด เพราะใต้สะพานเหล่านี้มีขยะหลายรูปแบบมาก มีตั้งแต่ขยะจากช่วงสึนามิที่กวาดมาทับถมมานาน ปกติถ้าเป็นช่วงท่องเที่ยวบริเวณนี้จะวุ่นวายมากเพราะมีเรือนักท่องเที่ยวมาจอดตลอดเวลาทำให้เก็บไม่สะดวก
แต่พอเกิดวิกฤติโควิดเป็นโอกาสดีที่ไม่มีเรือมาจอด เราจึงรวบรวมนักดำน้ำตามโรงเรียนสอนดำน้ำในพีพี ฝรั่งนักท่องเที่ยวที่ติดเกาะ จิตอาสาบนเกาะ อบต.อ่าวนาง ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพี กลุ่มพิทักษ์พีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หน่วยที่ 7 กรมปกครอง เราเริ่มเก็บขยะตั้งแต่วันที่ 21-29 เมษายน ได้ขยะจำนวน 13,162 กิโลกรัม แล้วหยุดไปพักหนึ่งค่อยกลับมาเริ่มเก็บใหม่ตั้งแต่วันที่ 14-20 พฤษภาคม ได้ขยะรวมทั้งหมด 18,752 กิโลกรัม เราตั้งป้าหมายว่าจะเก็บขยะทุกชิ้นที่ใต้สะพานให้หมด
แห่งที่ 2 เป็นกิจกรรมลอกคูคลองในหมู่บ้าน ตรงบริเวณลำรางที่ขนานไปกับทางเดิน ปกติเส้นทางนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินเล่นตลอดทั้งวัน พอไม่มีนักท่องเที่ยวเราก็เลยลอกลำรางให้น้ำไหลสะดวก ไม่เช่นนั้นน้ำจะขังและส่งกลิ่นเหม็น โดยใช้งบประมาณของ อบต.อ่าวนาง 2 แสน และมีจิตอาสามาร่วมด้วย ซึ่งงานตรงส่วนนี้ทำเสร็จแล้ว
แห่งที่ 3 คือเก็บขยะตามเกาะแก่งรอบ ๆ เกาะพีพี ซึ่งปกติเกาะแก่งพวกนี้จะมีเรือนักท่องเที่ยวมาจอดวันละเป็นร้อย ๆ ลำ แต่พอช่วงโควิดไม่มีเรือสักลำ เราเลยใช้นักดำน้ำลงไปเก็บขยะได้สะดวกรวดเร็ว
SDThailand : ขยะใต้ทะเลที่เก็บได้มีอะไรบ้างและนำไปรีไซเคิลอย่างไร
ขยะที่เก็บได้จากใต้ทะเลมีหลากหลายมา เช่น ถุงพลาสติก เศษเหล็ก กระป๋อง ขวดแก้ว เศษอวน และขยะทั่วไป โดยเฉพาะใต้สะพานท่าเทียบเรือเราเจอยางล้อรถยนต์เป็นจำนวนมากเป็นยางล้อที่เรือนักท่องเที่ยวใช้เป็นกันชนเรือ แต่ตกลงทะเลไม่ได้สนใจงมขึ้นมา
ขยะส่วนใหญ่เราจะบรรทุกเรือเพื่อนำไปจัดการบนแผ่นดิน แต่บางอย่างเราก็นำมาใช้ประโยชน์ เช่นสิ่งก่อสร้างซีเมนต์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ทะเล เราร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลใช้เทคโนโลยีปลูกปะการังบนซีเมนต์ แล้วนำไปวางใต้สะพานเพื่อให้เป็นที่อนุบาลปะการัง ในอนาคตเราจะมีจุดชมปะการังหลาย ๆ แห่งให้นักท่องเที่ยวได้ชม
SDThailand : ปกติเกาะพีพีวางแผนบริหารจัดการเรื่องขยะอย่างไร
ปัญหาขยะที่เกาะพีพีมาจาก 2 ทางคือ ช่วงหน้ามรสุม เดือนก.ค.-ต.ค. มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดพาขยะจากสถานที่อื่น ๆ เข้ามาทางเกาะซึ่งเป็นปัญหาทุกปี พอเข้าช่วงเดือนพ.ย.-เม.ย. เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวปัญหาขยะมาจากนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ขยะครัวเรือน
การเก็บขยะจะแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ เช่นขยะบนแผ่นดิน เป็นขยะครัวเรือน ขยะจากนักท่องเที่ยวและจากผู้ประกอบการ อบต.อ่าวนางรับผิดชอบ โดยจ้างผู้รับเหมามาเก็บในหมู่บ้านแล้วส่งลงเรือบรรทุกขยะเพื่อลำเลียงไปยังแผ่นกินใหญ่ ตั้งแต่เวลา 22.00- 05.00 น. ซึ่งส่วนนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทั้งหมดในเกาะพีพีรวบรวมขยะอินทรีย์ไว้หน้าบ้าน เราใช้รถซาเล้งลงพื้นที่เก็บตั้งแต่ 21.00 น.เป็นต้นไป โดยเข้าไปเก็บตามจุดที่กำหนดจนหมด แล้วส่งลงเรือจัดเก็บไปส่งทางกระบี่เพื่อฝังกลบบนแผ่นดิน
ส่วนขยะที่ตกหล่นนอกเหนือจากนี้ เป็นความรับผิดชอบของชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพีและกลุ่มพิทักษ์พีพี ช่วยกันดูแลความสะอาดบนเกาะ คือจัดตั้งถังขยะเป็นจุด ๆ มีพนักงานมาดูแลและเก็บวันละ 3-4 รอบเพื่อไม่ให้ขยะล้น
นอกจากนี้ทุกวันที่15 และ30 ของเดือน ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพีและกลุ่มพิทักษ์พีพี อบต. ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน เราจะทำ Cleaning Day คือออกมาเก็บขยะอีกครั้งที่โดยแบ่งเป็นโซนรับผิดชอบ
ส่วนการเก็บขยะตามเกาะเล็ก ๆ และหาดต่าง ๆ ซึ่งเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวใช้เรือสปีดโบ๊ทจากที่ต่างๆ มาแวะพักเล่นน้ำ เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของใคร ก็มอบหน้าที่ให้ ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพีมาดูแลเรื่องขยะ และทำ Cleaning Day ทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน โดยมีอุทยานหน่วยที่ 7 มาช่วย
SD : ช่วงโควิดแพร่ระบาด ทำให้พีพีต้องปิดเกาะ แล้วรวมพลังทุกภาคส่วนมาเก็บขยะทั้งเกาะ อยากทราบว่าตอนนี้สภาพของเกาะพีพีเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้ธรรมชาติของเกาะพีพีได้กลับมาสวยงามเหมือนเดิมแล้ว ที่พีพีเราหยุดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมแล้ว แต่มีคำสั่งปิดเกาะอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 เมษายน ไม่มีเรือเข้าและออก ทำให้สภาพต่าง ๆ ที่เกาะพีพี อาทิ อ่าวต้นไทร ซึ่งในช่วงท่องเที่ยวมีสปีดโบ๊ทเข้ามาไม่ต่ำกว่าวันละ 100 -200 ลำ รวมเรือที่มาเกาะพีพีวันละไม่ต่ำกว่า 400 -500 ลำ
ในวันนี้ไม่มีเรือเหล่านี้สักลำ เลยทำให้ธรรมชาติของเกาะพีพีกลับมาเหมือนสมัยก่อน คือสวยมาก ถือว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามนุษย์ได้คืนธรรมชาติให้กับเกาะพีพี โควิด-19 อาจเป็นปัญหาของมนุษย์แต่กลับเป็นผลดีต่อธรรมชาติ
“ เมื่อธรรมชาติกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ผมก็อยากให้พวกเราทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งนี้ไว้เพื่ออนาคต”