เนสกาแฟ ส่ง ‘ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย’ เมล็ดพันธุ์แห่งการปลูกอย่างยั่งยืน ร่วมฉลองวันกาแฟสากล

กาแฟแก้วเล็ก ๆ มีพลังมากกว่าที่เราคิด และมีบทบาทสำคัญทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะว่า ‘กาแฟทุกเมล็ดสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้’

เบื้องหลังความสำเร็จของกาแฟคุณภาพจากเนสกาแฟ มาจากความทุ่มเทของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ จึงเป็นที่มาของการฉลองวันกาแฟสากลในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นประจำทุกปี หรือที่เราเรียกว่า ‘เนสกาแฟ เดย์’ 

ซึ่งในปีนี้ เนสกาแฟ ได้นำเสนอสุดยอดกาแฟลิมิเต็ด เอดิชั่น อย่าง เนสกาแฟ ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย ลิมิเต็ด เอดิชั่น เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ชั้นดี สำหรับคอกาแฟและสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเกษตรกรไทย ภายใต้โครงการด้านความยั่งยืนระดับโลกอย่าง ‘เนสกาแฟ แพลน’ มาจำหน่ายทั้งในรูปแบบเมล็ดกาแฟ พร้อม 4 เมนูพิเศษ ​ที่เนสกาแฟ สตรีท คาเฟ่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยมีจำกัดเพียงแค่ 5 หมื่นถ้วยเท่านั้น

สำหรับ ‘เนสกาแฟ แพลน’ เป็นโครงการด้านความยั่งยืนระดับโลก​ที่ขับเคลื่อนมาตลอดหลายทศวรรษ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ และสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนให้กับวงการกาแฟไทย โดยใช้ความเชี่ยวชาญ ขนาดธุรกิจและการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุมของเนสกาแฟ มายกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ทั้งมุ่งส่งเสริม ทฤษฎีเกษตรฟื้นฟู ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเนสกาแฟ แพลน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกาแฟให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่การดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

ขับเคลื่อนความยั่งยืนตามกรอบ ESG

สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของ เนสท์เล่ ที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในการดูแลและฟื้นฟูระบบอาหารในวงกว้าง พร้อมวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 โดยแนวทางในการส่งเสริมทฤษฎีเกษตรฟื้นฟู เพื่อปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกร และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชน เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยให้เนสท์เล่สามารถพิชิตเป้าหมายดังกล่าว

คุณทาธฤษ กุณาศล ผู้จัดการฝ่ายบริการการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการเนสกาแฟ แพลน ริเริ่มขึ้นโดยเนสท์เล่ได้สนองพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วยการริเริ่มฟาร์มทดลองและสาธิตที่จังหวัดเชียงราย เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและชุมชนผู้ปลูกกาแฟในประเทศไทยให้ดีขึ้นต่อเนื่องมาหลายทศวรรษ ​พร้อมพลิกฟื้นพื้นที่ปลูกฝิ่นเมื่อ 40 ปีก่อน ให้กลายเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟคุณภาพ ด้วยการคัดเลือก 2 สายพันธุ์ที่ดีที่สุดมาเพาะเป็นต้นกล้าคุณภาพแจกจ่ายให้กับชาวเขา จนเปลี่ยนจากการปลูกฝิ่นมาเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟได้สำเร็จ ช่วยสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรชาวเขา ทำให้ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐาน เพราะสามารถมีอาชีพที่ดีในบ้านเกิด

นอกจากช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรชาวเขา ทำให้ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐาน เพราะสามารถมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ในบ้านเกิดแล้ว เนสกาแฟ แพลน ยังตอบโจทย์ครบทั้ง 3 เสาหลัก ทั้งเรื่องของธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะการส่งเสริมการปลูกกาแฟ โดยเฉพาะแนวทางในประเทศไทยที่เน้นรูปแบบการทำเกษตรเชิงฟื้นฟู ที่เป็นการปลูกกาแฟในพื้นที่ป่า ยังช่วยสร้างความผูกพันและสำนึกรักษ์ป่า ช่วยเพิ่มแนวร่วมในการดูแลรักษาป่าจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ รวมทั้งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูธาตุอาหารในดิน และช่วยปกป้องหน้าดิน ทำให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งต้นไม้ใหญ่ในป่าและคุณภาพดินที่ดีจะช่วยเพิ่มการดูดซับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เชียงรายเป็นตัวอย่างที่ดี ที่สามารถสะท้อนความสำเร็จในการขับเคลื่อนโครงการเนสกาแฟ แพลน ที่เนสกาแฟได้เข้าไปส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนมาหลายทศวรรษ จนเป็นที่มาของการพัฒนา เนสกาแฟ ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย เพื่อนำมาเสิร์ฟผ่านร้านเนสกาแฟ สตรีท คาเฟ่ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เชียงรายเท่านั้น แต่ยังมีการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟทั่วประเทศ ทั้งโรบัสต้าและอาราบิก้า ซึ่งยังเป็นอีกหนึ่งการสร้างความมั่นคงให้กับวัตถุดิบสำหรับใช้ในธุรกิจของเนสกาแฟด้วย ซึ่งปัจจุบันเนสกาแฟรับซื้อกาแฟจากภายในประเทศ ในกลุ่มโรบัสต้ากว่า 70% ของปริมาณการผลิตทั่วประเทศ และเกือบ 10% ในกลุ่มอาราบิก้า ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนการใช้ผลผลิตในประเทศให้มากขึ้น หากมีปริมาณการผลิตที่เติบโตและเพียงพอต่อความต้องการ”​

เพิ่มโอกาสจากดีมานด์ Specialty Coffee

ด้าน คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารและเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวเพิ่มเติมว่า​ เนสกาแฟ ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย มีความโดดเด่นทั้งรสชาติและสัมผัส ด้วยฟรุตตี้เทสต์โน้ตของเกรปฟรุต ซิตรัส และคาราเมล ที่ผ่านกระบวนการคั่วแบบอ่อนถึงกลาง ให้รสชาติที่บาลานซ์ ถือเป็นกาแฟในฝันสำหรับคอกาแฟที่กำลังมองหารสชาติที่ซับซ้อนและให้สัมผัสที่แปลกใหม่แต่รสชาติยังคงทานง่าย อร่อยกลมกล่อม โดยได้เลือก 4 เมนูพิเศษ ที่ได้ผ่านการรังสรรค์และเอาใส่ใจจากบาริสต้า เพื่อให้ยังคงรักษาคาแร็คเตอร์ รสชาติ และผิวสัมผัสที่ดีเยี่ยมของความลิมิเต็มไว้ได้อย่างครบถ้วน ได้แก่ Signature Hot Drip, Supreme Black, Mellow White และ Dirty ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายเนสกาแฟ สตรีท คาเฟ่ ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หรือจนกว่าสินค้าจะหมด เนื่องจากมีจำกัดเพียงแค่ 5 หมื่นถ้วยเท่านั้น

“เนสกาแฟ ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย มีจำหน่ายทั้งแบบเมล็ดกาแฟที่คั่วแล้วในราคา 490 บาทต่อถุง และ 4 เมนูพิเศษ ที่ยังคงรักษาความพิเศษของเมล็ดกาแฟชั้นเยี่ยมไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยคอกาแฟ และสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ สามารถสัมผัสความพิเศษได้ที่ เนสกาแฟ สตรีท คาเฟ่ หรือสั่งซื้อเมล็ดกาแฟในช่องทางออนไลน์ได้ที่ แพนด้ามาร์ท ซึ่งในช่วงเปิดตัว ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ซิงเกิ้ล ออริจิ้น เชียงราย จะได้รับของที่ระลึก “ถุงปุ๋ยกากกาแฟ” ฟรี  จากชาวสวนกาแฟในจังหวัดเชียงรายในจำนวนจำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะหมด”​

อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมในการดื่มกาแฟที่เติบโตเป็นโอกาสที่จะส่งผ่านไปยังกลุ่มเกษตรกรไร่กาแฟได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยแนวโน้มการเติบโตยังถือว่ามีอีกค่อนข้างมาก จากปัจจุบันเนสกาแฟได้เสิร์ฟให้คนไทยจำนวนถึง 260 แก้วในทุกๆ วินาที ซึ่งแนวโน้มการเติบโตยังมีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะหากเทียบกับหลายๆ ประเทศ ที่มีการบริโภคกาแฟ สูงกว่าไทยหลายเท่าตัว

Stay Connected
Latest News