กลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและบริการ อันดับ 1 ในไทย นำโดย เซ็นทรัล รีเทล, เซ็นทรัลพัฒนา, โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ให้บริการ “Cross-Border QR Payment”
อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลาว และ ฮ่องกง ชำระค่าสินค้าและบริการข้ามพรมแดนด้วยการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันมือถือของธนาคารพันธมิตร สะดวก รวดเร็ว ลดการถือเงินสด ปลอดค่าธรรมเนียมในการใช้จ่าย ช่วยเติมเต็มความสุขครบทุกไลฟ์สไตล์ ภายในห้างร้าน, ศูนย์การค้า, โรงแรม, ร้านอาหาร ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล มากกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ
ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญด้านบริการทางการเงินมาก และนับเป็นก้าวสำคัญของการเงินดิจิทัลที่ ธปท. พร้อมธนาคารพันธมิตร ได้ริเริ่มพัฒนาให้เกิดบริการชำระเงินรายย่อยผ่าน QR แบบทันที หรือ Cross-border QR payment ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินแบบทันที (Instant payment) ของไทยคือระบบพร้อมเพย์ กับระบบการชำระเงินแบบทันทีของประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกันมาก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในการชำระค่าสินค้าและบริการด้วย QR Code ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการในยุคสังคมไร้เงินสด และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับธุรกิจและร้านค้ารายย่อยในการรับชำระเงินด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าการรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ปัจจุบัน ธปท. ได้ผลักดันให้เกิดบริการ Cross-border QR payment ไปแล้ว 8 ประเทศ/เขตการปกครอง ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลาว และ ฮ่องกง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน โดยปีที่ผ่านมามียอดการใช้งานรวมประมาณ 722,000 รายการ และมีมูลค่าการใช้งานรวมประมาณ 596 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการร่วมผลักดันและประชาสัมพันธ์บริการของ ธปท. ธนาคารพันธมิตร และภาคเอกชน”
มนตรี สิทธิญาวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นในการดึงนวัตกรรมดิจิทัลมาช่วยยกระดับการใช้จ่ายของลูกค้าทุกคนให้สะดวกปลอดภัยยิ่งขึ้น เราเห็นประโยชน์ของโครงการนี้ที่เสริมความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว สามารถชำระเงินผ่าน Thai QR Payment ได้ง่ายๆ เพียงใช้ Mobile Banking Application ของผู้ให้บริการต่างประเทศ สแกนจ่ายแทนการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต สะดวก ปลอดภัย อัตราแลกเปลี่ยนดี ไม่มีค่าธรรมเนียมทั้งฝั่งลูกค้าและร้านค้า สำหรับการชำระเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยนั้น วงเงินกำหนดโดยประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยว ลูกค้าสามารถสแกนจ่ายเงินผ่านคิวอาร์โค้ดของร้านค้า ตรวจสอบยอดรวมธุรกรรมเป็นเงินสกุลไทยบาท อัตราแลกเปลี่ยน และยอดรวมธุรกรรมเป็นเงินสกุลต่างประเทศ ก่อนกดยืนยัน ระบบจะทำการหักเงินจากบัญชีของลูกค้า โดยร้านค้าจะได้รับ Notification เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จ ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตสำหรับนักท่องเที่ยวโดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินสดถือติดตัวมาประเทศไทย
โดยปัจจุบัน ปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 14 ก.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 18.9 ล้านคน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อว่าการร่วมกันขับเคลื่อนโลกธุรกรรมการเงินไร้พรมแดนในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการชำระเงินระหว่างประเทศ และเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลที่เข้าร่วมโครงการ Cross Border QR Payment ให้นักท่องเที่ยวสแกนจ่ายได้แล้ว รวมกว่า 4,000 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล มากกว่า 1,800 แห่ง (อาทิ ห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, ไทวัสดุ, ออฟฟิศเมท, ท็อปส์, ร้านค้าในเครือซีเอ็มจี) ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา จำนวน 41 แห่งในไทย รวมถึงร้านค้าภายในศูนย์ฯ มากกว่า 2,000 ร้านค้า,โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา 41 แห่งทั่วประเทศ เป็นต้น เพื่อเติมประสบการณ์ท่องเที่ยวให้สุดประทับใจ”
นอกเหนือจากนี้ ปัจจุบันร้านค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัล มีบริการรับชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ เช่น จีน เกาหลี ยุโรป ตะวันออกกลาง ฯลฯ ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต Alipay , Alipay Plus, WeChat Pay หรือชำระผ่านบัตรเครดิต, เงินสด ได้เช่นเดียวกัน