Top StoriesTrending

แผน ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย’ ​สู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่คนรักมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมแผนลงทุน 1 พันล้านบาท ใหญ่สุดรอบ 7 ปี

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มีเป้าหมาย​สูงสุดในการเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย  (The Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity) ​โดยมุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าองค์กรภายใต้ความเข้าใจอินไซต์ที่แท้จริงของทั้งผู้บริโภค ​ คู่ค้า ลูกค้า รวมถึงพนักงาน

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เดินหน้าลงทุนใหญ่รอบ 7 ปี หลังการควบรวมธุรกิจตั้งแต่ปี 2018  ผ่านงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท ติดตั้ง​​ไลน์ผลิตเพิ่ม 2 สายการผลิต เพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีกกว่า 50% รองรับการเติบโตและการขยายตัวของตลาดในอนาคต

พร้อมประกาศเป้าหมาย การเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย  (The Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity)  ภายใต้กลยุทธ์ Must Win เพื่อ​ตอกย้ำความ​แข็งแกร่งทั้งด้านผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม คู่ค้า ความยั่งยืน รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน

คุณทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอด​ 7 ปีที่ผ่านมา บริษัท​เติบโต​เฉลี่ย 8.2% ซึ่งเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ถึง 2 เท่า รวมทั้งสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมซึ่งเป็นพอร์ตใหญ่ราว 75% ของบริษัท โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแรงในตลาดไม่มีน้ำตาลซึ่งเป๊ปซี่​มีแชร์มากถึง 42% ​และเติบโตได้สูงถึง 16.1%  ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มไม่อัดลม ซึ่งสามารถขยายการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอได้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 5 เท่า

สำหรับการเติบโตในปีนี้จะสานต่อ​กลยุทธ์ ​Must Win เพื่อรักษาความแข็งแกร่งในตลาด และสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยมีแผนลงทุนเพิ่มกว่า 1 พันล้านบาท และถือเป็นการลงทุนมากที่สุดในรอบ 7 ปี เพื่อขยายกำลังผลิตในโรงงานที่สระบุรีเพิ่มขึ้นอีก 50% เพื่อรองรับการเติบโตของเครื่องดื่มที่ทำตลาดในปัจจุบัน รวมทั้งการเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมไปถึงการได้มาซึ่งอินไซต์ในการต่อยอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคต  ​

“นอกจากเป้าหมายเชิงธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งมิติสำคัญที่บริษัทไม่เคยละเลยคือการสร้าง Positive Impact เพื่อเป็นการส่งคืนประโยชน์และคุณค่า​ให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการพัฒนาศักยภาพในการผลิตที่ทำได้กว่า 1,300 ล้านลิตรในแต่ละปี  ​โดยเราเป็นรายแรกในตลาดที่นำพลาสติกรีไซเคิล rPET 100% มาใช้ในบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2023 และปัจจุบันสามารถขยายการใช้ไปสู่ 18 SKUs ช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin PET) ลงได้แล้วกว่า 8,300 ตัน  รวมทั้งการคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ที่เพียง 1.4 ลิตรสำหรับการผลิตเครื่องดื่ม​ 1 ลิตร โดยมีปริมาณการสูญเสียที่ 0.4 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่ม ซึ่งทางบริษัทได้วางเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตเพื่อสามารถลดก๊าซเรือนกระจกลงได้ 50% ลดการสูญเสียน้ำให้เหลือ 0.38 ลิตร ต่อการผลิต1 ลิตร รวมทั้งขยายการใช้บรรจุภัณฑ์ rPET ให้เป็น 50% ของพอร์ตโฟลิโอทั้งหมด”​

ทั้งนี้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มีเป้าหมาย​สูงสุดในการเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย  (The Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity) ​โดยมุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าองค์กรภายใต้ความเข้าใจอินไซต์ที่แท้จริงของทั้งผู้บริโภค ​ คู่ค้า ลูกค้า รวมถึงพนักงาน เพื่อมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน (Growing for Good) ความกล้าในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่และแตกต่าง (Yatte Minahare) และการคำนึงถึงการส่งคืนให้แก่สังคม (Giving Back to Society) ผ่านกลยุทธ์  Must Win ที่ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ​ใช้เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่นอสู่ความสำเร็จ และจะสานต่อเพื่อเน้นย้ำการส่งมอบคุณค่าองค์กรไปสู่ Stakeholders ในทุกมิติ ผ่าน 5 แนวทาง ต่อไปนี้

1. เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม (Strengthen Core)  ผ่านการรสชาติใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งปัจจุบันพอร์ตหลักของผลิตภัณฑ์ยังเป็นกลุ่มน้ำอัดลม (CSD) ที่ 75% ​โดยกลุ่มไม่มีน้ำตาล​ เป็นตลาดสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเป๊ปซี่มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดมโดยรวมที่ 39.1% และตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งให้ถึง 40% ในส้ินปีนี้​

2. ขยายกลุ่มนวัตกรรมเครื่องดื่ม (Portfolio Transformation) พัฒนา​​เครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม หรือกลุ่ม Non CSD ให้ตอบโจทย์เทรนด์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ทั้งการใส่ใจเรื่องสุขภาพ รสชาติ รวมทั้งประสิทธิภาพหรือฟังก์ชันต่างๆ โดยทุกแบรนด์ต่างมีศํกยภาพในการเติบโตทั้งชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัส ​กาแฟพร้อมดื่มบอส คอฟฟี่  เครื่องดื่มให้พลังงานแนวใหม่อย่างสติงค์ (Modern Energy Drink) ซึ่งแม้จะเพิ่งเริ่มทำตลาดแต่ได้รับการตอบรับที่ดี​ จนสามารถขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาดได้

3. สร้างความสำเร็จร่วมกับคู่ค้า (Win With Customers) ขยายฐานคู่ค้าทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางการจำหน่าย เน้นการใช้เทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพการขาย สร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว

4. ส่งเสริมการเติบโตระยะยาวด้วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมุ่งสู่ความยั่งยืน (Insulated Long Termเพื่อส่งมอบเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและ​ปลอดภัยตามมาตรฐาน ผ่านสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความสามารถในการบริหารจัดการน้ำในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด รวมทั้งยังเป็นบริษัทเครื่องดื่มรายแรกของไทยที่ใช้ rPET 100% ในการผลิตเครื่องดื่มเป๊ปซี่ จนปัจจุบันขยายมาสู่แบรนด์ชาพร้อมดิ่มทีพลัส  รวมกว่า 18 SKUs  (Pepsi 9 SKUs และ TEA+ 9 SKUs) เพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่ในการผลิตเครื่องดื่ม พร้อมทั้งยังมีการ​​​​ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำผ่านโครงการ ‘มิซุอิกุ’ (Mizuiku) ที่ขับเคลื่อนมากว่า 6 ปี ตั้งแต่ ปี 2562 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนโดยสามารถเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้แล้วกว่า 2.5 หมื่นคน ​

5. พัฒนาองค์กรพร้อมดูแลพนักงาน (Develop Organization) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับองค์กร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง การันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติจากหลากหลายเวที โดยล่าสุด ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน ‘50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2568’ (Top 50 Companies in Thailand 2025) จัดลำดับโดย WorkVenture ติดต่อกันถึง 2 ปี (2567 – 2568)

คุณอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เกิดจากความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมส่งมอบ​ประสบการณ์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น และยินดีจ่ายเงินเพื่อสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ รวมทั้ง​ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมทั้งยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา

“ภาพรวม​ตลาดเครื่องดื่มยังคงมีแนวโน้ม​เติบโต​ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มในกลุ่มน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มให้พลังงาน โดยบริษัทฯ  เดินเกมรุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับกลุ่ม Gen Z มากยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนา​ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในกลุ่มชาและกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงขยายการเติบโตในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน ผ่านแคมเปญการตลาด 360 องศา ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ”

คุณยศยุต สหวัชรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค​ เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ตามแนวคิด People-First มุ่งพัฒนาและดูแลบุคลากร เพื่อให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จขององค์กร โดยเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพ และวางแผนเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมตามแต่ละสายงาน ทั้งพนักงานที่ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่และที่โรงงานของเรา รวมถึงนำเสนอโอกาสที่หลากหลายและประสบการณ์การทำงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกให้กับพนักงานที่มีความสามารถ

“บริษัท​สนับสนุนให้พนักงาน​มีส่วนร่วมกับองค์กร สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนกล้าที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ ที่สำคัญ เรายังดำเนินโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากมาย ตอกย้ำค่านิยมองค์กร ‘การเติบโตอย่างยั่ งยืน’ (Growing for Good) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย โดดเด่นและกลายเป็นองค์กรในฝันของใครหลาย ๆ คน”