ทักษะการทำงานในยุค Post Covid ต้องเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ให้ตัวเองอยู่เสมอ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะที่ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันไม่อาจมีได้ เช่น ความสามารถในการนำข้อมูลที่มีไปต่อยอดเพิ่มเติม เพื่อประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์
“เรียนเยอะ ใช้ได้น้อย” การเรียนรู้ยุคความรู้ท่วมหัว
คุณนิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล Product Director ของ SEAC (ซีแอค) กล่าวผ่านเวที CTC2023 Festival ในหัวข้อ “How to Build Workforce SMARTer : Innovations in People Development for a Greater Impact” ว่า การเติมทักษะใหม่ให้พนักงาน คือวาระแห่งชาติของการแข่งขันในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้า ทำให้คนวัยทำงานเข้าอบรมเรียนออนไลน์มากขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงโควิด-19
แต่จุดที่น่าสนใจจากรายงานของ Harvard Business School พบว่าคนในองค์กรที่เข้าเรียนอบรม มีเพียง 12% ที่บอกว่าสามารถนำความรู้มาใช้ในการทำงานจริง หมายความว่า 88% ได้ผลกลับมาน้อย คือเรียนเยอะแต่ใช้ได้นิดเดียว
“เราต้องการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้เร็วกว่าที่เคย ปัญหาไม่ใช่เรียนที่ไหน และเรียนอะไร แต่คือการที่เราจะเรียนอย่างไร ให้เรียนน้อยได้มากต่างหาก” คุณนิภัทรา กล่าว
สร้าง Smart People เพื่อให้เรียนแล้วใช้ได้จริง
จากการทำวิจัยมานานกว่า 18 ปี ของ SEAC (ซีแอค) ค้นพบปัญหาสำคัญ 5 เรื่อง ที่ทำให้ไม่สามารถนำความรู้มาใช้ทำงานจริงได้ คือ 1) ไม่ชัดเจนว่าเรียนแล้วเอาไปใช้กับใคร ใช้ตรงไหน 2) เรียนอยู่รูปแบบเดียวให้จบไปเป็นครั้งๆ 3) การออกแบบหลักสูตรที่เน้นเรียนให้ครบ แต่ไม่เน้นให้ลงมือทำ 4) เนื้อหาการเรียนเน้นทฤษฎี เชื่อมโยงกับชีวิตจริงไม่ได้ และ 5) ขาดกลไกและตัวช่วยให้เกิดการผลักดันการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
พร้อมทั้งการหาคำตอบถึง 5 หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ประกอบด้วย 1) ผู้เรียนต้องเริ่มต้นโดยรู้ว่าเรียนไปทำไม ตั้งแต่ก่อนเริ่มเรียน 2) ผู้เรียนรู้สิ่งที่คาดหวังจากตัวเองคืออะไร 3) ผู้เรียนรู้สึกตื่นเต้น และรู้ว่ามีคนที่มี Passion คล้ายคลึงกันหลายคนที่จะเรียนไปด้วยกัน เพื่อกระตุ้นให้รู้สึกอยากเรียน 4)ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาและพร้อมออกไปลงมือทำจริง และ 5) การนำไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละคน
มากกว่าแค่ได้เรียน แต่ต้องมีพื้นที่ให้ฝึกปฏิบัติจริง
คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง SEAC (ซีแอค) กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปี คำว่า SMART Learning หรือ การเรียนอย่างชาญฉลาด ได้รับการพูดถึงอย่างมากในแวดวงสถาบันพัฒนาทักษะทั่วโลก โดยสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับคำนี้คือ
1. การเรียนแล้วนำเอาไปใช้ได้จริง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี เพราะการรู้เยอะไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จ แต่เป็นการทราบว่าสิ่งที่เรารู้นั้นจะสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างไร
2. ไม่ยึดติดว่าจะเรียนแค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น เรียนออนไลน์เท่านั้น เรียนให้ครบ 4 ปีตามหลักสูตรมหาวิทยาลัยเท่านั้น หรือเรียนครบหนึ่งคอร์สแล้วจบเลย แต่ยุคนี้ต้องถามตัวเองว่า เราจะเรียนรู้เพิ่มอีกอย่างไร และอย่าเรียนทีละมากๆ แต่ต้องพยายามเรียนแล้วนำไปใช้ทีละเรื่องให้ถูกต้องตามบริบท
ทั้งนี้ เครื่องมือที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่าน 6 Learning Labs หรือ ตัวเร่งที่ช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง ประกอบด้วย 1.) การตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าใช้ที่ไหน และใช้เมื่อไหร่ 2.) การตกผลึกความรู้ ย่อยเรื่องยาก ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น 3.) การสร้างความมั่นใจที่จะลองทำ 4.) การได้ฝึกซ้อมใช้ทักษะความรู้จากสิ่งที่เรียน 5.) การลงมือทำจริง ในสนามจริง และ 6.) มีผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาได้ คอยสนับสนุนตลอดเส้นทางการเรียนรู้
“ในโลกยุคปัจจุบัน การมีความรู้มากมาย ไม่ได้จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่คนที่มีทักษะที่เรียนอย่างฉลาด เรียนแล้วทดลอง คือคนที่ชนะในวันนี้ Smart People ต้องเริ่มที่ SMART Learning เพราะคนไม่ทึ่งกับการอ่านหนังสือมากๆ แล้วนำมาพูดได้ หรือเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะที่หาอ่านได้จาก Google หรือ ChatGPT อีกต่อไป แต่จะนับถือคนที่นำสิ่งที่รู้ไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะในวงการการศึกษาทั่วโลก คนที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นได้ ไม่ได้เรียนจบในห้องเรียน แต่ต้องเริ่มการมีวินัยที่ตัวเอง และรู้ตลอดเวลาว่า เรานำความรู้อะไรไปใช้ ถ้าต้องการประสบความสำเร็จต่อเนื่อง เราจะต้องเรียนเพื่อนำไปฉลาดใช้” คุณอริญญา กล่าว
และในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพผู้นำ บุคลากรและองค์กร เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต SEAC (ซีแอค) พร้อมนำความเชี่ยวชาญในการออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นการนำไปปรับใช้ได้จริง ผสานทั้งเทคโนโลยี เครื่องมือ หลักสูตรระดับเวิล์ดคลาส ประสบการณ์ ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ และสังคมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมผลลัพธ์ และสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กรธุรกิจทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากหน่วยงานหรือองค์กรใดที่สนใจหลักสูตรการพัฒนาผู้นำและบุคลากรในองค์กร ด้วยวิธีการ รูปแบบและเครื่องมือที่สามารถเห็นผลสัมฤทธิ์ได้จริง สามารถติดตามได้ที่เพจ Facebook : SEAC หรือเว็บไซต์ที่ https://bit.ly/43OSnks