มีปริมาณอาหารถึง 1 ใน 3 ที่ผลิตมาเพื่อการบริโภค แต่สุดท้ายแล้วต้องกลายมาเป็น Food waste ซึ่งเป็นสาเหตุของการสร้างก๊าซเรือนกระจก (GHG) ด้วยสัดส่วนถึง 8-10% ในแต่ละปี
เป็นเหตุผลให้ Sainsbury’s เครือซูเปอร์มาร์เก็ตเบอร์สองในสหราชอาณาจักร จึงได้เกิดไอเดียในการสร้าง Pop up Concept Store แห่งแรกขึ้นมา ในชื่อ “Sainsfreeze” ซึ่งเป็นเสมือนตู้เย็นโชว์เคสที่มีจุดประสงค์ในการแสดงให้เห็นวิธีการใหม่ๆ ในการเก็บรักษาอาหารที่ต้องแช่แข็งเพื่อให้อาหารสดอยู่ได้นานขึ้น ช่วยลดขยะอาหาร และยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดวางให้เกิดประโยชน์สูงสุด
Sainsfreeze ออกแบบมาให้เป็น frozen groceries ที่มองจากภายนอกจะเหมือนกับ Sainsbury’s เพื่อให้ชาวอังกฤษได้เข้าไปเรียนรู้นวัตกรรมวิธีการแช่แข็ง ซึ่งภายในจะให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับการถนอมอาหารอย่างถูกวิธีในหลายๆ ประเภทไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ นม ผัก ผลไม้ เพื่อป้องกันอาหารส่วนเกินที่จะกลายไปเป็นขยะอาหาร และยังช่วยลูกค้าประหยัดเงินในกระเป๋าในสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญเงินเฟ้ออย่างเช่นในปัจจุบันนี้
สำหรับอาหารแต่ละประเภทที่อยู่ภายใน Sainsfreeze มักจะเป็นอาหารที่คนอังกฤษส่วนใหญ่เลือกที่จะทิ้งเมื่อใกล้หมดอายุ เช่น นม ไข่ ขนมปัง หัวหอม และอาหารอื่นๆ ที่มักกลายเป็นขยะอาหารอย่างกล้วย และผักต่างๆ นวัตกรรมในการแช่แข็งอาหารจึงเป็นทางออกที่ทำให้ผู้บริโภคยังคงได้รับอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และในขณะเดียวกันก็ดีต่อโลกด้วย เนื่องจากขยะอาหารเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิด Climate Change เช่นเดียวกัน
แคมเปญดังกล่าวนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของ Sainsbury’s ที่มีความมุ่งมั่นในการลดขยะอาหารในการดำเนินงานลงครึ่งหนึ่ง ภายในปี 2030 โดยสามารถลดจำนวนการทิ้งขยะไปสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ได้สำเร็จแล้ว ตั้งแต่ปี 2013 และล่าสุดยังได้ลบการระบุวันที่ “ควรบริโภคก่อน” (best befor) บนฉลากสินค้า 276 รายการ ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ ยังเป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่ Sainsbury’s ได้ทำการบริจาคอาหารให้ผู้คนโดยรอบ โดยได้บริจาคให้ผู้มีความต้องการไปแล้วมากกว่า 5 ล้านมื้อ
โดย Sainsfreeze จะเปิดให้บริการภายในห้าง Shoreditch’s Boxpark ในกรุงลอนดอน เพียง 2 วัน ระหว่างวันที่ 27-28 กันยายน 2565 นี้ เพื่อเป็นการช่วยจุดประกาย และขับเคลื่อนเป้าหมายในการลดปริมาณขยะอาหารให้น้อยลง โดยปริมาณอาหารส่วนเกินทั้งหมดจาก Sainsfreeze จะถูกบริจาคให้กับ Sainsbury’s สำหรับการนำไปบริจาคให้กับ FareShare องค์กรการกุศลด้านการจัดส่งอาหารที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในอังกฤษเพื่อมั่นใจว่าจะไม่มีอาหารเหลือทิ้งจนกลายเป็นขยะอาหารตามมา