นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ค้นพบวิธีในการจัดการขยะพลาสติกและก๊าซเรือนกระจกให้กลายมาเป็นพลังงานที่ยั่งยืน โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งอาจกลายเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ให้กับการพัฒนา Circular Economy จากนี้ไป
ตามรายงานของ UNEP (UN Environment Programme) ระบุว่า มีขยะพลาสติกถูกผลิตขึ้นในแต่ละปีราว 300 ล้านตัน แต่มีเพียง 9% ที่ถูกนำไปใช้รีไซเคิล ส่วนที่เหลือจะถูกนำไปฝังกลบ และไหลลงสู่ทะเล พร้อมทั้งสร้างให้เกิดผลกระทบจากไมโครพลาสติกตามมา
ขณะที่ทีม Reisner กลุ่มนักวิจัยจากเคมบริดจ์ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนขยะพลาสติกและก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็นแก๊สสังเคราะห์ และกรดไกลโคลิก (syngas and glycolic) ได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยเครื่องปฏิกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปลี่ยน CO2 เป็นแก๊สสังเคราะห์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเชื้อเพลิงเหลวที่ยั่งยืน ขณะที่ขวดพลาสติกถูกเปลี่ยนเป็นกรดไกลโคลิก ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
การค้นพบนี้เป็นวิธีการเปลี่ยนขยะพลาสติกและก๊าซเรือนกระจก ซึ่งถือเป็น 2 ปัญหาใหญ่ในการแก้วิกฤตสภาพอากาศ ให้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งได้รับรองผลรายงานไว้ในวารสาร Nature Synthesis
ซึ่งก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลง CO2 ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก แต่ด้วยระบบพื้นฐานของเครื่องปฏิกรณ์นี้ ทำให้เพียงแค่ฉายแสงไปที่วัตถุก็สามารถเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายให้กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และยั่งยืนได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถมีใครทำได้มาก่อน
ศาสตราจารย์ Erwin Reisner จาก Yusuf Hamied Department of Chemistry หัวหน้าทีมคณะวิจัย มองว่า ความสำเร็จในคร้ังนี้อาจกลายเป็น Game Changer ในแวดวง Circular Economy ขณะที่การแปลงของเสียให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นเป้าหมายหลักในการวิจัยของทีม
ข้อดีอย่างหนึ่งของเครื่องปฏิกรณ์ ที่นักวิจัยกลุ่มนี้ได้ออกแบบไว้ คือ สามารถเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาที่แตกต่างกันได้ ซึ่งสารตั้งต้นที่แตกต่างกันสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่แตกต่างกันได้ ทำให้ในอนาคตจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้นได้ เพียงแค่การเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยา เพื่อให้เข้าไปทำปฏิกิริยาร่วมกับตัวดูดซับแสงภายในเครื่องปฏิกรณ์
งานวิจัยนี้ ได้รับการสนับสนุนทุนก้อนใหม่จาก European Research Council เพื่อให้นักวิจัยใช้ปรับแต่งเครื่องปฏิกรณ์ให้สามารถผลิตโมเลกุลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากขยะพลาสติกและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นปัญหาสองประการที่ต้องให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน
กลุ่มผู้วิจัยหวังว่าสักวันหนึ่งระบบจะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาโรงงานรีไซเคิลที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด เพื่อเป็นการพัฒนาโซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดและความยั่งยืน