ที่ Cannes Lions Festival of Creativity 2018 ยักษ์ใหญ่ Unilever ลั่นให้คำมั่นสัญญาในการปรับปรุงความโปร่งใสในการทำตลาดโดยใช้ Influencer
พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมที่คล้ายกัน ช่วยกันปรับปรุงความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและปรับปรุงความสามารถของแบรนด์ในการประเมินผลกระทบ
ทั้งนี้ ขอบเขตของการตลาดโดยใช้ Influencer กำลังเติบโตเรื่อยๆ และมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในการผสมผสานในการเป็นแนวทางให้กับแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภค แต่ในทางปฏิบัติ เช่น ฟอลโลเวอร์ปลอม Bots มิจฉาชีพหรือรูปแบบธุรกิจที่ไม่สุจริตนั้น สามารถทำลายความเชื่อมั่นของทั้งระบบ Ecosystem
ดังนั้น Unilever จึงได้เรียกร้องให้เกิด “การควบคุมทุกอย่างที่เป็นไปได้” เพื่อช่วยในการหลีกเลี่ยงการกระทำผิด
บริษัทเสริมว่า นักการตลาดในปัจจุบันมีขีดจำกัด ในการมองเห็นได้อย่างแม่นยำเพื่อประเมินโปรแกรม Influencer อย่างถูกต้อง และติดตามการมีส่วนร่วมที่แท้จริง Unilever กำลังมองไปที่การทำงานกับแพลตฟอร์มด้านสังคมเพื่อการมองเห็นที่เพิ่มขึ้น และมีความโปร่งใสขึ้น
“ที่ Unilever เราเชื่อว่า Influencer คือช่องทางที่สำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ของเรา อิทธิพลของพวกเขามาจากเบื้องลึก น่าเชื่อถือ และเชื่อมโยงไปยังผู้คนโดยตรง แต่การปฏิบัติบางอย่าง เช่น การซื้อฟอลโลเวอร์ สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้อย่างง่ายดาย”
Keith Weed CMO แห่ง Unilever กล่าวในเทศกาล Cannes ว่า ในวันนี้เรากำลังประกาศคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนในการสนับสนุน และยังคงรักษาความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของการตลาดโดยใช้ Influencer
“หลักการปรับปรุงสถานการณ์นั้น ประกอบด้วย แก้ไขโครงสร้าง Influencer โดยการกำจัดการมีส่วนร่วมที่เข้าใจผิด สร้างให้แบรนด์และ Influencer ตระหนักมากขึ้นถึงการกระทำทุจริต และปรับปรุงเรื่องความโปร่งใสจากแพลตฟอร์มทางสังคมเพื่อช่วยให้แบรนด์ประเมินผลกระทบได้เราต้องนำมาปฏิบัติอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นใหม่ ก่อนที่มันจะหายไปตลอดกาล”
Weed เสริม Unilever ถือเป็นหนึ่งในบริษัทโฆษณาขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการลงทุนกับแบรนด์และการตลาดต่อปีกว่า 7 พันล้านยูโร นอกจากนี้ Weed ยังได้ให้คำปฏิญาณในเดือนกุมภาพันธ์ว่า จะไม่ร่วมงานกับแพลตฟอร์มที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง แบ่งแยกหรือล้มเหลวในการปกป้องเด็กๆ คำสัญญาที่ถูกกล่าวขึ้นในงานเทศกาล Cannes เพื่อเน้นย้ำเรื่องการร่วมงานกับแพลตฟอร์มที่มีความรับผิดชอบนั่นเอง
บริษัทยังสร้างคำมั่นสัญญาด้าน #Unstereotype เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางเพศในการตลาดผ่าน Multi-Million-Dollar Content Partnerships ได้แก่ กลุ่มเต้นเพลงป็อปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ชื่อว่า Now United ซึ่งเป็นกลุ่มเต้นเพลงป็อปกลุ่มแรกของโลกที่ประกอบไปด้วยนักเต้น 14 คนจาก 14 ประเทศ ที่ถูกรวมกลุ่มโดย Simon Fuller จากรายการ American Idol และ So You Think You Can Dance? โดย 3 ปีของ Unilever ในการเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มเต้นผ่านแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายยี่ห้อ Rexona นำเสนอ Influencer ในสื่อสังคมออนไลน์ให้กับบริษัท โดยจะรู้จักในชื่อที่ต่างกัน เช่น Sure, Degree และ Shield ขึ้นอยู่กับตลาด
“ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน บริษัท สินค้าอุปโภคบริโภคที่ใส่ใจต่อสังคม และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในวันนี้แบรนด์ของ Unilever เช่น Rexona เจาะผ่านกระแสอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการแถลงการณ์เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างจริงจัง ผมจึงอยากให้เรามีจิตวิญญาณของการเป็นผู้บุกเบิก กำหนดทิศทางใหม่ในการมีส่วนร่วมกับความบันเทิง พร้อมทั้งฉลองความหลากหลายและรวมเข้าด้วยข้อความอันทรงพลังแห่งความสามัคคีและความเป็นบวกเราจึงอยากแบ่งปันพลังบวก และความตื่นเต้นไปสู่ผู้ฟังของเราทั่วโลกผ่านการมีส่วนร่วมด้านดนตรีและการเต้นที่มี Rexona เป็นพันธมิตรของเรา”
Fuller กล่าวต่อเนื่อง เป้าหมายของการเป็นพันธมิตรก็คือ การให้การสนับสนุนและร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดึงดูดและสนุกสนานเพื่อนำ #Unstereotype มาสู่การใช้ชีวิตสำหรับคนหนุ่มสาวในฐานะที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ Unilever หวังว่าจะขับเคลื่อนคอนเทนต์ #Unstereotype อย่างต่อเนื่องผ่านการเป็นพันธมิตรใหม่และคอนเท้นท์กระแสหลัก โดยหนึ่งในส่วนประกอบหลักของบริษัทคือสตูดิโอเต้น the Now United Rexona ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการเต้นและสอนเต้นใน YouTube
“เราจะร่วมสร้างคอนเท้นท์ผ่านหลากหลายช่องทางที่จะเป็นการรวมวัฒนธรรมที่แตกต่างไว้ด้วยกันผ่านสเตปการเต้นที่สนุกสนานและสร้างแรงบันดาลใจให้คนเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น โดยแคมเปญนี้จะเข้าถึงคนหนุ่มสาวกว่าล้านคนด้วยข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับความเท่าเทียมและความอดทน พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวให้มีความภูมิใจในตัวตนของตัวเอง” คำแถลงข่าวของ Unilever
ในขณะเดียวกัน ในการร่วมมือกันที่ได้รับการประกาศไปก่อนหน้านี้ Dove มีข้อตกลงกับรายการโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมอย่าง Cartoon Network Steven Universe ด้วยการร่วมมือกัน Dove กำลังทำงานร่วมในการสร้างสรรค์การนำเสนอการสร้างโปรแกรมต้นฉบับโดยใช้คาแรกเตอร์ของ Steven Universe เพื่อให้ความรู้และสร้างความมั่นใจให้กับรูปร่างในยุคต่อไปซึ่งจะช่วย Dove ขยายการเข้าถึงคนหนุ่มสาว 40 ล้านคนที่มีความภาคภูมิใจในตนเองภายในปี 2020
“ในฐานะที่เป็นนักการตลาด เราได้คุยเรื่องการเข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุดมาเป็นเวลานานแล้ว ถึงเวลาที่เราจะให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันด้วยการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของคนให้มากที่สุด” Aline Santos รองประธานบริหารด้านการตลาดระดับโลกและหัวหน้าฝ่าย Diversity and Inclusion กล่าว
“นั่นหมายถึง การจัดลำดับความสำคัญของความถูกต้องมากขึ้นของตัวละครและโครงเรื่องของเราและทำให้มากขึ้น เพื่อจับภาพความสมบูรณ์และความหลากหลายของโลกที่เราอาศัยอยู่ ทั้งนี้จากภาพยนตร์และรายการทีวีไปจนถึงเว็บชุดและ Podcasts เราต้องทำงานร่วมกับวงการบันเทิงเพื่อร่วมสร้างคอนเท้นท์ที่เราภูมิใจในการสนับสนุนด้วยการลงทุนด้านสื่อของเรา”
ที่มา
