บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน เพื่อสามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับทุกผลิตภัณฑ์และบริการตลอดทั้งห่วงโซ่ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, Governance)
พร้อมวางแนวทางขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยเน้นหนักใน 5 มิติสำคัญที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ เป้าหมายข้อ 2 เพื่อขจัดความอดอยาก สร้างความมั่นคงทางอาหาร, ข้อ 3 การการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน, ข้อ 12 การสร้างรูปแบบการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน, ข้อ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ข้อ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
คุณวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนของเบทาโกร จะคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติทั้ง Ecosystem นำมาสู่การวาง 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างการเติบโตให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN พร้อมวางโรดแม็พ 3 ปี (2023-2025) สำหรับสร้างการเติบโตทั้งในมิติของธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) ดังต่อไปนี้
1. คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Quality and Safety) โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจาก ‘S-Pure’ ซึ่งเป็นแบรนด์แรกและหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับรอง “การเลี้ยงที่ไม่มียาปฏิชีวนะ (Raised Without Antibiotics – RWA)” จาก “NSF สหรัฐอเมริกา” ทั้งผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ เนื้อหมู และไข่ไก่ พร้อมเป้าหมายลดการใช้ยาปฎิชีวนะต้านจุลชีพสำหรับสัตว์ลง 50% ภายในปี 2027 จากปีฐาน 2021 โดยหันมาใช้นวัตกรรมการเลี้ยงที่ทำให้สัตว์มีสุขภาพดี รวมทั้งเดินหน้าสนับสนุนฟาร์มภายนอกฯ ให้เกิดความตระหนักถึงการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างสมเหตุผล และสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับภายในประเทศ
2. การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Management) เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน โดยเน้นใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตลอดจนศึกษาและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ โดยตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมลงมากกว่า 20% ในปี 2030 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2022 และมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050
3. การพัฒนาชุมชน (Community Development) ด้วยการมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชนและสังคมให้เข้มแข็ง ด้วยแนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม ด้วยการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยมีเป้าหมายภายในปี 2025 ทั้งการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์ร่วมกับชุมชนรอบโรงงานและฟาร์มในประเทศได้ทั้ง 100% รวมถึงสถานประกอบของคู่ค้า เพื่อสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับ 20,000 ครัวเรือน และสร้างอาชีพให้กับกลุ่มคนพิการได้จำนวน 50 โครงการ
4. การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ผ่านการออกแบบ ปรับปรุง และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Re-design) เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ทั้ง 100% มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco – friendly packaging) ทั้งการนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Compostable) รวมถึงลดการใช้ทรัพยากร (Reduce) เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดภายในปี 2030 ซึ่งปัจจุบันบรรจุภัณฑ์กว่า 97% มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว
5. อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Occupational Health and Safety) ด้วยความตระหนักว่า “พนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า เราจึงมุ่งมั่นที่จะดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้สถานที่ทำงานและกระบวนการทำงานที่ปลอดภัย” โดยใช้หลักจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (Process Safety Management – PSM) เป็นแนวทางพัฒนา BETAGRO Safety Framework โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์ (Zero Incident) ภายในปี 2024
ยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ด้านนี้ ไม่เพียงสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้เบทาโกรเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย สร้างความเข้มแข็งและเติบโตไปด้วยกัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนอีกด้วย