มุ่งพัฒนาความรู้และทักษะบุตรหลานแรงงาน ส่งเสริมและดูแลด้านบุคลากรที่เป็นแรงงานในทุกระดับ เพื่อการทำงานที่มีความสุข “สุขที่ยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างบ้าน Areeya” ส่งผลถึงการสร้างงานที่มีประสิทธิภาพ
วิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อารียาฯ เชื่อเรื่องความสุขที่ยั่งยืน จึงเริ่มจากจุดเริ่มต้นของความสุขคือ บุคลากรที่เป็นแรงงานที่แข็งแกร่งของเราทุกระดับ
“เราได้ริเริ่มสร้าง ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ก่อสร้าง หรือ Child Friendly Space โดยเกิดจากการจัดมาตรฐานคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้เกิดการดูแลพนักงานอย่างครบวงจร ลดความกังวลต่อบุตรหลานโดยให้เด็กอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ได้รับการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินกระบวนการบนพื้นฐานความคิดเป็นสำคัญ เมื่อแรงงานมีสุขภาพกายดี สุขภาพใจดี ไม่มีความกังวล จะมีความพร้อมและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น ยังรวมถึงความมั่นคงในด้านบุคลากรและแรงงาน หลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแรงงานคุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานที่ดีอย่างยั่งยืน”
ในปี 2558 ได้นำร่องในพื้นที่ โครงการหทัยราษฎร์ ทำทะเบียนประวัติเด็ก ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะตามวัย การเรียนรู้การอ่านและเขียนเบื้องต้น ตลอดจนการฝึกระเบียบวินัย โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ช่วยเป็นพี่เลี้ยงและให้การอบรมอาสาสมัครในโครงการศึกษาดูงานมูลนิธิรักษ์ไทย ในการจัดรูปแบบการเรียนการสอนอีกด้วย ซึ่งผลจากการริเริ่มจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่โครงการหทัยราษฎร์ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ และได้รับความพึงพอใจจากบุคลากรและแรงงาน
ต่อจากนั้น จึงมีนโยบายให้สร้างศูนย์การเรียนรู้ในทุกพื้นที่ก่อสร้างในโครงการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันมีศูนย์การเรียนรู้ทั้งสิ้น 5 พื้นที่ ได้แก่ หทัยราษฎร์ ไทรน้อย บางนา รังสิตคลอง 4 และบางบัวทอง
นอกจากนี้ ยังได้ทำภาคีร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน จัดให้มีครูประจำศูนย์ฯ ดำเนินการตามแผนการเรียนการสอนที่มีมาตรฐาน ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 16.30 น. โดยให้ความรู้พื้นฐาน เสริมทักษะต่าง ๆ ตามช่วงอายุ และจัดกิจกรรมในโอกาสพิเศษ มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนมีความรู้สามารถเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาของภาครัฐ และเป็นเยาวชนที่ดีของประเทศชาติต่อไป
“อีกหนึ่งในความตั้งใจที่มุ่งสร้างพัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชนในด้านต่าง ๆ การรู้จักใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การได้รู้จักเพื่อนใหม่ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนผ่านการให้ความรู้และส่งเสริมด้านทักษะชีวิต อาทิ วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ศิลปะ และปลูกฝังความคิดที่ดี เช่น การปลูกต้นไม้ เพื่อให้ได้เรียนรู้และซึมซับด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสะอาด รวมถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็ก ๆ สนุกสนานและผ่อนคลายร่วมกับครอบครัว เป็นต้น” วิวัฒน์ กล่าวในท้ายที่สุด