เริ่มแล้ว! งานใหญ่แห่งปี ในงานสัปดาห์แห่งความยั่งยืน SETA 2024 และ SustainAsia Week 2024 ภายใต้แนวคิด “Low Carbon & Sustainable ASEAN Economy”
จัดโดย บริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงพลังงาน สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรุงเทพมหานคร และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคม 2567 ณ ฮอลล์ EH100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ประธานการจัดงาน SETA 2024 และ SustainAsia Week 2024 เปิดเผยว่า เวทีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในยุคที่อุตสาหกรรมพลังงานกำลังเผชิญกับความท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต และผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ทั้งนี้ หลังปี ค.ศ. 2040 เทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ (CCS) และเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอน การใช้ประโยชน์และการกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ (CCUS) จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่เป้าหมายดังกล่าว และที่สำคัญงานนี้จะเป็นโอกาสที่ไทยและนานาชาติจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดและไฟฟ้าสีเขียว เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ลดมลพิษ และสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานและเศรษฐกิจ
“เราให้ความสำคัญและเล็งเห็นเป้าหมายที่จะมุ่งสร้างทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานของอาเซียนและเอเชีย โดยงานนี้จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองความคิด เพื่อผลักดันอนาคตของพลังงานที่ยั่งยืนไปด้วยกัน จากผู้ร่วมแสดงนิทรรศการมากกว่า 300 บริษัท จาก 50 กว่าประเทศทั่วโลก ที่มุ่งมั่นการเปลี่ยนถ่ายการใช้พลังงานโดยเทคโนโลยีสะอาด ให้มีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และลดการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง” ศ.ดร.พิสุทธิ์ เผย
ภายในงาน ได้จัดนิทรรศการเทคโนโลยีด้านพลังงานและการขนส่งยุคใหม่สุดล้ำ และการประชุมสัมมนาวิชาการเกาะติดเทรนด์สุดฮอตของโลก ไฮไลท์สำคัญ การประชุม “Asia CCUS Network Forum” ครั้งที่ 4 ผลักดันเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศในภูมิภาค พร้อมเปิดเวที “โครงการขับเคลื่อน มองไกล เพื่อชุมชนที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาด” หนุนท้องถิ่นมีส่วนร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมการจัดงาน 7 งานภายใต้แนวคิดหลัก Low Carbon & Sustainable ASEAN Economy ประกอบด้วยงานดังนี้
1.) งานแสดงพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย (Sustainable Energy Technology Asia 2024 : SETA 2024)
2.) งานแสดงเทคโนโลยีแสงอาทิตย์และระบบการกักเก็บพลังงาน (Solar+Storage Asia 2024 : SSA 2024)
3.) งานยานยนต์อนาคตของเอเชีย(Sustainable Mobility Asia 2024 : SMA2024)
4.) งานฟอรั่มในระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำ ในภาคตะวันออกและอาเซียน The Fourth Asia CCUS Network Forum (ACNF#4) จัดภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งอาเซียน ERIA และ IEEJ ประเทศญี่ปุ่น
5.) งานประชุมวิชาการเรื่องเซลล์แสงอาทิตย์ไทย ครั้งที่ 1 (The Thai Photovoltaic Science and Engineering Conference :Thai PVSEC-1) โดยคณะกรรมการ PVSEC-36 สมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย และ SETA เพื่อสร้างเวทีนําเสนอผลงานทางวิชาการเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ของ ประเทศไทย และการเตรียมความพร้อมสําหรับการจัดงาน PVSEC ครั้งที่ 36 โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน
6.) Energy job fair : Energy Job Fair เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ค้นหางานที่น่าสนใจกว่า 5,000 ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน, พลังงาน CSR และเทคโนโลยี พร้อมด้วยกิจกรรมให้ความรู้อย่างและตัวช่วยในการสมัครงาน (Resume Clinic) จาก Jobsdb by SEEK และไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกมากมาย
7.) Sustainable Day : Leave Your Carbon Behind, Not People. พื้นที่กิจกรรมและเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนในแง่มุมของธุรกิจกับความยั่งยืนว่า ในโลกที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมหรือเศรษฐกิจก็ตาม กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยหรือมีความเปราะบางทางสังคมจะได้รับผลกระทบก่อนเป็นกลุ่มแรกเสมอ พื้นที่กิจกรรมนี้จึงตอกย้ำความตั้งใจที่ว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถก้าวไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อม และผู้คนในสังคมได้อย่างยั่งยืนโดยไม่จำเป็นต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง
อีกหนึ่งเวทีที่น่าสนใจ คือ โครงการขับเคลื่อน มองไกล เพื่อชุมชนที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาด (Empowering Communities: Engaging Citizens in Local Sustainability Initiatives) โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของผู้นำในระดับท้องถิ่น จึงจัดทำโปรแกรมให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อการตระหนัก เรียนรู้ และการสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้จริง ในการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อพลังงานสะอาด เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนไปพร้อมกับทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน SustainAsia Week 2024 ระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ รวมกว่า 15,000 คน จาก 55 ประเทศทั่วโลก เปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาขยายเครือข่ายทางธุรกิจ และแสดงศักยภาพของประเทศไทยในตลาดพลังงานเพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
ติดตามความเคลื่อนไหว และไม่พลาดโอกาสเชื่อมต่อทางธุรกิจและความร่วมมือกับผู้นำด้านพลังงานและความยั่งยืนได้ที่เว็บไซต์ www.setaasia.com www.SolarStorageAsia.com และ www.sustainasiaweek.com