กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มระดับโลกภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (Red Bull) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม ไฮ่! เพียวริคุ ซันสแนค และ วอริเออร์ ร่วมมือกับ บีไอจี ผู้นำด้านก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน ประกาศนำไนโตรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีมาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มให้พลังงาน แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์ แบรนด์สปอนเซอร์ เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ แบรนด์แมนซั่ม และขนมขบเคี้ยวไทย แบรนด์ซันสแนค
ซึ่งไนโตรเจนคาร์บอนต่ำผลิตโดยกระบวนการที่ลดการใช้ไฟฟ้า สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไนโตรเจนในกระบวนการผลิตทั่วไป นับเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคต่อไป
ก้าวสำคัญสู่เป้าหมายความยั่งยืน
การร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ ด้วยการเลือกใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำในกระบวนการผลิตเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมถึง สแนคของกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตเครื่องดื่มแล้วนั้น ยังเป็นการสร้างมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยด้วย
โดยไนโตรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจี ผลิตโดยกระบวนการที่ลดการใช้ไฟฟ้า ผ่านการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ว่าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไนโตรเจนในกระบวนการผลิตทั่วไป โดยการใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีนั้น จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 3 (Scope 3) ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากกระบวนการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทั้งสองบริษัทที่มุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งสู่การผลิตที่ยั่งยืน เดินหน้าสู่เป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ปัจจุบันสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงกว่า 10% และใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่า 80% ความร่วมมือกับบีไอจีครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยให้ก้าวไปอีกขั้น
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ในฐานะ House of Great Brands เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมการผลิตสู่ Smart Manufacturing ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ เช่น ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภค นี่คือความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่าอย่างแท้จริง
บีไอจี พร้อมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า บีไอจีเดินหน้าในการเป็นผู้นำนวัตกรรมเพื่อช่วยสภาพภูมิอากาศในอุตสาหกรรมไทยอย่างเต็มที่ โดยบีไอจีเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเจ้าแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก อบก. ว่าก๊าซจากบีไอจีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 50%
ซึ่งจะช่วยภาคอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างยั่งยืน ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกเกี่ยวกับภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ซึ่งเป็นระเบียบการค้าของโลกยุคใหม่ รวมถึงสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในความปลอดภัยของการใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำจากบีไอจี
การส่งมอบไนโตรเจนคาร์บอนต่ำให้กับกลุ่มธุรกิจ TCP ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมรวม เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีไอจีในการสร้างสรรค์โซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตาม กลยุทธ์ Generating a Cleaner Future