โค้งสุดท้ายปลายปี 2565 นี้ นับเป็นปีแรก หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ และหลายๆ พื้นที่เริ่มกลับมาจัดงานเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคักในช่วงส่งท้ายปีกันได้อีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ที่ไตรมาสสุดท้ายถือเป็นช่วงสำคัญในการกระตุ้น Mood & Tone เพื่อเพิ่มจำนวนทราฟฟิกรวมทั้งกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงเทศกาลปลายปี ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนไทย รวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งเริ่มมีการเดินทางเข้ามาในประเทศได้ตามปกติแล้ว
เช่นเดียวกับ เซ็นทรัลพัฒนา หรือ ซีพีเอ็น (CPN) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Retail Led Mixed Use และเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ที่ปีนี้ได้เตรียมอีเวนท์ใหญ่ปลายปี เพื่อต้อนรับบรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองให้กลับไปเหมือนก่อนช่วงสถานการณ์โควิดแบบข้ามปี ผ่านแคมเปญ Embracing Happiness 2023 ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2565 – 6 ม.ค. 2566 ด้วยการจับมือกับพันธมิตรที่สามารถ Engage กับผู้คนได้ทั่วโลกอย่าง Line Friends เพื่อสร้างให้พื้นที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศ กลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องแวะมาเช็คอินในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ ภายใต้งบประมาณมากกว่า 500 ล้านบาท
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ซีพีเอ็น กล่าวว่า กรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้ว การได้ร่วมมือกับ Global Company ด้วยการนำคาแร็คเตอร์ที่คนรู้จักและชื่นชอบทั่วโลกอย่าง Line Friends มาตกแต่งพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อร่วมเฉลิมฉลองช่วงคริสต์มาสและ Year End Festival จะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางเข้ามาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของไลน์ในการจัด Decoration ขนาดใหญ่เช่นนี้ พร้อมทั้งยังได้ออกแบบคาแร็คเตอร์ Limited Edition เป็นพิเศษในโอกาสร่วมฉลอง 40 ปี เซ็นทรัลพัฒนาอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็น Top 5 จุดที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปเช็คอินและถ่ายรูปในฐานะ Global Destination ในช่วงคริสมาสต์ได้อย่างแน่นอน
“ไม่เพียงแค่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์เท่านั้น แต่ในทุกศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศ จะมีการ Decoration เพื่อสร้าง Global Destination ให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลัก เมืองรอง หรือในเมืองท่องเที่ยว เพื่อร่วมฉลองความสุขในช่วงเทศกาลอย่างแท้จริง ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถมาฉลองได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศได้ รวมทั้งช่วยสร้าง Tourism Ecosystem ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแกนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสนี้ และช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้แตะ 10 ล้านคนได้ตามเป้าหมายที่ ททท. วางไว้อย่างแน่นอน ขณะที่ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอง เชื่อว่าจะเพิ่มทราฟฟิก หรือจำนวนคนเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ได้มากกว่า 30% จากจำนวนคนเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์โดยเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 1.3 ล้านคน”
สำหรับ Line Friends ถือว่าเป็นหนึ่งในคาแร็คเตอร์ที่สามารถ Associate กับผู้คนได้ทั่วโลก โดยเฉพาะแค่ในประเทศไทยก็มีฐานผู้ใช้งานไลน์มากกว่า 53 ล้านบัญชี และถือเป็น Global Characters ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จัก มีการโคแบรนดิ้งทั้งกับสินค้าหลากหลายแบรนด์ มีการต่อยอดเพื่อสร้าง Engage ทั้งในรูปแบบ Line Store ทั้งในเอเชีย และในนิวยอร์ก และแอลเอ รวมทั้งการต่อยอดไปสู่ Line Cafe รวมทั้งการทำ Decoration ในหลากหลายครั้งมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในประเทศไทย ถือเป็นสเกลที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก และยังมีคาแร็คเตอร์ที่เป็น Limited Edition จึงน่าจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาในประเทศไทย
ประกอบกับ การวางกลยุทธ์ของทางซีพีเอ็นผ่าน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ 1) Emotional & Omnichannel marketing เพื่อสื่อสารถึงโมเมนต์แห่งความสุขจากบรรดาคาแร็คเตอร์ไลน์จากทุกทัชพ้อยท์ผ่านกิจกรรมหลากหลายทั้ง Onground และ Online 2) Cross-region Platform to drive scalable impact เพื่อต่อยอดประสบการณ์ที่ได้รับภายในงานให้สามารถสร้างสเกลการรับรู้ไปสู่ระดับโกลบอลผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งเป็นจุดแข็งของไลน์ และ 3) Multi-Brands Collaboration ความร่วมมือจากแบรนด์ที่มาร่วมครีเอทผลิตภัณฑ์มาร่วมครีเอท LINE FRIENDS คอลเลคชั่นพิเศษ ทั้งสินค้าแฟชั่น ขนม-เครื่องดื่ม ประกอกการจัดรายการส่งเสริมการขายในช่วง Year End Campaign จากแคมเปญหลักคือ Embracing Happiness ในช่วง 9 พ.ย. 2565 – 6 ม.ค. 2566 ที่สร้างความคุ้มค่าและช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี