ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือกในจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน
เมื่อพิจารณาจากการบริโภคคาดว่าในอนาคต ผู้บริโภคมีการวางแผนที่จะซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนการใช้งานรายวันที่ลดลง รวมทั้งมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ รวมถึงการใช้งานฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคเลือกใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในจีน มีแนวโน้มการบริโภครถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2566 การผลิตรถยนต์ของจีน มีจำนวนทั้งสิ้น 27.11 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 10% และมีการจำหน่ายอยู่ที่ 26.93 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 10% เช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกสะสมอยู่ที่ 8.42 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 34.5% และมีการจำหน่าย 8.30 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 36.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 30.8%
ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ยังได้คาดการณ์ว่าในปี 2567 ยอดการจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือกจะสูงถึง 11.5 ล้านคัน และคาดว่าจะมีปริมาณการส่งออกสูงถึง 5.5 ล้านคัน สะท้อนได้ว่า การบริโภคและการส่งออกรถยนต์พลังงานทางเลือก ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ตลาดรถยนต์ของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การแข่งขันของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกในจีน เมื่อวัดจากรายได้ธุรกิจ จะพบว่าแบรนด์รถยนต์ BYD ถือเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานทางเลือกที่กำลังมาแรงในจีน และเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ รองลงมาคือ SAIC, NIO, GAC, Li Auto, GEELY, Xiaopeng Motors, Huawei, CHANGAN AUTO และ GWM ตามลำดับ
โดยในปี 2565 แบรนด์รถยนต์ BYD มียอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือก อยู่ที่ 1.80 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าแบรนด์ Tesla อย่างมาก เมื่อพิจารณาจากการจำแนกเป็นรุ่น แบรนด์รถยนต์ BYD รุ่น Qin และรุ่น Han ทั้งสองรุ่นเป็นรุ่นยอดนิยมของการจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือก SUV มาอย่างยาวนาน ส่วนรุ่น Song ครองอันดับหนึ่งของการจำหน่ายรถยนต์พลังงานทางเลือก SUV ด้วยยอดจำหน่าย 479,000 คัน
นอกจากนี้ ในปี 2565 ถือเป็นปีแรกที่รถยนต์พลังงานทางเลือกของแบรนด์ BYD ได้มีการส่งออกรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลถึง 56,000 คัน โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 300% แม้ว่าในปี 2566 บริษัทรถยนต์พลังงานทางเลือกหลายแบรนด์ได้มีการแข่งขันด้วยการลดราคากันอย่างเต็มที่ แต่แบรนด์ BYD อาศัยจุดแข็งทางเทคโนโลยีไฟฟ้า 3 ระบบ ได้แก่ แบตเตอรี่ (BMS), ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (MCU), ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (VCU) จนได้ขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานทางเลือก ทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศ และคาดว่าจะมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
อันดับแบรนด์รถยนต์พลังงานทางเลือกที่มาแรงของจีน ปี 2566
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากสถานการณ์ในตลาดรถยนต์ของจีน คาดว่าในอนาคต อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน จะพัฒนาการเชื่อมต่อและคุณภาพชีวิตของผู้คนจากเมืองสู่พื้นที่ชนบท จากที่ทำงานไปจนถึงการพักผ่อน ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาของการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ สะดวก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องของจีน จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ยังคงมีโอกาสและพื้นที่ทางการตลาดให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยได้เติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาและความต้องการในตลาดยานยนต์ของจีนในอนาคต
ข้อมูล : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์