คุณจะรักใครไม่สำคัญ แต่วันนี้คุณต้องรักษ์โลกเข้าไปด้วย เพราะโลกของเรากำลังเกิดวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และแน่นอนว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายก็ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยเฉพาะบริษัทผลิตรถยนต์ทุกค่ายที่มีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานฟอสซิลซึ่งถูกใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ไอเสียของน้ำมันคือ “ผู้ร้าย” ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทรถยนต์ทุกค่ายต้องพยายามค้นหาพลังงานสะอาดมาทดแทน
การค้นพบนวัตกรรมการขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้ากลายเป็น “พระเอก” ที่จะมาช่วยกู้โลกนี้ และเมื่อยานยนต์ไฟฟ้าได้รับการปรบมือต้อนรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม ก้าวต่อไปคือการชุบชีวิตรถคลาสสิกในระดับตำนาน ให้กลับมาโลดแล่นอยู่บนถนนของโลกยุคศตวรรษที่ 21 ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าทดแทน SD Thailand ขอยกตัวอย่างยานยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ดังระดับตำนาน ดังนี้
ซูเปอร์คาร์ม้าลำพองจากัวร์ E-type ปี 1968 คันนี้เผยโฉมครั้งแรกในฐานะราชพาหนะในพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮรี่ แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับ เมแกน มาร์เคิล ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นรถยนต์คลาสสิกที่การปรับเปลี่ยนระบบเครื่องยนต์ใหม่เป็นระบบไฟฟ้าเพื่อให้ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอน
Austin Mini Cooper S คันนี้เปิดตัวเมื่อปี 2019 สร้างเลียนแบบมินิ ออสตินปี 1960 ในวาระที่ครบรอบ 60ปีขอบรถตระกูลนี้
รถ Classic Fiat 500 convertible ปี 1957และเลิกผลิตไปเมื่อปี 1975 ล่าสุดได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Fiat 500e ที่วางจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐฯเมื่อปี 2017
จาก Volkswagen Westfalia Camper รถยนต์รุ่นคลาสสิก ของอิตาลีที่รู้จักกันในนาม Camper Van อันเป็นสัญลักษณ์ของรถแวนและหยุดผลิตเมื่อปี 2013 อย่างไรก็ตามค่ายนี้ก็ได้นำยนตกรรมคลาสสิกนี้กลับมาใหม่ในรูปโฉมของ Volkswagen campervan ที่พร้อมจะเปิดตัวในปี 2022 ด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
credit : edition.cnn.com/2018/06/29/sport/gallery/classic-e-cars-spt-intl/index.html