DialogueTop Stories

Why & How ผู้ประกอบการปรับตัวสู่ Green Hotel รับเทรนด์​ท่องเที่ยว​ยั่งยืนเติบโต

 การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน  ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์การท่องเที่ยวที่มาแรงในปี 2025 ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว จึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป

‘ความยั่งยืน’ ​เข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจใน​ปัจจุบัน โดยเฉพาะ​ธุรกิจ​ท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวยุคใหม่​​มองหาและให้ความสำคัญมากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยวหรือที่พัก​ แต่​​ให้ความสำคัญต่อ​ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทาง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ให้ความ​สำคัญเพิ่มมากขึ้น​ต่อเนื่อง

รายงานของ Sustainable Travel Study ของ Expedia Group ระบุว่า นักท่องเที่ยวยุคใหม่พร้อม​จ่ายแพงกว่าให้กับบริการ ที่พัก การเดินทาง หรือแบรนด์ท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ​ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน  โดยเฉพาะผู้ให้บริการด้านที่พัก หากบริหารตามแนวทาง โรงแรมสีเขียว หรือ Green Hotel ก็จะเพิ่มโอกาสในการเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น

finbiz by ttb ระบุในรายงาน  ‘Green Hotel โรงแรมสีเขียว…ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่’  ให้คำจำกัดความ ‘โรงแรมสีเขียว’ หรือ Green Hotel คือ โรงแรมที่มีการบริหารจัดการ และดำเนินงาน โดยคำนึงถึงความยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคม ​ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร ​มุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงาน การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การลดขยะ และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการ​รักษาบริการที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานสูงให้แก่ผู้เข้าพัก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม หากสามารถ​ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น ​ขณะเดียวกันหาก​ไม่เร่งปรับเปลี่ยนก็อาจะทำให้เสียโอกาสได้เช่นกัน

Why  : ทำไมโรงแรมจึงควรเปลี่ยนมาเป็น Green Hotel

1. ลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

เมื่อองค์ประกอบของธุรกิจการเดินทาง ท่องเที่ยว และโรงแรม ส่งผลต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากการบริโภคที่มากเกินไป หรือปัญหานักท่องเที่ยวเกินระดับที่เหมาะสม อาจส่งผลให้คนหรือสัตว์สูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการพังทลายของดิน มลภาวะ และการเพิ่มแรงกดดันจนอาจทำให้สัตว์บางประเภทสูญพันธ์ได้ และยังพบว่าธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ระดับ 96  ขณะที่อุตสาหกรรมที่คล้ายคลึงกันมีค่าเฉลี่ยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ระดับ 80

2. นักท่องเที่ยวยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

จากเทรนด์การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่เติบโต​  นักท่องเที่ยวจึง​ให้ความสำคัญกับโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่ม​ขึ้นเช่นกัน ธุรกิจโรงแรมจึงจำเป็นตัอง​ปรับตัวและให้ความสำคัญ​ในการตอบโจทย์​ความยั่งยืน และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยพบว่าความกังวลต่อปัญหาสภาพอากาศ ส่งผลให้มีการเลือกพักใน​ Green Hotel เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังมองหาจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยจาก​​สภาพอากาศ​รุนแรง เช่น พายุเฮอริเคน น้ำท่วม และอุณหภูมิที่​สูงขึ้น ​สะท้อนว่า​ ปัจจัยด้านความยั่งยืนมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เมื่อวางแผนการเดินทาง ​รวมทั้งกิจกรรมที่สามารถทำได้ในจุดหมายปลายทางนั้น

3. ความยั่งยืนคือผลกำไรของธุรกิจ

เมื่อดีมานด์​การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามผลสำรวจ​ Expedia Group ร่วมกับ Wakefield Research พบว่า 69% ของนักท่องเที่ยวมองหาทริปที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ 3 ใน 5 ของนักท่องเที่ยว เลือกวิธีเดินทางและที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่พักทั่วไป ส่งผลให้โรงแรมที่ไม่ปรับตัวสู่การเป็น  Green Hotel มีโอกาส​สูญเสียรายได้ และลูกค้ายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ส่งผลให้​ความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจในภาพรวมลดลงด้วยเช่นกัน

How :  สิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เมื่อต้องการยกระดับเป็น Green Hotel

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานที่เป็นคนกำหนดมาตรฐานของ Green Hotel ของประเทศไทย กำหนดเกณฑ์​ประเมินโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไว้ 7 ด้าน ซึ่งอาจใช้เป็น Guideline ให้ผู้ประกอบการ​นำไปปรับตัว เพื่อ​ยกระดับสู่​การเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  หรือ Green Hotel  ประกอบด้วย

1. นโยบายด้านการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นแนวทางการดำเนินงานด้านการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีทั้งผู้บริหาร และพนักงานร่วมดำเนินการ

2. การพัฒนาบุคลากร เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถและทักษะในการทำงานด้านบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3. การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และความร่วมมือจากบุคลากรของโรงแรม รวมไปถึงลูกค้าที่มาใช้บริการ

4. มีการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงคุณภาพ ราคา และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต

5. มีการจัดการสิ่งแวดล้อม และพลังงาน โดยมีการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน รวมถึงมีการจัดการของเสียและมลพิษให้หมดไป หรือไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

6. การมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นและชุมชนในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ด้วยการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

7. การประเมินประสิทธิภาพเพื่อการปรับปรุงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อนำข้อมูลการดำเนินงานด้านการให้บริหารดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานโรงแรมสีเขียวระดับสากลอีกหลายมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ที่ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนได้   เช่น มาตรฐาน LEED มาตรฐาน Green Key มาตรฐาน Earthcheck และมาตรฐาน GSTC เป็นต้น

ขณะที่การปรับตัวสู่ Green Hotel จำเป็นต้องมีการลงทุนทั้งการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน หรือการปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือช่วยให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางทีทีบี (TTB) พร้อมเป็นพันธมิตรสนับสนุนลูกค้าธุรกิจโรงแรมในการเปลี่ยนผ่านสู่ Green Hotel พร้อมบริการโซลูชันสินเชื่อเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ทีทีบี ที่จะช่วยให้โรงแรมประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว เสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน