บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ N Health (เอ็นเฮลท์) ในเครือ BDMS ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์หรือห้องแล็บ งานสนับสนุนทางการแพทย์ และธุรกิจโรงพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลชั้นนำ เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับสุขภาพหญิงไทย จึงได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ “ตรวจมะเร็งปากมดลูกให้หญิงไทย อายุ 30-59 ปี ด้วยวิธี HPV DNA Test แบบ Self-Collection ฟรีทั่วประเทศ” ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้การส่งมอบบริการไปยังประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการเข้าถึงบริการการตรวจคัดกรองมากยิ่งขึ้น ผ่านเครือข่ายและศูนย์ให้บริการตรวจสุขภาพที่ได้มาตรฐานของ N Health ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
มะเร็งปากมดลูก เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทย จากสถิติของกรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย โดยมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละกว่า 5,000 คน เฉลี่ยวันละ 13 คน โดยร้อยละ 85 ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์จะได้รับเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นกลุ่มมะเร็งประเภทที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ แต่อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงไทยไม่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากความเขินอายในการขึ้นขาหยั่ง ไม่มีอาการของโรค รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจคัดกรอง และให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัวมากกว่าตนเอง ซึ่งการรอให้อาการปรากฏ อาจนำไปสู่ผลร้ายแรงต่อชีวิต
นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) กล่าวว่า “บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น จึงจับมือกับสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมเป็นหนึ่งในพลังบูรณาการโครงการรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกให้กับประชาชน เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึง ด้วยการให้บริการผ่านเครือข่ายและศูนย์ให้บริการตรวจสุขภาพที่ได้มาตรฐานของ N Health ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ส่งผลให้การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เป็นเสมือนของขวัญที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้หญิงไทย สามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิ์รับบริการได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมทั้งประเทศ”
ปัจจุบัน N Health มีหน่วยที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจวิเคราะห์ HPV DNA จำนวน 5 หน่วยครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วไทย ทั้งกรุงเทพ ระยอง อุดรธานี เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ภายใต้ชื่อ คลินิกเทคนิคการแพทย์ N Health (เอ็นเฮลท์) โดยการออกหน่วยเชิงรุกนี้ดำเนินงานเป็นพันธมิตรร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ (ศบส.) ของสำนักอนามัยกรุงเทพฯ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน คลินิกชุมชนที่เข้าร่วมกับสปสช. หรือ กลุ่มคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น เป็นต้น
การตรวจ HPV DNA แบบ Self-Collection จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจให้แก่ผู้หญิงไทยในการตรวจหาเชื้อ HPV เนื่องจากสามารถเก็บตัวอย่างได้ด้วยตนเอง ลดความรู้สึกอายและความไม่สะดวกในการพบแพทย์ N Health ยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ในฐานะผู้ให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกถึงสถานที่ขององค์กรต่าง ๆ โดยผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องหยุดงาน ภายใต้งบประมาณที่กรุงเทพมหานครดูแลให้กับประชาชน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันเรามีส่วนร่วมทั้งกับภาครัฐและบริษัทเอกชนในการประชาสัมพันธ์ และออกหน่วยเชิงรุกในสถานที่ต่าง ๆ เราสามารถให้บริการได้ทุกที่โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของผู้รับบริการ โดยให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรีตามโครงการของภาครัฐไปแล้วกว่า 8,000 ราย และคาดหวังที่จะผลักดันไปให้ได้อย่างน้อย 100,000 รายในปีนี้”
“N Health มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสนับสนุนโครงการนี้ เพื่อร่วมดูแลหญิงไทยให้มีสุขภาพดี พร้อมช่วยส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียมสำหรับประชาชนไทย ซึ่งเราหวังว่า โครงการนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน สร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายของโรคนี้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะนำพาให้ผู้หญิงไทยห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก” นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวสรุป
เพราะผู้หญิงคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรและสังคมไทยให้ก้าวหน้า N Health เปิดโอกาสให้องค์กรที่ต้องการดูแลสุขภาพของบุคลากรสตรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรที่ใส่ใจสุขภาพ สามารถติดต่อร่วมจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรีในองค์กรหรือชุมชน ผ่านแผนกลูกค้าสัมพันธ์ของ N Health โทร 02-7624-000 เพื่อร่วมกันแสดงถึงการให้ความสำคัญต่อสุขภาพผู้หญิงไทย เพราะสุขภาพที่ดีเป็นรากฐานของชีวิตที่มีความสุข ยืนยาว และส่งผลถึงเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็ง
