ดิ โอกุระ เปิดเวทีสร้างเชฟมืออาชีพให้วงการอาหารอย่างยั่งยืน

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว รร.ดิ โอกุระฉลองครบรอบ 5 ปีด้วยกิจกรรม CSR เปิดรับสมัครนิสิต นักศึกษาเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อเฟ้นหา “ต้นกล้า” เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงมาสู่วงการอาหาร และปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 กับกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องอย่างยั่งยืน เพื่อช่วยผลักดันให้นักศึกษาวิชาชีพสายอาหารได้มีเวทีแสดงความสามารถ และยังให้โอกาสในการฝึกงานกับเชฟระดับโลกอีกด้วย

 

 

โดยปีนี้โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้เปิดรับสมัครนิสิต นักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันทำอาหาร มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาการโรงแรม งานครัวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากหลายสถาบันให้ความสนใจยื่นใบสมัครเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก

การคัดเลือกผู้สมัครในรอบแรกเพื่อเข้ามาฝึกอบรมในครัวเของห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ เป็นเวลา 3 สัปดาห์นั้นค่อนข้างเข้มข้น โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกเป็นผู้บริหารของโรงแรมฯ โดยการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับ เชฟอัลวาโร โรอ์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ประจำโรงแรม ,เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัว ประจำห้องอาหารยามาซาโตะ และอรยา เต็มกษาปน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ซึ่งคัดจาก 7 คนเหลือเพียง 5 คนที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย คือ ภัสวรรณ ประกอบกิจ , ปภาวรินท์ แก่นจันทร์ , กมลชนก ขำพร้อม , ขนิษฐา พงษ์เอกวัฒน์ และภัสสร สุพลชัย

 

 

การได้มีโอกาสฝึกงานทำอาหารจริงในห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ถือว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าของผู้ที่ได้เข้ารอบที่จะได้เรียนรู้การทำงานจริงภายในครัวญี่ปุ่น ซึ่งแบ่งเป็น 5 แผนกคือ แผนกซูชิและซาชิมิ แผนกทอด แผนกต้มและตุ๋น แผนกย่าง และแผนกเทปันยากิ โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนล้วนได้รับการอบรมอย่างเข้มข้นแผนกละ 3 วันกับพ่อครัวมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญจนครบทุกแผนก นอกจากนี้ในแต่ละวัน เชฟฮางิวาระ ยังได้นัดหมายผู้เข้าแข่งขันเป็นรายบุคคล เพื่อสอนการปรุงอาหารญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด

และวันตัดสินการแข่งขันนั้น ผู้แข่งขันทั้ง 5 คน จะต้องทำอาหารบังคับ 3 อย่างคือ ซูชิ ซาชิมิ แคลิฟอร์เนียมากิ และอาหารที่สร้างสรรค์อีก 1 เมนู ซึ่งในที่สุด น้ำตาล ขนิษฐา พงษ์เอกวัฒน์ จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้คะแนนรวมมากที่สุด คว้าถ้วยรางวัลเกียติยศทำจากถ้วยสาเกไม้ ไปครอง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลใหญ่เป็นทุกไปศึกษาดูงาน 9 วัน ที่โรงแรมโฮเทล โอกุระ อัมสเตอร์ดัม รวมทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พัด อาหาร ฯลฯ.พรอ้มโปรแกรมการเรียนรู้การทำอาหารในครัวกับเชฟโอะโนะ ค็อกไมเยอร์ เชฟชื่อดังจากห้องอาหารซีเอลเบลอ ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ได้รับมิชลิน ระดับ 2 ดาวและเป็นเชฟที่ได้รับรางวัลเป็นตำแหน่ง มาสเตอร์เชฟ รวมมูลค่ารางวัลทั้งหมด 1 แสนบาท

 

เมนูรังสรรค์ของขนิษฐา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน

 

สำหรับ 2 ต้นกล้าเชฟที่ได้ชนะเลิศไปก่อนหน้านี้ก็ยังมุ่งมั่นกับการฝึกฝนประสบการณ์ในวิชาชีพเชฟ โดย“เชฟป๊อป” พิชชากร รามบุตร เป็นต้นกล้าต้นแรกได้เปิดร้านอาหารไทยที่ใข้วัตถุดิบจากชุมชน ส่วนวิศรุต อรุณศรีต้อนกล้าคนที่2 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในทีมเชฟของห้องอาหาร เอเลเมนท์ Element ซึ่งเป็นห้องอาหารระดับมิชลิน 1 ดาว ของโรงแรม ดิ โอกุระฯ

Stay Connected
Latest News