หลังจากประสบความสำเร็จกับการบรรลุ 2 เป้าหมายสำคัญในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีสเทิร์น สเปครตัรม กรุ๊ป (ESG) กำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางเพื่อการเป็นผู้นำด้านการเพาะปลูกพืชกัญชงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและผู้ผลิตสารสกัดจากกัญชงเกรดยารายแรกในราชอาณาจักร
เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ESG ได้ให้การต้อนรับข้าราชการส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ตำรวจ และผู้ตรวจสอบดูแลความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อเข้าตรวจสอบความพร้อมของไร่กัญชงในจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการปลูกกัญชาหลากหลายสายพันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 26 โซน โดยแต่ละโซนมีสายพันธุ์เฉพาะแตกต่างกันไป ในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ทั้ง 200 ไร่ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ให้แน่ใจว่าปัจจุบันทั้งโรงงานได้ปฏิบัติตามขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานตามกฎระเบียบที่จำเป็นอย่างเคร่งครัด
หลังจากการตรวจสอบของหน่วยราชการภายในจังหวัดเสร็จสิ้น ทำให้บริษัทผ่านเกณฑ์การตรวจสอบด้านกฎระเบียบระดับแรกเป็นที่เรียบร้อย ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ ESG ก้าวเข้าสู่เป้าหมายต่อไปเพื่อการเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนเจ้าแรกๆ ที่สามารถเพาะปลูกพืชกัญชงในประเทศไทย และยังเป็นผู้เพาะปลูกกัญชงบนพื้นที่กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ แผนโรงงานสกัดของ ESG ยังได้รับการอนุมัติจากกองควบคุมยา ซึ่งการอนุมัตินี้ถือเป็นการยอมรับในการออกแบบโรงงานของ ESG ว่าเป็นไปตามมาตรฐาน PIC/S GMP และเมื่อการก่อสร้างโรงงานเสร็จสิ้น จะทำให้ ESG สามารถผลิตยาได้ทั้งแบบแผนโบราณและแผนปัจจุบัน ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ และสารสกัดเชิงพาณิชย์อื่นๆ อีกด้วย
การได้รับการอนุมัติแผนโรงงานตามการรับรอง PIC/S GMP ได้ทำให้ ESG เป็นหนึ่งในผู้ผลิตสารสกัดจากกัญชาเกรดยาเพียงไม่กี่รายของประเทศ ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ ESG สามารถดำเนินบทบาทต่อไปในฐานะผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมกัญชงและกัญชาไทย
“ท่ามกลางความคลุมเครือเกี่ยวกับการค้าและอนาคตของอุตสาหกรรม เราได้ตอกย้ำถึงบทบาทของเราในฐานะคู่แข่งคนสำคัญในการจัดหาสารสกัดที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง ขนาดการผลิตของเรา และเมื่อเราได้รับตรารับรองจากรัฐบาลจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าของเราว่า ESG สามารถตอบสนองความต้องการด้านการผลิตของพวกเขาได้แน่นอน” ธนิสร บุญสูง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์น สเปคตรัม กรุ๊ป จำกัด กล่าว