ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ตลอด 77 ปีของกลุ่มเซ็นทรัล ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน ผ่านโครงการ “เซ็นทรัล ทํา” ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ
มุ่งพัฒนาสังคมในมิติต่างๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง และมองถึงผลลัพธ์ระยะยาว เพื่อให้เกิดความสมดุลกับมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน พร้อมลดช่องว่างแห่งความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาการศึกษา สร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้เศรษฐกิจชุมชน ตลอดจนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการขับเคลื่อนแบบองค์รวมให้เติบโตเข้มแข็งไปด้วยกัน เปิดตัวแคมเปญใหม่ “THAMsformation ทำเพื่อเปลี่ยน สู่ความยั่งยืน” ภายใต้ 6 กลยุทธ์ ร่วมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กว่า 7 ปี ที่กลุ่มเซ็นทรัล ริเริ่มโครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ’ เพื่อสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Values – CSV) ระหว่างธุรกิจ สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการ “ร่วมกันลงมือทำ” ทั้งในรูปแบบถ่ายทอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกและบริการด้วยการลงพื้นที่ปฏิบัติจริง เรียนรู้และร่วมกันแก้ปัญหากับชุมชน พัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับสินค้าชุมชนให้มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนสนับสนุนช่องทางการจำหน่าย ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้ที่มั่นคง พึ่งพาตนเองได้ พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ไปยังชุมชนใกล้เคียงผ่านศูนย์การเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน มุ่งสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ จากโอกาสทางอาชีพและส่งเสริมการศึกษา ควบคู่ไปกับการใส่ใจสภาพแวดล้อม
“ตลอดเส้นทางการขับเคลื่อน ‘เซ็นทรัล ทำ’ ได้สร้างคุณประโยชน์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน สะท้อนภาพความสำเร็จบางส่วนในปี 2566 ที่ผ่านมา สามารถ สร้างรายได้ให้ชุมชน 1,700 ล้านบาทต่อปี สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ชุมชนกว่า 150,000 ราย สร้างงานและสนับสนุนอาชีพคนพิการ 1,011 คน พร้อมมุ่งสู่ Net Zero ด้วยการลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 20,830 ตัน, ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์รูฟ 170 แห่ง สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ 114,200 เมกะวัตต์-ชั่วโมง เป็นต้น ส่วนในปีนี้ได้วางโรดแมปเพื่อขับเคลื่อนได้ต่อเนื่องและเข้มข้นมากกว่าเดิม”
สำหรับปี 2567 นี้ เซ็นทรัล ทำ วางโรดแมปเพื่อการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้น ผ่าน 6 กลยุทธ์ ต่อไปนี้
1. Community – พัฒนาศักยภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
ผ่านการพัฒนาความรู้และทักษะด้านอาชีพ ส่งเสริมสินค้าให้มีเอกลักษณ์เป็นที่ต้องการของตลาด สนับสนุนด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์และดีไซน์ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พัฒนายกระดับสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ต่อยอดการท่องเที่ยวยั่งยืนในเชิงเกษตรอินทรีย์และเชิงวัฒนธรรม
โดยการขับเคลื่อนในปี 2566 ได้ดำเนินการไปแล้วใน 44 จังหวัด สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ชุมชนได้กว่า 150,000 ราย ผ่านการรับซื้อผลิตภัณฑ์หรือสร้างช่องทางจำหน่ายได้รวมกว่า 1,700 ล้านบาท มีโครงการเด่นๆ ที่ขับเคลื่อนเช่น ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่, ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง, ผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านเทพพนา- สวนเทพพนา จ.ชัยภูมิ, ฟาร์ม เมล่อน Smile Melon จ.อยุธยา, ตลาดจริงใจ จ.เชียงใหม่ และร้านจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นดีไซน์ร่วมสมัยแบรนด์ “good goods” (กุ๊ด กุ๊ดส์) โดยวิสาหกิจเพื่อสังคมอย่างเซ็นทรัล ทำ เป็นผู้ดูแล
2. Inclusion – ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม
เน้นการมอบโอกาสในการพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาให้เยาวชน ผ่านการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบ Project – Based Learning ที่เน้นลงมือปฏิบัติด้วยประสบการณ์จริง ต่อยอดสู่การประกอบอาชีพในอนาคต รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในด้านต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยมีโครงการเด่นๆ เช่น โครงการยกระดับการศึกษาโรงเรียนบ้านตากแดด จ.พังงา เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ข้าวไร่ดอกข่า นำความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาการเพาะปลูกข้าวไร่ดอกข่า และขยายผลสู่ชุมชนทำให้เกิดการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนข้าวไร่ดอกข่า และนำรายได้จากการจำหน่ายข้าวไร่ดอกข่ากลับคืนสู่โรงเรียน
3. Talent – พัฒนาศักยภาพที่เป็นเลิศของบุคลากร
มุ่งถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมเคารพในความแตกต่างและหลากหลายตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามแนวคิด DEI (Diversity หลากหลาย – Equity เท่าเทียม – Inclusion เปิดรับความแตกต่าง) ผ่านขับเคลื่อนมิติต่างๆ เช่น การพัฒนาทักษะเพื่ออนาคต เพื่อเตรียมพร้อมพนักงานในการรับมือการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล , การพัฒนาทักษะปฏิบัติงาบนต่างๆ ทั้ง hard skill และ soft skill รวมทั้งการส่งเสริมสร้างสุขภาวะและการดูแลพนักงาน
4. Circularity – ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน
ร่วมขับเคลื่อนโลกสีเขียวอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินธุรกิจภายในเครืออย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อมีส่วนช่วยแก้ป้ญหาสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวทางต่างๆ เช่น การจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Surplus Management) ด้วยการวางแผนการใช้วัตถุดิบการจัดการอาหารที่เหลือจากการจำหน่าย แบ่งเป็นอาหารที่ยังรับประทานได้ส่งต่อให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยร่วมมือกับมูลนิธิ SOS , Yindii โดยปีที่ผ่านมา ได้บริจาคอาหารส่วนเกินไปกว่า 2,681,476 มื้อ ลดปริมาณขยะลงสู่หลุมฝังกลบ 641 ตัน และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ได้ถึง 1,486 ตันคาร์บอน ส่วนขยะอาหารที่ไม่สามารถรับประทานได้ นำไปเปลี่ยนเป็นปุ๋ยอินทรีย์และก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
รวมทั้งการจัดการขยะพลาสติก (Plastic Waste Management) ทั้งการลดปริมาณ Single-use plastic ซึ่งได้ลดการใช้ถุงพลาสติกจากห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลลงได้กว่า 15 ตัน และเพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ในกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ที่ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติก การเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าสำหรับส่งซักแทนพลาสติก และเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของใช้ในห้องน้ำเป็นแบบรีฟิล
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมกระบวนการรีไซเคิล ด้วยการสนับสนุนการจัดเก็บขวด PET ได้รวมกว่า 1 ล้านขวด เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋า เสื้อกั๊ก หรือผ้าห่ม ภายใต้แบรนด์ good goods หรือส่งมอบให้กับผู้ประสบภัย หรือการขับเคลื่อนโครงการ Journey to Zero คัดแยกขยะรีไซเคิลทุกประเภท เช่น พลาสติก กระดาษ อลูมิเนียม โลหะ ขวดแก้ว ได้กว่า 10,585 ตัน คิดเป็น 13% ของขยะทั้งหมด
5. Cimate – การฟื้นฟูสภาพอากาศ
เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด (Renewable Energy) ของธุรกิจในกลุ่ม และรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงาน ผู้บริหารในองค์กรคู่ค้า ลูกค้า พันธมิตร โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีโครงการที่ขับเคลื่อน เช่น การติดตั้ง Solar Rooftops ร้านค้าภายในเครือกว่า 170 แห่ง ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้ 114,200 เมกะวัตต์–ชั่วโมง ต่อปี รวมทั้งติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า กว่า 1,356 สถานี ภายในพื้นที่ร้านและโรงแรมภายในเครือ ขณะเดียวกัน ได้นำรถบรรทุก EV Truck มาใช้ในระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เช่นในไทวัสดุและท็อปส์ ซึ่งปัจจุบันมีใช้รวมกัน 22 คัน ช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงกว่า 180,000 ลิตร
6. Nature – การอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
มุ่งอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดสมบูรณ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ อันเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน นำไปสู่ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และเป็นแนวทางในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการดำเนินโครงการด้านการเพิ่มและอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว อาทิ ด้านเกษตรกรรมยั่งยืนด้วยการส่งเสริมวิถีการทำเกษตรที่มีคุณค่าทั้งทางเศรษฐกิจทำให้เกษตรชุมชนได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยไม่ลดทอนหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนผืนป่า การปลูกต้นไม้และการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ดี เพื่อการอนุรักษ์ดิน น้ำ อากาศและสิ่งมีชีวิต โดยปี 2566 สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่าได้กว่า 9,411 ไร่ ลดคาร์บอนได้ 7,456 ตันต่อปี และมีแผนดำเนินโครงการ Community Climate Action (CCA) ฟื้นฟูพื้นที่สีเขียให้ได้ 50,000 ไร่ ใน 6 จังหวัด เป็นต้น
ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลยังได้เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “แค่ทำสักครั้ง” พร้อมประกาศแคมเปญ ‘THAMsformation ทำเพื่อเปลี่ยนสู่ความยั่งยืน’ สะท้อนเรื่องราวและคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากความกล้าที่จะเริ่มต้นลงมือทำและทำอย่างต่อเนื่อง และนำมาซึ่งการเติบโตอย่างรอบด้านในทุกมิติ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ โดยหวังผลลัพธ์เชิงบวกสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในระยะยาว เพื่อส่งมอบอนาคตที่มีคุณภาพให้กับสังคม ประเทศชาติ และคนรุ่นหลังต่อไป