โตชิบา ไทยแลนด์ รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก เติบโตได้ถึง 15% (ไม่รวมเครื่องปรับอากาศ) ซึ่งสามารถเติบโตได้มากกว่าภาพรวมตลาดที่เติบโต 14% (ไม่รวมทีวี) โดยทุกกลุ่มสินค้าของโตชิบาเติบโตขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าว ขณะที่แบรนด์โตชิบามียอดขายติด Top 3 ได้ในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะไมโครเวฟ ที่เติบโตได้มากจนกลายเป็นเบอร์ 1 ของตลาด
มร.อเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตได้ดี มาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอยู่เสมอ โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ไป 31 รุ่น ทั้งที่ออกมาทดแทนรุ่นเดิม และขยายกลุ่มสินค้าใหม่ โดยเน้นการเจาะสินค้ากลุ่มพรีเมียมมากขึ้น เน้นฟังก์ชัน IOT เพื่อให้รับกับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่
นอกจากการขยายไลน์อัพสินค้า โตชิบายังให้ความสำคัญกับช่องทางขาย ทั้งการเพิ่มจำนวนสาขาให้มากขึ้น ยังเน้นช่องทางที่สามารถเจาะกลุ่มไฮเอนด์ได้มากขึ้น รวมทั้งมีแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการตลาด ณ จุดขาย รวมทั้งการรีวิวเพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น
สำหรับการบุกตลาดในครึ่งปีหลัง โตชิบาเตรียมแนะนำสินค้าใหม่มาทำตลาดเพิ่มเติมอีก 39 รุ่น เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้สินค้า ทั้งประสิทธิภาพ ดีไซน์ รวมถึงราคา รวมทั้งขยายช่องทางขายใหม่เพิ่มเติม พร้อมเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าให้กับร้านค้าอีก 10% โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Mid to High รวมทั้งการเพิ่มงบตลาดกว่า 20% สำหรับทำตลาดในช่วงอีเวนท์สำคัญในช่องทางอีคอมเมิร์ซ เช่น 11.11 และ 12.12 โดยเฉพาะการมีสินค้า Exclusive ที่จำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ โดยตั้งเป้าเติบโตในช่วงแคมเปญไว้ที่ 30%
อีกส่วนหนึ่งที่โตชิบาให้ความสำคัญมากขึ้น คือโครงการ Partner Synergy เป็นความร่วมมือระหว่างแบรนด์กับคู่ค้าในการร่วมกันพัฒนาสินค้าและบริการให้โดนใจผู้บริโภคที่สุด รวมทั้งการทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทั้งฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม young gen และให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยตั้งเป้าการเติบโตภาพรวมของครึ่งปีหลังไว้ที่ 15% ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความมั่นใจของผู้บริโภคดีขึ้น ทำให้มีอัตราการบริโภคที่สูงขึ้นและมีการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเร่งขยายตลาดของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และภาคก่อสร้าง ส่งผลให้อัตราการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเติบโตตามไปด้วย
“หากพิจารณาการเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภาพรวม จะพบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีาการเติบโตสูงที่สุด คือ กลุ่มเครื่องปรับอากาศที่เติบโตได้ถึง 36% เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนมาก และร้อนยาว ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นเติบโต 15% หม้อหุงข้าว 6% ส่วนกลุ่มไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้ามีอัตราการเติบโตที่ติดลบ แต่การที่โตชิบาไม่ได้เน้นทำตลาดกลุ่มเครื่องปรับอากาศมากนัก จึงทำให้เสียโอกาสเติบโตได้อย่างมาก ดังนั้น สินค้าเครื่องปรับอากาศจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่บริษัทจะโฟกัสการทำตลาดให้มากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทแม่ได้ลงทุน 5,000 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 4 ล้านเครื่อง/ปี แต่ต้องยอมรับว่าเป็นตลาดที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่หากสามารถสร้างความแข็งแรงในตลาดนี้ได้มากขึ้นจะเพิ่มโอกาสเติบโตให้โตชิบาได้อย่างมากเช่นกัน”
นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงสินค้าที่จะเปิดตัวใหม่อีก 39 รุ่น จะแบ่งเป็นตู้เย็น 21 รุ่น เครื่องซักผ้า 4 รุ่น หมวดเครื่องครัว 6 รุ่น และเครื่องใช้ในบ้านอีก 8 รุ่นโดยมีสินค้าไฮไลท์ อาทิ ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น GR-RF610WE-PMT(37), เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น AW-DUM1500LT(MK), เครื่องทำน้ำอุ่น รุ่น TWH-38EFNTH(W) ขนาด 3800 วัตต์ และ TWH-48EFNTH(W) ขนาด 4800 วัตต์ , เตาอบไฟฟ้า รุ่น TL2-SAC25GZC(GR) , ไมโครเวฟ รุ่น MM-EM25PE(BK) และ หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ เป็นต้น
“นอกจากการทุ่มงบไปกับการสร้างแบรนด์และการส่งเสริมการขายแล้ว โตชิบาให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ ณ จุดขาย เราลงทุนต่อเนื่องมาตลอดกว่า 5 ปี ในการปรับโฉมร้านค้า สแตนด์ คอร์เนอร์ ป้ายบิลบอร์ด รวมถึง POP (Point of Purchase) ให้มีภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมียมขึ้น สะอาดตา ทันสมัย เข้าถึงง่าย และมีเอกลักษณ์เหมือนกันทั่วโลก และให้ความสำคัญกับพนักงานขายที่หน้าร้าน โดยเพิ่มจำนวนพนักงานมากขึ้น ฝึกอบรมให้มีทักษะ ความชำนาญ และบุคลิกภาพที่ดี เพื่อแนะนำข้อมูลลูกค้าได้อย่างถูกต้อง รวมถึงทำแคมเปญเพื่อสร้างแรงจูงใจในการขายต่อเนื่อง”
นางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า แม้สถานการณ์ในปี 2566 จะดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่บริษัทไม่ได้ประมาท ยังคงมีการรีวิวแผนทุกไตรมาส เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโตชิบาโชคดีที่มีฐานการผลิตป้อนสินค้าให้ ทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ มีบริษัทฯ แม่ที่พร้อมสนับสนุนและเชื่อมั่นในบริษัทฯ และในประเทศไทย อีกทั้งยังมีประชุมกับคู่ค้า ทีม R&D และโรงงาน เพื่อพูดคุย ถกไอเดีย เพื่อพัฒนาไลน์การผลิตให้มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการผู้บริโภคคนไทย เราประชุมกับทีมการตลาด ทีมขาย และทีมบริการทุกเดือน เพื่อหาแนวทางในการทำงานที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดยอดขายที่มากขึ้น รวมไปถึงงานบริการที่ดีขึ้น
“โตชิบา ไทยแลนด์ ก่อตั้งมาครบ 54 ปี ในเดือนสิงหาคมนี้ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ในปีหน้า และจะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป พร้อมกับ ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย โดยไม่เพียงแต่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่โตชิบายืนหยัดและไม่เคยเปลี่ยน คือการเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดี เป็นบริษัทสีเขียว รักษ์โลก บริษัทฯ ให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการผลิต การส่งมอบสินค้า รวมไปถึงการทำการตลาดและการบริการ อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมตอบแทนสังคมสม่ำเสมอในรูปแบบที่หลากหลาย”