บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด เดินหน้าสานพลังชุมชน เกิดผลทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการศึกษา ถือว่าตอบโจทย์ครบทั้ง 3E
ดร.เภา บุญเยี่ยม ผู้จัดการสายงานรัฐกิจและชุมชนสัมพันธ์ กล่าวว่า กิจกรรมเพื่อสังคมของ SYS นั้นจะมุ่งให้ความสำคัญใน 3 ด้าน เรียกสั้นๆ ว่า 3E ประกอบด้วย Education การส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคน Economy การสร้างรายได้ให้กับชุมชน และ Environment การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งหากพิจารณาเผินๆ ดูเหมือนว่าโครงการรวมใจรักษ์หาด คืนธรรมชาติสู่ท้องทะเล จะมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ความจริงแล้วโครงการนี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการศึกษา ถือว่าตอบโจทย์ครบทั้ง 3E
โครงการรวมใจรักษ์หาด คืนธรรมชาติสู่ท้องทะเล เกิดจาก SYS เข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของคนในชุมชนตลอดแนวชายฝั่งทะเลอำเภอเมืองถึงอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ในเขตอำเภอเดียวกันกับที่ตั้งของโรงงาน SYS พบว่าการทำประมงเป็นอาชีพหลัก มีการรวมตัวเป็นกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านย่อยๆ ถึง 10 กลุ่ม และทั้ง 10 กลุ่มได้รวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนชมรมกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลในเชิงของภูมิปัญญาชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมในอีกหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการอนุรักษ์ทะเลและเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำให้มากขึ้น
SYS ได้ริเริ่มทำโครงการ “รวมใจรักษ์หาด คืนธรรมชาติสู่ท้องทะเล” ขึ้น ครั้งแรกจัดในเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหนองแฟบ และมีเป้าหมายที่จะจัดเดือนละครั้ง ตลอดปี 2561 รวม 12 ครั้ง โดยเวียนไปจัดยังกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านทั้ง 10 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านก้นปึกสามัคคี กลุ่มประมงเรือเล็กเก้ายอด กลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กแสงเงิน กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านปากคลองตากวน กลุ่มประมงพื้นบ้านตากวนอ่าวประดู่ กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหนองแฟบ กลุ่มประมงเรือเล็กบ้านพยูน กลุ่มประมงเรือเล็กหาดพลา บ้านพลา และกลุ่มประมงเรือเล็กพลาอู่ตะเภาสามัคคี
“กิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากการสนับสนุนงบประมาณในการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ในกลุ่มสัตว์เศรษฐกิจตามความต้องการของกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อาทิ ปลากะพงขาว กุ้ง ปู และหอยหวาน ซึ่งสามารถเติบโตได้ดีตามแนวชายฝั่ง หลังจากนั้นจะนำพันธุ์สัตว์ดังกล่าวมาปล่อยในโครงการ เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในทะเล ซึ่งตลอดโครงการ 12 ครั้ง คาดว่าจะสามารถปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิดรวมกันประมาณ 2,000,000 ตัว นอกจากนี้ ยังมีการ สร้างบ้านปลาและซังเชือก ด้วยวัสดุที่ทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ รวมทั้ง ทำความสะอาดชายหาด เพื่อคืนความสวยงามให้ชายหาดด้วย” ดร.เภา กล่าว
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนตามนโยบายที่ SYS วางไว้ โครงการนี้จึงไม่ได้ปล่อยสัตว์น้ำลงในทะเลอย่างไร้ทิศทาง แต่ได้ใช้พื้นที่อนุรักษ์ของกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านให้เป็นประโยชน์ ด้วยการปล่อยลงในพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งชุมชนกำหนดให้เป็นโซนปลอดภัย ห้ามจับสัตว์ในรัศมี 1 ไมล์ทะเล เพื่อให้สัตว์น้ำได้มีโอกาสขยายพันธุ์จนเกิดความอุดมสมบูรณ์และขยายออกไปนอกโซน จึงจะสามารถจับได้
ทั้งนี้ การจัดโครงการขึ้นในกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านทั้ง 10 กลุ่ม จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ขยายออกไปเป็นวงกว้าง ตอบโจทย์เรื่อง E-Environment และผลลัพธ์จากความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ ยังทำให้ชุมชนจับสัตว์น้ำไปขายได้มากขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องของ E-Economy และยังได้ร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ในการนำนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนในชุมชนมาฝึกปฏิบัติ เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงและวงจรชีวิตสัตว์น้ำ ซึ่ง SYS ได้กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ทุกครั้งหลังจบกิจกรรม โดยให้น้องๆ กลับไปนำเสนอผลลัพธ์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการ เพื่อส่งกลับมาชิงทุนการศึกษาต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเยาวชนของชาติที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ตอบโจทย์ในเรื่องของ E-Education