บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ เดินหน้าจับมือพันธมิตรผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลุยติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” บ้านพร้อมขายทั่วประเทศ ตอกย้ำ…แบรนด์อันดับหนึ่ง ด้านนวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน
พร้อมวางโรดแมพ 5 ปี (2567-2571) ยกระดับสู่บ้านประหยัดพลังงานทั่วประเทศ ลุยติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” 15,000 หลังคาเรือน และติดตั้ง ณ สำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง สโมสรส่วนกลาง โครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัยทั่วประเทศ เพื่อผลักดันเต็มสูบ…สู่การเป็นองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน และให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายระยะกลาง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40 % ภายในปี 2573 พร้อมแผนรองรับที่ปฏิบัติจริง ทำได้จริง
คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า…ภาคธุรกิจอสังหาฯ มีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และบริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว พร้อมวางกลยุทธ์ สร้างพันธกิจเพื่อผลักดันให้ ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในระยะยาว สู่การเป็นองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน
โดยเฉพาะการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตอย่าง Gen Y และ Z ที่คาดว่า จากนี้ถึง 10 ปีข้างหน้าจะเป็นฐานลูกค้าหลักถึง 90% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องของสิ่งแวดล้อม และจะเลือกสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน ทำให้การมี ‘โซลาร์รูฟท็อป’ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อบ้านจะคำนึงถึงจากนี้ต่อไป จากที่ก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยมอง หรือบางคนที่สนใจแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจติดตั้ง เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงและระยะเวลาในการคืนทุนที่ยังไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีมากนัก
“จากนี้ไป โซลาร์เซลล์จะเป็นหนึ่งใน ‘ของที่ต้องมี’ สำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่ ขณะที่ความมุ่งมั่นของศุภาลัยที่ให้ความสำคัญในการพัฒนา Green Concept จึงจะติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านในกลุ่มระดับกลางขึ้นไป ทั้งบ้านแฝด และบ้านเดี่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการต้องไปติดต้ังเพิ่มเติม และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นการขับเคลื่อนเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กรที่ตั้งเป้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40 % ภายในปี 2573 ซึ่งการผลักดันการใช้พลังงานสะอาดเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญสู่เป้าหมาย โดยตั้งเป้าหมายติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโครงการศุภาลัยจากนี้ให้ครบ 15,000 หลัง ภายในปี 2571 ซึ่งปัจจุบันเริ่มขับเคลื่อนได้แล้วกว่า 30% ครอบคลุมพื้นที่ใน 29 จังหวัด”
ทั้งนี้ หากศุภาลัยสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะสร้าง Positive Impact ท้ังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้รวมกันกว่า 82,300 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) ซึ่งเท่ากับการปลูกต้นไม้ 3.2 ล้านต้น รวมทั้งผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับลูกบ้านศุภาลัยในมุมของความสามารถในการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้ 20,000 -30,000 บาทต่อปี รวมทั้งในอนาคตยังมีแผนพัฒนาช่องทางการ Tracking ติดตามพร้อมควบคุมการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่าน Application : SABAI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้นในอนาตค
คุณกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศุภาลัยให้ความสำคัญในการคิดค้นนวัตกรรมด้านการก่อสร้าง การออกแบบ รวมถึงการพัฒนาวัสดุก่อสร้างร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า ที่อยู่อาศัยของศุภาลัยในทุกประเภทเป็น “บ้านรักษ์โลก” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ผ่าน 5 แกนหลักของลูกค้า ดังนี้
1. นวัตกรรมเพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านความร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับคู่ค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCG TOA DOS CPAC เป็นต้น เพื่อผลิตวัสดุที่ตอบโจทย์ลูกค้าของบริษัทฯ และยังสามารถนำไปจัดจำหน่ายให้กับคนทั่วไปได้อีกด้วย พร้อมออกแคมเปญ ‘Supalai Self-Proved’ เชิญชวนพิสูจน์ผลลัพธ์ นวัตกรรมการก่อสร้างรักษ์โลก ผ่าน Supalai Waste Meter มาตรวัดปริมาณขยะจากการก่อสร้าง ให้น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และนวัตกรรมด้านต่างๆ อาทิ การออกแบบบ้าน/อาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การออกแบบเพื่อลดเศษวัสดุเหลือใช้ การออกแบบเพื่อลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งในนวัตกรรมบางอย่างที่ต้องอาศัยการผลิตขึ้นมาใหม่
2. การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน การออกแบบวางผังตัวบ้าน/ตัวอาคารให้สามารถระบายอากาศที่ดี และเลือกใช้วัสดุที่ช่วยระบายความร้อน จนได้รางวัลการันตีด้านการออกแบบประหยัดพลังงาน อีกทั้งเลือกใช้เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5
3. การออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) การออกแบบฟังก์ชันภายในบ้าน และการใช้งานต่างๆ เพื่อรองรับทุกเพศ ทุกวัยให้ได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุ และผู้พิการ หรือรองรับการใช้รถเข็นได้สะดวก
4. การปฏิวัติใช้พลังงานสะอาด นอกจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และจุดติดตั้ง EV Charger ให้กับลูกบ้านศุภาลัยกว่า 15,000 หลังทั่วประเทศแล้ว ศุภาลัยมีความมุ่งมั่น และจริงจังเพื่อพิชิตเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40 % ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดย อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ ติดตั้งโซลาร์ เซลล์ 450 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 330,397 กิโลวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 198 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 5 ล้านบาทต่อปี และยังมีการติดตั้ง ณ สำนักงานขายทั่วประเทศ และสโมสรส่วนกลาง สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าส่วนกลางให้กับลูกบ้านได้อีกด้วย
5. กิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมสนับสนุนนโยบายระดับประเทศด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการให้ความสำคัญและส่งเสริมงานด้านความยั่งยืนในมิติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในทุกภาคส่วนขององค์กร อาทิ การปลูกต้นไม้บนที่ดินของบริษัทฯเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์, เปลี่ยนการใช้ปุ๋ยเคมี สู่ปุ๋ยอินทรีไบโอฯ,กิจกรรมร่วมแบ่งปันเสื้อผ้า และสิ่งของส่งต่อให้คนงานก่อสร้าง, สนับสนุนสินเชื่อ Green Loan
จับมือพันธมิตร มุ่งสู่ผู้นำ “บ้านติดโซลาร์”
เพื่อบรรลุเป้าหมายผู้นำอสังหาฯ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เชิญชวนพันธมิตรธุรกิจด้านเทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมผนึกความแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นสู่การเป็น No.1 “บ้านติดโซลาร์” โดยเฟสแรกได้ดำเนินแผนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกบ้านศุภาลัย ประเดิม 1,500 หลังทั่วประเทศ พร้อมดูแลระบบติดตั้ง บำรุงรักษา รวมถึงความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งาน และร่วมกันผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับลูกค้า ยังเป็นวิธีที่ช่วยไม่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดภาระให้แก่โลกโดยทุกคนสามารถทำได้และเข้าถึงได้ง่ายๆ
คุณโลแกน ยู ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ผู้ออกแบบโซลูชันอุปกรณ์แปลงผันกำลังไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน ตลอดจนระบบการจัดการและแสดงผลอัจฉริยะด้านดิจิทัลพาวเวอร์สำหรับทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน หัวเว่ยจะดำเนินตามเป้าหมายเรื่องการส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนในประเทศไทย ร่วมติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายสำคัญของเราในประเทศไทย โดยหัวเว่ยจะสนับสนุนองค์ความรู้ทางด้านวิชาการและเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยพัฒนาโมเดลธุรกิจและการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านโปรแกรม Smart Design 2.0 สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจของบมจ.ศุภาลัย โดยร่วมกับไอออน เอเนอร์ยี่ ในการสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อโปรโมทโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทย
“หัวเว่ย ศุภาลัย และไอออน เอนเนอร์ยี่ ต่างมีวิสัยทัศน์ตรงกันในการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อรองรับเทรนด์โลกในอนาคต จึงมีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมมือกันศึกษาและพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด ลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยทดแทนด้วยพลังงานสะอาดในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของ ศุภาลัย เพื่อใช้เป็นต้นแบบเรื่องการบริหารจัดการพลังงานที่ยั่งยืน อันจะนำไปสู่การต่อยอดและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะที่ไอออน เอเนอร์ยี่ จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการต่าง ๆ
โดยหัวเว่ย ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลในระดับโลก และมีบริการรวมถึงโซลูชันต่าง ๆ ที่ได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในตลาดมากกว่า 170 ประเทศ ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บพลังงาน การนำไปใช้งาน และความปลอดภัยในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ภายใต้เป้าหมายในการสนับสนุนโครงการจำนวน 30,000 โครงการในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถลดก๊าซคาร์บอนได้ถึง 265,000 ตัน ตามเป้าหมายเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ และตามพันธกิจของหัวเว่ยที่ต้องการ ‘เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย’ และ ‘การปลดปล่อยขุมพลังแห่งดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ดีกว่า’
คุณพงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ION ผู้นำธุรกิจจัดหาโซลูชั่นพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา และติดตั้ง รวมถึงการดูแลบริการหลังการขายสำหรับภาคครัวเรือน อสังหาริมทรัพย์ และองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อลุยภารกิจพิชิต Net Zero สู่อนาคตที่ยั่งยืน เทรนด์ติดตั้ง Solar Roof มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัย (Residential) ด้วยเหตุผลภาระค่าไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันแปรของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและการซื้อไฟฟ้า ส่งผลให้ค่า FT มีการปรับตัวสูงขึ้น หากมีพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ก็จะทำให้ภาพรวมภาระค่าไฟฟ้าต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้งานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรร่วมมือกันผลักดันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วนของสังคมและสิ่งแวดล้อม
“ไอออนได้เล็งเห็นความสำคัญและร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ และภายใต้ความร่วมมือนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลกอย่างบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานดิจิทัล มาร่วมออกแบบและติดตั้ง Solar Roof ให้กับบ้านในโครงการของศุภาลัย และเซ็ตมาตรฐานการติดตั้งด้วยอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ระดับ Tier 1 คู่กับ Huawei Inverter และ สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล (BCC) ที่ได้รับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล โดยผู้ผลิตบริษัท Bangkok Cable เพื่อยกระดับการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้ถูกต้องตรงตามมาตรฐานบ้านศุภาลัยทั้งในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ”
สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหา “บ้านประหยัดพลังงาน” หรือ “บ้านพร้อมโซลาร์” เตรียมพบกับโครงการศุภาลัย ที่พร้อมเปิดขายในปีนี้ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยว บ้านสามชั้น บ้านแฝด โฮมออฟฟิศ รวมถึงคอนโดมิเนียมทั่วประเทศ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) ซึ่งจะมาพร้อมโปรโมชันหรือข้อเสนอพิเศษมากมาย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1720 หรือติดตามข้อมูลโครงการเปิดใหม่ในช่องทาง www.supalai.com และ Facebook : Supalai