นิสสัน ภูมิใจที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของทีม “เหยี่ยวไฟเชียงใหม่” ในการพิชิตไฟป่าได้ตามเป้าอย่างปลอดภัย

 

“พวกเราเหนื่อยน้อยลง เข้าถึงพื้นที่ไฟป่าได้ทันเหตุการณ์ ดับไฟได้รวดเร็วและปลอดภัย ที่สำคัญคือ สามารถช่วยลดต้นเหตุของปัญหาฝุ่นควันและช่วยพิทักษ์ป่าไม่ให้ถูกทำลายได้มากขึ้นด้วย” นี่คือเสียงแห่งความภาคภูมิใจของเหล่าคนกล้า “ทีมเหยี่ยวไฟ” จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับ
การสนับสนุนรถกระบะนิสสันนาวารา Pro-4x และเครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ (Battery Powered Blower) จากภารกิจพิเศษ NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง เพื่อดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดขึ้นโดย นิสสัน ประเทศไทย

มร.มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย นิสสัน ประเทศไทยกล่าวว่า “สำหรับภารกิจพิเศษ “NISSAN NAVARA PRO-4X FIRE RESCUE TEAM กล้า…เพื่อคนแกร่ง” ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนทีมเหยี่ยวไฟ จังหวัดเชียงใหม่ ในการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นมา ด้วยการมอบรถกระบะนิสสันนาวารา Pro-4x จำนวน 3 คัน รวมถึงการมอบอุปกรณ์สำหรับดับและไล่ไฟป่า เครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ (Battery Powered Blower) อีกจำนวน 5 ชุด สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการปฏิบัติภารกิจพิชิตไฟป่าได้เป็นอย่างดี

โดยจากการเก็บข้อมูลร่วมกับทีมเหยี่ยวไฟ หน่วยงานป้องกันและควบคุมเพลิงตามแนวป่า ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พบว่ามีการใช้รถกระบะนิสสันนาวาราปฏิบัติภาระกิจทั้งหมด 48 ครั้ง สามารถช่วยให้ทีมเหยี่ยวไฟ “เข้าถึงพื้นที่ Hot Spot ได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ในการดับไฟป่า และควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง เนื่องด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงโครงสร้างของรถมีความแข็งแกร่ง ทนทาน มาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะมากมาย จึงสามารถลุยไปได้ทุกสภาพพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเครื่องเป่าลมแบตเตอรี่ ก็สามารถช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น “ปลอดภัย” ไม่ต้องกังวลกับเศษเปลวไฟที่จะปลิวมาติดถังน้ำมัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟคลอกเหมือนเครื่องรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังช่วย ลดเวลาการปฏิบัติงาน ประมาณ 30-50% จากเดิมการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าต่อครั้งจะใช้เวลาเฉลี่ย 5 ชั่วโมง ถึง 2 วัน เหลือเพียง 3 ชั่วโมงสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก และ 1 วันสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 20 ไร่ขึ้นไป

มร.มาซาโอะ กล่าวต่อว่า  “สถานการณ์ไฟป่าเป็นปัญหาระดับชาติที่เกิดขึ้นทุกปี พบมากที่สุดในภาคเหนือและในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ปีละไม่ต่ำกว่า 1,305 ครั้ง ส่งผลให้พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 33,369 ไร่ โดยมีทีมเหยี่ยวไฟที่มีกองกำลังเพียง 20 คน เป็นบุคลากรด่านหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักในการสู้รบกับไฟป่าที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างรวดเร็วและไร้ทิศทางที่แน่นอน ท่ามกลางการปฏิบัติหน้าที่บนภูมิประเทศที่ยากลำบากต่อการเข้าถึง ดังนั้น ภารกิจนี้เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญว่า ปัญหาไฟป่าอาจลดลงได้มากขึ้น หากหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง และปัญหาไฟป่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบของทุกคน ไม่ใช่เพียงคนใดคนหนึ่ง หรือองค์กรได้องค์หนึ่ง เพราะตราบที่เรายังคงใช้อากาศบริสุทธิ์ในการหายใจ เราจำเป็นต้องร่วมด้วยช่วยกันลดปัญหาไฟป่า เริ่มต้นจากคนในพื้นที่ลดการเผา คนกรุงช่วยสนับสนุนการทำงานของคนด่านหน้า เพียงเท่านี้ปัญหาไฟป่าในประเทศไทยก็จะลดน้อยลง”

“จากความสำเร็จในครั้งนี้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจดับไฟป่าครั้งใหม่ในอนาคตที่นิสสัน ประเทศไทย พร้อมก้าวต่อไปควบคู่กับภารกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ และจะยังคงสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่สังคมไทย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของนิสสัน ที่ต้องการขับเคลื่อนและก้าวสู่อนาคต ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” 

Stay Connected
Latest News