ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่คนไทยอย่างเราๆนิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อไปสัมผัสกับอุณหภูมิติดลบในต่างแดนไม่ว่าจะเป็นสวิส ญี่ปุ่น เกาหลี แต่คงไม่ใช่ออสเตรเลีย เพราะในปี2550 นักวิจัยคาดว่าแดนจิงโจ้จะไม่มีฤดูหนาวอีกต่อไปแล้ว
หน้าหนาวน่าเหงา
ทีมวิจัยร่วมมือกับกลุ่มดีไซเนอร์ในการพยายามหาเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อแสดงให้คนออสซี่เห็นสภาพภูมิอากาศในปี 2050 ซึ่งคาดว่าเกิดขึ้นในเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ โดย Dr. Geoff Hinchliffe นักวิจัย ได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าวว่า “ในอีก 30 ปีข้างหน้านี้ ฤดูหนาวจะไม่มีให้เราได้สัมผัสอีกแล้ว”
การเชื่อมโยงกับสาธารณะรับรู้
ทีมวิจัยนี้ประกอบด้วยนักออกแบบจากคณะศิลปศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) และสถาบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Institute) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ได้นำข้อมูลจาก Bureau of Meteorology and Scientific Information for Land Owner มาใช้ในการทำโครงการครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลมาแล้ว ทางทีม ANU ก็ได้เสาะหาวิธำนเสนอเพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อสาธารณะมากที่สุด
โดย Dr.Hinchliffe อธิบายเพิ่มเติมว่า “นั่นหมายถึงว่าการนำสี รูปทรง และขนาดมาใช้กับการวางองค์ประกอบเพื่อแสดงให้เห็นค่าของอุณหภูมิตลอดทั้งปีในภาพเดียว เป็นการสร้างความน่าสนใจและยังเป็นการให้รายละเอียดเพื่อเชื่อมโยงกับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนได้ด้วย”
ฤดูที่เปลี่ยนไป
ในระหว่างการสร้างเครื่องมือนั้น ทางทีมก็ได้พบสิ่งที่เกิดขึ้นคือฤดูกาลที่เคยมีอยู่จะเปลี่ยนไป “เราได้ศึกษาอุณหภูมิเฉลี่ยของแต่ละฤดูที่ผ่านมาและนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลของโครงการนี้ ซึ่งพบว่าทุกที่ไม่มีช่วงที่อุณหภูมิคงที่หรือมีฤดูหนาวที่ยาวนานเลย” Dr. Hinchliffe ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ในทางกลับกัน ทีมนักวิจัยเชื่อว่าชาวออสซี่จะได้สัมผัสเพียง 3 ฤดูคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูร้อนที่ยาวนานขึ้น หรือเรียกว่า “new summer” แทนการได้สัมผัสกับอากาศหนาว ซึ่งนักวิจัยคาดการณ์ว่าในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิในระดับที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส (หรือ 104 องศาฟาเรนไฮท์) เป็นระยะเวลายาวนาน
เครื่องมืออันทรงพลัง
นี่คงไม่ใช่การเริ่มต้นครั้งแรกที่มีเป้าหมายในการนำเสนอการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศให้แก่สาธารณะได้รับทราบด้วยวิธีการที่ได้ผล ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักวิจัยจากสหรัฐฯได้เปิดตัวแอปพลิเคชันในลักษณะเดียวกันนี้ที่เปรียบเทียบสภาพภูมิอากาศในปี 2080 ของเมืองต่างๆในสหรัฐ เทียบกับสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันของเมืองอื่นๆ เช่น สภาพภูมิอากาศของวอชิงตัน ดีซี ในปี 2080 จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับมิสซิสซิปปีตอนเหนือในวันนี้ เป็นต้น
จากการนำเสนอการพยากรณ์อากาศในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั้น เหล่านักวิจัยกลุ่มนี้ช่วยกระตุ้นคนทั่วไปสามารถเห็นถึงวิกฤติร้ายแรงของเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปัจจุบันได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันกู้โลก เพราะนี่คือสิ่งที่จะช่วยให้เราทราบถึงปัญหากันก่อนที่เราจะพบว่า Winter สุดท้ายนั้นจะอยู่กับเราอีกไม่นาน
Credit : https://futurism.com/2050-winter-no-longer-exist-australia