เดินหน้าจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว สำหรับ ‘Sustainability Expo 2024′ (SX 2024) เป็นงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน บนพื้นที่จัดงานรวมกว่า 70,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
โดยยังได้รับความร่วมมือจาก 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำ ต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) , เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในการร่วมขับเคลื่อนแพลตฟอร์มแห่งความเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคตให้โลกน่าอยู่และยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
คุณต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) ให้ข้อมูลว่า การจัดงานในปีนี้ยังยึดแนวทาง “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) มาเป็นแนวทางในการจัดงานด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ผนวกกับหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ (UNSDGs) มาสู่การปฏิบัติจริงในทศวรรษแห่งการลงมือทำ จนเกิดเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ โดยเป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดการปฏิบัติ และเปลี่ยนแปลงร่วมกัน ภายใต้แนวคิด “Good Balance, Better World สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า” เนื่องจากมองว่าเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน
“งาน Sustainability Expo จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระดับภูมิภาค นำเสนอองค์ความรู้ ไอเดีย เทรนด์นวัตกรรม และเทคโนโลยี ผลักดันการลงมือทำ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง พร้อมรูปแบบการจัดงานแบบไฮบริด ที่มีการถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้คนต่างจังหวัดหรือผู้ไม่ได้เดินทางมาในงานสามารถเข้าถึงเนื้อหาการจัดงานได้เช่นกัน โดยมีแนวทางการจัดงานในรูปแบบ B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ที่ยึดผู้บริโภคศูนย์กลางโดยเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค และผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ เพราะการทำงานเรื่องความยั่งยืน จำเป็นต้องเข้าถึงผู้บริโภคได้ในระยะยาว ขณะที่องค์กรขนาดใหญ่จะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้หรือ Practice เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญ จนเกิดเป็นแรงกระเพื่อมให้บริษัทหรือภาคธุรกิจอื่นๆ หันมาให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างผลลัพธ์ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน”
สำหรับการจัดงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมา งาน Sustainability Expo สามารถสร้างให้เกิดเป็นแพลตฟอร์มและ Destination จุดนัดพบด้านความยั่งยืน ที่สามารถจุดประกายให้เกิดการลงมือทำได้จริงโดยได้ดึงดูดผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความยั่งยืนภายในงานได้มากกว่า 8.27 แสนคน โดยเฉพาะการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้กือบ 5 แสนคน ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนมากกว่า 5.2 หมื่นคน รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยได้มากกว่า 66 ล้านบาท ขณะที่การพัฒนาแอปพลิเคชั่น SX App ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Community ที่พัฒนาขึ้น โดยมีสมาชิกอยู่ในแพลตฟอร์มจากการดาวน์โหลดมากกว่า 1.73 แสนครั้ง
“การจัดงานในปีนี้ได้ขยายระยะเวลาการจัดงานเป็น 10 วัน รวมทั้งการออกแบบกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ การมีส่วนร่วม รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และนำมาสู่การลงมือทำจริง โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 600 รายทั่วโลก และเครือข่ายธุรกิจยั่งยืนจากบริษัท และองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง เพื่อมาให้ความรู้หลากหลายด้าน พร้อมแนวคิดที่น่าสนใจ รวมถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ให้โลกเกิดความสมดุล รวมทั้งการต่อยอดความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจภายในงาน โดยตั้งเป้าผู้มาร่วมงานภายในปีนี้ไว้ตลอดการจัดงานทั้ง 10 วัน ไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน รวมท้ังเป้าหมายในการขับเคลื่อนให้เกิดการลงมือทำ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันประเทศสู่เป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และ Net Zero ภายในปี 2065”
10 วัน 10 ไฮไลท์
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ตลอดทั้ง 10 วัน ผู้เข้าชมงานจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งอัพเดทเทรนด์ ไอเดีย เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงต้นแบบในการพัฒนาเมือง ชุนชนที่ยั่งยืน ผ่านการบรรยาย เสวนา เวิร์คช็อป นิทรรศการ ศิลปะ ตลอดจนอาหารแห่งอนาคต จากทั้ง 10 โซนหลัก ประกอบด้วย
1) โซน SEP INSPIRATION พบองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำปลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมทั้ง Prologue นิทรรศการ Immersive Experience สะท้อนทุกมุมมองปัญหาจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดและกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบความหวังและหนทางไปต่อจากคนที่ลงมือทำจริงเพื่อโลก เพื่อสร้างความตระหนักว่าเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน
2) โซน Better Me เตรียมพร้อมในทุกก้าวของชีวิต…สู่การสร้างวิถีที่ยั่งยืน โดยปีนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Mr. Muse หุ่นยนต์โรโบเทสเปียน ฮิวมานอยด์อัจฉริยะ รวมทั้งอัพเดทเทรนด์อาหารแห่งยุค เพื่อเตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข
3) โซน Better Living วิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำที่ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การลดการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน
4) โซน Better Community การสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ผ่านผลงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชนจากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ระดับบุคคลไปจนถึงหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเมืองน่าอยู่แห่งอนาคตจากองค์กรชั้นนำ
5) โซน Better World ศิลปะสร้างค่า สู่สมดุลโลก โซนนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม และผลงานศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย
6) โซน SX Food Festival ปีนี้มาในธีม Back to The Future มหกรรมด้านอาหารยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี พาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่อนาคตด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบกับ Celebrity Chefs มากมาย รวมถึงผู้ประกอบที่สร้างสรรค์เมนูอาหารที่ช่วยสร้างสมดุลที่ดีต่อโลกและดีต่อคุณ
7) โซน Kids Zone พื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการและกิจกรรม “ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้” พบกับความรู้ต่างๆ ที่เสริมสร้างจิตนาการ เสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ โดยมีไฮไลท์คือนิทรรศการ Biodiversity Exhibition รู้ รักษ์ พิทักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ
8) โซน SX MARKETPLACE ตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน พบปะผู้ประกอบการตัวจริงท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมือง แบ่งโซนให้สายกรีน สายคราฟ และสายช้อป ได้ร่วมอุดหนุนร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 280 ร้านค้า
9) SX REPARTMENTSTORE พื้นที่สำหรับส่งต่อสิ่งของนอกสายตา เพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคมและยังได้ชอปสินค้ามือสองคุณภาพดี เพื่อนำรายได้มอบให้การกุศล นอกจากนี้ยังมีเป็นจุด drop off บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและขยะอื่น ๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการอย่างถูกวิธีหรือนำกลับสร้างคุณค่าใหม่ได้อีกครั้ง
10) B2B Event งานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืน บริเวณชั้น 2 พื้นที่รวบรวมงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจ เพื่อความยั่งยืนที่เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนตอบโจทย์ทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม จากธุรกิจชั้นนำในภูมิภาค โดยจะได้พบกับ Sustainable Society and Solution Summit โดย Nikkei BP, Chief Sustainability Officers (CSO) Forum, ASEAN Circular Economy Forum, SE Forum และ Australian Green Economy Mission to Sustainability Expo Thailand โดย Australian Trade ที่จะพาคุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมพลิกโฉมธุรกิจของคุณไปสู่ความยั่งยืน
งาน Sustainability Expo (SX2024) จะจัดขึ้นระหว่าง 27 กันยายน- 6 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) “เพราะความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน” มาร่วมกันเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมมากมาย พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิด และไอเดียสุดเจ๋งด้านความยั่งยืนกับวิทยากรชื่อดัง ศิลปิน และเหล่าไอดอลจากทุกแวดวง ตื่นเต้นไปกับสุดยอดนวัตกรรมกอบกู้โลกให้คุณได้เรียนรู้ และพร้อมปรับตัว เพื่อความอยู่รอดในวิถีชีวิตประจำวันยุคโลกเดือดได้อย่างมีความสมดุล