บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA (เสนา) ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ “THE ESSENTIAL LIFELONG TRUSTED PARTNER” ที่สามารถเชื่อมโยงเข้าไปทุกช่วงชีวิตของลูกค้า พร้อมพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างให้เกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
พร้อมชูแนวคิดพัฒนา ‘บ้านพลังงานเป็นศูนย์’ หรือ Zero Energy House (ZEH) สำหรับโครงการซีรีส์ใหม่ รวมทั้งเตรียมต่อยอดสู่โครงการในกลุ่ม ‘คอนโด Low Carbon’ เพิ่มเติมในอนาคต
ดร.ยุ้ย – ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิดการพัฒนา ZEH นี้ ปรับมาจากผู้ดำเนินโครงการบ้านพลังงานเป็นศูนย์ในญี่ปุ่นอย่าง บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร๊อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป และได้นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของไทย โดยร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยทำการศึกษา วิจัย เพื่อพัฒนาแบบจำลองบ้านพลังงานเป็นศูนย์ เพื่อออกแบบด้านการใช้พลังงานใน 3 รูปแบบ ดังนี้
1. Active Design คือ การออกแบบโครงสร้างอาคารให้มีความยั่งยืนด้านการใช้พลังงาน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามาช่วยควบคุมการใช้พลังงาน เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง, การใช้แอร์ประหยัดพลังงานฯ
2. Passive design การออกแบบตัวอาคารให้ความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม เช่น การเข้าใจทิศทางลม และแสงแดด เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน
3. การนำพลังงานหมุนเวียนมาช่วยผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น การนำพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในบ้าน และสามารถควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล
ทั้งนี้ การพัฒนาบ้าน ZEH ของเสนา จึงสามารถผสมผสานแนวคิดการออกแบบให้เกิดเป็นความยั่งยืนได้ โดยผลการศึกษาตามแนวคิดดังกล่าว พบว่า บ้านขนาด XL ในโครงการของเสนาสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 14% และมีความสามารถในการผลิตพลังงานสะอาดใช้ได้เองประมาณ 360 หน่วยต่อเดือน ช่วยลดค่าไฟฟ้าสูงสุดลงได้ถึง 38% หรือคิดเป็น 1,627 บาทต่อเดือน รวมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละปีเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 163 ต้น
“ทุกคนที่อยู่บ้านเสนาสามารถมีไลฟ์สไตล์ต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ก็เปรียบเสมือนได้ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นทุกวัน และยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันเสนายังไม่สามารถสร้างบ้านทุกหลังให้เป็น ZEH ได้ แต่ถือเป็นเป้าหมายท้าทายที่สำคัญที่เสนาตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้นในอนาคต”
สำหรับแผนการขยายโครงการในปี 2566 เสนาเตรียมเปิดบ้านซีรีส์ใหม่ในกลุ่มบ้านพลังงานเป็นศูนย์ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม อาทิ เสนา วิลเลจ รามอินทรา กม. 9, เสนา วิลล์ วงแหวน-บางบัวทอง รวมทั้งคอนโดมิเนียมคอนเซ็ปต์ คอนโด Low Carbon ภายใต้แบรนด์ “เสนาคิทท์” ที่จะพัฒนาตามแนวคิด Smart Cool Smart Life เพื่อให้สามารถตอบสนองวิถีชีวิตช่วยลดคาร์บอน (Decarbonized Lifestyle) โดยโครงการจะตั้งอยู่บริเวณใกล้ถนนสาทร ในระดับราคาต่ำกว่าล้าน
“คอนโด Low Carbon จะพัฒนาเช่นเดียวกับหลักการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ SMART CITY ที่จะมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ตามแนวทาง “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า เช่น Smart Energy, Smart Mobility, Smart Living, Smart Environment และ Smart People เพื่อสร้างชุมชนเมืองน่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประหยัดรายจ่าย และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ใกล้แหล่งงาน ที่สำคัญยังพัฒนาระบบผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อช่วยบริหารการเดินทางให้สามารถช่วยลดมลภาวะ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์”
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายบริการใหม่ๆ เพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกลูกบ้านได้อย่างครอบคลุม ทั้งการบริหารจัดการที่อยู่อาศัย การให้คำปรึกษาทางการเงิน การดูแลด้านสุขภาพ เพื่อให้บ้านเสนาสามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น