‘มีมากจนจำไม่ได้’ กลุ่มเซ็นทรัล จับมือ หอการค้า แก้ Painpoint ‘ฉลากสินค้ารักษ์โลก’ ผ่านโครงการ ‘ฮักโลก’ (Hug The Earth) พร้อมร่วมกระตุ้นตลาดสินค้า Eco-product ทั้งจากฟากผู้ผลิตและฟากผู้บริโภค

จากการเติบโตของกระแสรักษ์โลก ความกังวลต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งเงื่อนไขและมาตรฐานการค้าต่างๆ ทำให้มีการนำเกณฑ์ชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็นปัจจัย​ในการขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิต โรงงาน แบรนด์สินค้า หรือหน่วยงานต่างๆ ​นำมาตรฐานเพื่อ​รับรองความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด เช่น การใช้ ‘ฉลากรักษ์โลก’ มาสร้างความมั่นใจให้กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อได้เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีมาตรฐานการรับรอง Eco-friendly Product โดยเฉพาะ ‘ฉลากรักษ์โลก’ ​ที่มีหลากหลายประเภท และหลากหลายมาตรฐานในการรับรอง ขณะที่การรับรู้ของผู้บริโภคต่อมาตรฐานต่างๆ ยังไม่ทั่วถึง ประกอบกับตำแหน่งการแสดงมาตรฐานบนสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้เด่นชัด หรือเป็นที่สังเกตุ ทำให้​ที่ผ่านมาอาจไม่สามารถสร้างการรับรู้หรือสร้างการจดจำได้ดีมากนัก

นำมาสู่ความร่วมมือของสองผู้นำในภาคธุรกิจและค้าปลีกของประเทศไทยอย่าง ‘หอการค้าไทย’ และ ‘กลุ่มเซ็นทรัล’ นำร่องโดย เซ็นทรัล รีเทล (CRC) และกลุ่มธุรกิจในเครือ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายทั้งจากภาครัฐและเอกชน แบรนด์สินค้ากว่า 60 แบรนด์ ในการนำสินค้าต่างๆ ที่ได้รับการรับรองฉลากรักษ์โลกประเภทต่างๆ กว่า 3,000 รายการ ซึ่งถือเป็น Key Partners ของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงการ ‘ฮักโลก’ (Hug The Earth) ​พื้นที่​แสดงสินค้าที่รวบรวมและคัดสรรสินค้าต่างๆ ที่มีฉลากสิ่งแวดล้อมหรือฉลากรักษ์โลก​ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและสังเกตุเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น​ และเพิ่มโอกาส​ในการสนับสนุนสินค้ารักษ์โลกได้​สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยมีสัญลักษณ์ ‘ฮักโลก’ หรือ Hug The Earth​ ซึ่งเป็นรูปมือกำลังโอบกอดโลก สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจโลกอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัล โดยเซ็นทรัล รีเทล ถือเป็นรีเทลรายแรกของประเทศไทย ที่เข้าร่วม​นำร่องโครงการ​ฮักโลกโดยจัดสรรพื้นที่จำหน่ายหรือแสดงสินค้าที่มีฉลากรักษ์โลกภายในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าในเครือ อาทิ ไทวัสดุ เพาเวอร์บาย เซ็นทรัล โรบินสัน ท็อปส์ โกโฮลเซลล์ บีทูเอส ออฟฟิศเมท ซูเปอร์สปอร์ต ซีเอ็มจี เป็นต้น โดยมีแผน​เดินหน้าขยายผลผ่านเครือข่ายสมาชิกหอการค้า รวมทั้งเครือข่ายค้าปลีกทั่วประเทศ เพื่อร่วมขับเคลื่อนและกระตุ้นการซื้อสินค้ารักษ์โลก​ให้กลายเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานใหม่ของสังคมไทยในอนาคต

โดยในช่วงคิกออฟโครงการได้มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นยอดขายสินค้ากลุ่มรักษ์โลก ผ่านการมอบส่วนลดพิเศษ รวมทั้งการแจกคะแนน The1 เพิ่มเติม สำหรับการซื้อสินค้ารักษ์โลกตามเงื่อนไข เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและลดอีกหนึ่ง Painpoint สำคัญของผู้บริโภคที่มองว่าสินค้ารักษ์โลกจะต้องมีราคาแพงทำให้จับต้องได้ยาก เนื่องจาก สินค้าที่ได้รับฉลากด้านสิ่งแวดล้อมหลายรายการในปัจจุบันไม่ได้มีราคาที่แตกต่างไปจากสินค้าทั่วไปแบบมุมมองหรือทัศนคติแบบเดิมๆ ที่ลูกค้าเคยเข้าใจ

คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด “Connect-Competitive-Sustainable”  โดยเฉพาะ​มิติ​ Sustainable เพื่อยกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับผู้ประกอบการผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และ เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) โดยมีเป้าหมาย​​เปลี่ยนผ่านสู่ ระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ (Nature Positive Economy) ซึ่งการริเริ่มโครงการฮักโลก เป็นการขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายที่วางไว้ ผ่านการกระตุ้นความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการถึงความสำคัญของสินค้ารักษ์โลก รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายโดยให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมรักษ์โลกได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มการเลือกซื้อสินค้าฉลากรักษ์โลกอย่างเข้มข้นและเป็นรูปธรรม

คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล และ กรรมการและกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธุรกิจบริการ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกอย่าง CRC ที่มีปรัชญาสำคัญ​ในการดำเนินธุรกิจอย่าง CRC Care เพื่อมุ่งสู่ Green & Sustainable Retail and Wholesale อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการ​ยกระดับทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งอีโคซิสเต็ม และพิชิตเป้าหมายสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ผ่าน กลยุทธ์ CRC ‘ReNEW’ ภายใต้ 4 ทิศทางการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น ​Reduce Greenhouse Gas Emissions การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  Navigate Environmental Responsibility สร้างทักษะและปลูกฝังความรับผิดชอบด้าน ESG ให้กับพนักงานทุกระดับ Eco-Friendly Materials การส่งเสริมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Waste Management Solutions การบริหารจัดการขยะมูลฝอย

“การขับเคลื่อนโครงการฮักโลก ถือเป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนตามกลยุทธ์ ReNEWโดยเฉพาะในมิติ ​Responsible Sourcing หรือการจัดหาสินค้าเพื่อมาจำหน่ายอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบทั้งในฟากผู้บริโภคที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินค้ารักษ์โลกได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยกระตุ้นยอดขายกลุ่มสินค้ารักษ์โลก ซึ่งจะเพิ่มการสร้าง Positive Impact ให้โลกได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันยังเป็นการผลักดันให้ฟากผู้ผลิตให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ในตลาด รวมทั้งสอดคล้องกับทิศทางของธุรกิจในอนาคตที่จะมีการคำนึงถึงการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission) เพิ่มมากขึ้น และเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญ โดยได้เริ่มพัฒนาและใช้งานแพลตฟอร์ม ReNEW Data Platform เพื่อจัดเก็บข้อมูลทั้งการใช้พลังงาน การจัดการขยะ รวมทั้งการปลดปล่อย Carbon Emission ภายในธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อทราบปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ของทั้งองค์กร (CFO) เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนและขับเคลื่อนกลยุทธ์ Decarbonization เพื่อให้ธุรกิจภายในเครือมุ่งสู่ Net Zero ได้ตามเป้าหมาย”​

​เห็นได้ว่าโครงการฮักโลก​ หรือ Hug The Earth  นับ​เป็นจุดเริ่มต้นและการสร้างโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกในการแสดงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนด้วยการส่งเสริมและจัดจำหน่ายสินค้าฉลากรักษ์โลก ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมใส่ใจโลกอย่างยั่งยืนระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคทุกคน

Stay Connected
Latest News

‘มีมากจนจำไม่ได้’ กลุ่มเซ็นทรัล จับมือ หอการค้า แก้ Painpoint ‘ฉลากสินค้ารักษ์โลก’ ผ่านโครงการ ‘ฮักโลก’ (Hug The Earth) พร้อมร่วมกระตุ้นตลาดสินค้า Eco-product ทั้งจากฟากผู้ผลิตและฟากผู้บริโภค