เซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น ฉลองครบรอบ 50 ปี ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ จาก ‘ใกล้และสะดวก’ (Close and Convenient) เป็น ‘สร้างรอยยิ้มในวันพรุ่งนี้ไปด้วยกัน’ (Creating Tomorrow’s Smile Together)
สำหรับ เซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2516 ในชื่อ York Seven ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ Seven-Eleven และเปิดร้านค้าในประเทศแห่งแรกที่ Koto-ku กรุงโตเกียว โดยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา สามารถเติบโตจากการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั้งเรื่องของการเดินทาง ระยะเวลา รวมทั้งผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
โดย Fumihiko Nagamatsu ประธาน Seven & i Holdings ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น กล่าวว่า ในอีก 50 ปีจากนี้ จะยกระดับในการเชื่อมต่อกับผู้คนและชุมชนมากขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างรอยยิ้มในวันพรุ่งนี้ไปด้วยกัน (Creating Tomorrow’s Smile Together) จาก 4 มิติ คือ สุขภาพ ชุมชน สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรมนุษย์ ดังต่อไปนี้
สุขภาพ ด้วยแนวคิดสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่า
นอกจากความแข็งแกร่งในเรื่องของรสชาติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว จะให้ความสำคัญกับคุณค่าด้านโภชนาการมากขึ้น เพื่อมอบสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่อวันถึงราว 20 ล้านคน โดยจะเพิ่มสัดส่วนอาหารสดให้มากขึ้นจาก 8% เป็น 50% ภายในปี 2573 รวมทั้งมีแผนพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘Healthcare’ ร่วมกับพันธมิตร เพื่อเชื่อมให้แอป 7-Eleven เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดการสภาวะสุขภาพให้ลูกค้าโดยพัฒนาเมนูและจัดส่งจากคำสั่งซื้อผ่านแอปได้โดยอัตโนมัติ
ชมุชน ด้วยแนวคิดสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกับคนในพื้นที่อย่างแท้จริง
โดยมีแผนทำงานร่วมกับซัพพลายเชนของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีอยู่กว่า 21,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากแต่ละภูมิภาค โดยตั้งเป้าหมายรับผักและผลไม้จากท้องถิ่นไว้ที่ 50% สำหรับผักและผลไม้ การบริโภคในท้องถิ่น รวมทั้งการใช้ข้าวสาลีในประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากอุปทานของโลกที่ไม่มั่นคง โดยจะใช้ข้าวสาลีในประเทศทั้ง 100% เพื่อผลิตเส้นบะหมี่ และขยายไปยังการผลิตขนมปังและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต
รวมทั้งการออกแบบสโตรผ่านแนวคิดใหม่ คือ “ร้าน SIP” ซึ่งเป็นไซส์ระหว่างร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ที่เหมาะสม โดยร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 40 สึโบะ (1 สึโบะ = 3.31 ตารางเมตร) แต่ร้าน SIP จะมีพื้นที่ประมาณ 100 ถึง 150 สึโบะ และจะจำหน่ายอาหารสด อาหารแช่แข็ง และอาหารจานด่วนด้วย
สิ่งแวดล้อม ด้วยความตระหนักถึงสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอิงจากการรีไซเคิล
ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ Seven & i Group โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถลดการปล่อย CO2 เพื่อเป็นร้านที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดการใช้พลังงาน และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น การลดปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติก
รวมทั้งส่งเสริมมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ เช่น ยืดอายุความสดของผลิตภัณฑ์ประจำวัน เพื่อลดความสูญเสียอาหาร ผ่านการควบคุมอุณหภูมิและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อนโยบายเพื่อการจัดหาอย่างยั่งยืน โดยหาวิธีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบนบก ซึ่งจะนำไปสู่การลดต้นทุนและพลังงานในการขนส่ง เป็นต้น
ด้านทรัพยากรบุคคล โดยมีเป้าหมายสร้างสังคมแห่งความสุขผ่านการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของทรัพยากรมนุษย์ที่หลากหลาย
ผ่านการพัฒนาระบบที่สามารถตอบสนองค่านิยมด้านความหลากหลายและเท่าเทียมภายในองค์กร พร้อมทั้งยกระดับและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีด้านไอทีและดิจิทัล เพื่อร่วมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน รวมทั้งปรับปรุงงานบริการให้ดียิ่งขึ้น
“ในขณะที่โลกมีความสะดวกสบายมากขึ้น เรากำลังเผชิญกับปัญหาทางสังคม เช่น การเกิดโรคอุบัติใหม่ อัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงอายุ สังคมในภูมิภาคที่เร่งรีบ และปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกมากมาย ดังนั้น ในอีก 50 ปีข้างหน้า นอกจากการอำนวยความสะดวกสบายแบบดั้งเดิมที่เราเคยมอบให้ เรายังต้องการที่จะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาทางสังคมเพื่อรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านวิสัยทัศน์ใหม่ Creating Tomorrow’s Smile Together โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ” ประธาน Fumihiko Nagamatsu กล่าว
นอกจากนี้ ทางเซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น ยังได้แต่งตั้ง อิจิโระ ซูซูกิ นักเบสบอลมืออาชีพและโค้ชระดับเฟิร์สคลาส เพื่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากวิธีคิดในการทำงานที่พร้อมเผชิญความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ตรงกับแนวทางในการขับเคลื่อนของเซเว่น อีเลฟเว่น