Top StoriesTrending

​Milestones & Next Step ‘เนสท์เล่ ประเทศไทย’ ขับเคลื่อน 4 Keys บรรลุแผน​ Net zero 2050 ตลอดห่วงโซ่ตั้งแต่ฟาร์มถึงผู้บริโภค

'เนสท์เล่ ประเทศไทย' ​เร่งขับเคลื่อนโรดแม็พสู่ความยั่งยืน​ พร้อมประกาศเป้าหมาย​ Carbon Reduction ที่ต้องบรรลุทั้งระยะสั้น กลาง และยาว และแนวทางขับเคลื่อนที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยจะขับเคลื่อนผ่านการลด และชดเชยคาร์บอนด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพาคาร์บอนเครดิต

‘เนสท์เล่ ประเทศไทย’ ประกาศ Milestones สำคัญในปี 2025 พร้อมอัพเดทความคืบหน้า การขับเคลื่อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในธุรกิจ (GHG Reduction) ตลอดทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ และภายใน Operation ไปจนถึงการดึงผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วม โดยปักหมุดแรกในปีนี้ที่ 20% ก่อนจะขยับสู่ 50% ในปี 2030 และก้าวสู่ Net Zero ได้ทั้ง 3 สโคป ภายในปี 2050 ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกันของเนสท์เล่ทั่วโลก

ทีมผู้บริหารผู้ขับเคลื่อนการทำงานจาก เนสท์เล่ ประเทศไทย ได้แก่  คุณศิรวัจน์ ปิณฑะดิษ นักวิชาการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด , ​คุณศุภวัฒน์ คามีเยาน์ ผู้จัดการด้านความยั่งยืนธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด, คุณเจนิกา คอนเด ครูซ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด, คุณ​วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า , คุณนิภาวรรณ โดดเสนา นักวิชาการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด,  คุณวันฉัตร ผลทวี ผู้จัดการฝ่ายบรรจุภัณฑ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และ คุณกันต์ เขมาชีวะกุล ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด (เรียงลำดับภาพ จากซ้ายไปขวา​) เปิดเผยแนวทางการขับเคลื่อนความยั่งยืนของ เนสท์เล่ ประเทศไทย ผ่าน 2 มิติ ด้วยแนวคิด Good For You และ Good For Planet เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อทั้งสุขภาพของผู้คน และดีต่อโลก

โดย Good For You​ จะมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขภาพให้​ผู้บริโภค ในฐานะผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุดในไทย ภายใต้ผลิตภัณฑ์หลากหลายแบรนด์มากกว่า 4,600 ล้านหน่วย ซึ่งมากกว่า 3,400 ล้านหน่วย ที่มีการเสริมวิตามิน และแร่ธาตุ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่เด็กทารก เด็กเล็ก และวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งมี 115 รายการที่ได้รับรองสินค้า ‘ทางเลือกสุขภาพ’  (Healthier Choice) รวมท้ังมุ่งส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและโภชนาการ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทยมาต่อเนื่องกว่า 16 ปี เพื่อสร้างองค์ความรู้เพื่อการกินอยู่อย่างสมดุลโดยสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากกว่า 5.48 ล้านคน

ส่วน Good For Planet ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ โดยไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการขับเคลื่อนอย่างบูรณาการตั้งแต่ต้นน้ำ จากการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะกลุ่มวัตถุดิบสำคัญของธุรกิจอย่างกาแฟ และน้ำนม การดูแลจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ และการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งภายใน Operation ของเนสท์เล่เอง รวมทั้งขยายความร่วมมือไปยังผู้บริโภ​ค เพื่อสามารถลด Carbon Emission ได้จากทั้ง 3 สโคป ​โดยวางเป้าหมายทั้งระยะสั้นลดคาร์บอนในสิ้นปี 2025 นี้ ให้ได้ 20%  พร้อมขยับเป็น 50% ภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ภายในปี 2050

4 Keys ขับเคลื่อน Net Zero Roadmap 

สำหรับการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ในแต่ละมิติ ทีมผู้บริหารเนสท์เล่ ประเทศไทย  กล่าวถึง Milestone และNext Step ของการ​ขับเคลื่อนโรดแม็พสู่ Net Zero ในแต่ละแนวทางไว้ดังต่อไปนี้

คุณนิภาวรรณ โดดเสนา นักวิชาการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

1. จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน (Sustainable Sourcing) 

Milestones 2025 :  ในส่วนของวัตถุดิบ โดยเฉพาะจากภาคการเกษตรและปศุสัตว์ เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่สร้าง Carbonfootprint ถึงกว่า 60% ของเนสท์เล่ ประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มวัตถุดิบสำคัญอย่างกาแฟ และน้ำนมดิบ ที่มีแผน Decarbonizations ผ่าน​นโนบาย​การจัดหา​อย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Sourcing) ให้ได้ท้ัง 100% รวมทั้งผลผลิตที่ได้ ต้องมาจากการทำเกษตรฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) 20%  ซึ่งปัจจุบันในส่วนของกาแฟ สามารถทำได้ตามเป้าหมายแล้ว

Next steps :  ​​มุ่งส่งเสริมการปลูกกาแฟและการเลี้ยงโคนมตามหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายพื้นที่การเพาะปลูกกาแฟสู่จังหวัดอื่น ๆ เช่น จังหวัดตาก และจังหวัดเลย ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายผู้ปลูกกาแฟกว่า 2,900 รายทั่วประเทศ  ส่วนกลุ่ม​เกษตรกรโคนม ​มุ่ง​พัฒนาคุณภาพน้ำนมและลดต้นทุน ทั้งการพัฒนาระบบอาหารโค ด้วยการจัดหาแหล่งหญ้าอาหารสัตว์มาป้อนฟาร์มโคนม พร้อมสร้าง By Product จากมูลโค ​ด้วยการขยายพื้นที่สำหรับตากมูลโค และส่งเสริมการนำมูลโคบางส่วนไปเลี้ยงไส้เดือนเป็นปุ๋ยคุณภาพสูง สร้างรายได้ที่สูงขึ้นให้เกษตรกร

คุณศิรวัจน์ ปิณฑะดิษ นักวิชาการเกษตร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

2. ดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน (Water Stewardship)

Milestones 2025 : น้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญของ เนสท์เล่ ประเทศไทย การฟื้นฟูและดูแลแหล่งน้ำ จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ​พร้อมวางเป้าหมายการคืนน้ำ ผ่านตัวชี้วัดจากปริมาณน้ำที่ใช้ในโรงงานผลิตน้ำดื่มทั้ง 2 แห่งของเนสท์เล่ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสุราษฎร์ธานี​ เพื่อชดเชยน้ำกลับคืนสู่ธรรมชาติและชุมชน ในปริมาณเท่ากับที่​ใช้ในการดำเนินธุรกิจน้ำดื่มทั้งหมด 100% หรือ​​คิดเป็นปริมาณ​กว่า 1ล้านลูกบาศก์เมตร (1,000 ล้านลิตร) ซึ่งปีนี้สามารถบรรลุเป้าหมายได้แล้ว ผ่านการขับเคลื่อนโครงกา​รเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ  ขณะที่มาตรฐานของโรงงานผลิตน้ำดื่ม​เนสท์เล่ ได้รับรองมาตรฐานการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนจาก Alliance for Water Stewardship (AWS) ซึ่งเป็นองค์กรพันธมิตรด้านการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำระดับโลก  6 ปีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นรายแรกของธุรกิจน้ำดื่มในประเทศไทย

Next steps : ​ผลักดันการฟื้นฟูระบบนิเวศ พร้อมเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ให้​​พื้นที่​รอบโรงงาน ทั้ง 2 แห่ง คือ คลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหนองทุ่งทอง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี​ พร้อม​ยกระดับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการพิทักษ์สายน้ำให้คงอยู่กับเราอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แนวทางคือ ​เรียนรู้ ปกป้อง และฟื้นฟู

คุณศุภวัฒน์ คามีเยาน์ ผู้จัดการด้านความยั่งยืนธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

3. ความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ (Packaging Sustainability) 

Milestones 2025 :  เนสท์เล่ วางเป้าหมาย ไม่ต้องการให้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นทั้งหมดหลุดรอดสู่ธรรมชาติ เพื่อเป็นขยะในหลุมฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) จึงวางนโนบาย เพื่อบรรลุเป้าหมาย ผ่านการออกแบบ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสามารถนำไปรีไซเคิลได้ (Recyclable) ทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เช่น การใช้กระป๋องอลูมิเนียม การใช้พลาสติกรีไซเคิล (rPET) ในการผลิตน้ำแร่​ รายแรกของประเทศ และขยายมาสู่การผลิตน้ำดื่ม และฟิล์มฟุ้ทบรรจุภัณฑ์ (rPE)​ การพัฒนาวัสดุทางเลือกสำหรับซองผลิตภัณฑ์แทนการใช้พลาสติก รวมทั้งพัฒนา Monostructure หรือการใช้วัสดุโครงสร้างเดี่ยวเพื่อรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น  ​โดยวางเป้าหมาย​ลดการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin Plastic) ในการ​ผลิตลง 1 ใน 3

Next steps :  การขับเคลื่อนและขยายผลและสานต่อนโยบายด้านบรรจุภัณฑ์​ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องและครบวงจร (Closed Loop) ผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ตั้งแต่ส่วนของการผลิต ทั้ง ลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ (Virgin Plastic Reduction)  และ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้รีไซเคิลได้ (Designed for Recycling)  รวมทั้ง ส่งเสริมระบบการจัดการขยะเพื่อการรีไซเคิล (System for Recycling)  ด้วยการสนับสนุนแนวทางในการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์  เพื่อขยาย​วามรับผิดชอบในฐานะผู้ผลิต (EPR) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกประเภทของบรรจุภัณฑ์  รวมทั้งความร่วมมือกับภาคชุมชน เพื่อส่งเสริมการลด และคัดแยกขยะจากภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นต้นทางในการนำบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคกลับเข้าสู่กระบวนการในการรีไซเคิล

คุณวันฉัตร ผลทวี ผู้จัดการฝ่ายบรรจุภัณฑ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

4.  การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Reduction)
Milestones 2025 :  เนสท์เล่ ประเทศไทย วางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีนี้ให้ลดลง ​20% จากฐานปี 2018 พร้อมส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงาน​ของเนสท์เล่รวมทั้ง 8 แห่ง มาจากพลังงานหมุนเวียน 100% รวมถึงศูนย์กระจายสินค้า

Next steps :  ส่งเสริมการขับเคลื่อนแผนลดคาร์บอนในการดำเนินงานทั้ง 3 สโคป เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งระยะกลางในปี 2030 ให้ลดลง 50% และลดการปล่อย​ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งการลด Emission ทั้งหมดจะมาจากการดำเนินงานของเนสท์เล่ ประเทศไทยเองทั้งหมด ทั้งการ Reduction จากการพัฒนาเทคโนโลยี และประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ในส่วนของสโคป 1,2 ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ผ่านการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม รวมทั้งอยู่ระหว่างการลงทุนขยายคลังสินค้ากลุ่มไอศกรีม และคิทแคท ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ราว 30% รวมทั้งการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค และพาร์ทเนอร์ภายในซัพพลายเชนต่างๆ ในส่วนของสโคป 3 รวมไปถึงการชดเชยคาร์บอน ( Offset) ผ่านโครงการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับก๊าซเรือนกระจกตามธรรมชาติ โดยไม่มีการซื้อคาร์บอนเครดิตเข้ามาช่วย

คุณกันต์ เขมาชีวะกุล ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

ดึงผู้บริโภคมีส่วนร่วม สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน 

สำหรับการเพิ่มความร่วมมือจากผู้บริโภค ทาง เนสท์เล่ ประเทศไทย จะขับเคลื่อนผ่านแคมเปญ ‘Every Little Act Matters เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้‘ ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว  โดย คุณเจนิกา คอนเด ครูซ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เพิ่มเติมข้อมูลโดยอ้างผลสำรวจ Kantar’s Sustainability Sector Index 2023 ที่พบว่า คนไทยให้ความสำคัญกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตามด้วยการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และการบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ โดยผู้บริโภคไทย 76% ให้ความสนใจกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นอย่างมาก

แต่ยังมีช่องว่างระหว่างค่านิยมและการกระทำจริง แม้ผู้บริโภค 91% อยากใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน แต่มีเพียง 42% ที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจริงจัง เนื่องจากผู้บริโภคไม่ต้องการ หรือไม่สามารถประนีประนอมเรื่องเวลา งบประมาณ รสชาติ คุณภาพ และความเพลิดเพลินจากผลิตภัณฑ์ ให้กับความยั่งยืนเพียงอย่างเดียวได้ นำมาสู่การสานต่อแคมเปญการสื่อสารครบวงจร Every Little Act Matters เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้” เ​พื่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทำสิ่งเล็กน้อย ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อการมีส่วนร่วมในการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเพื่อโลก ​ผ่านการทำสิ่งเล็กน้อย ง่าย ๆ ในทุกวัน เพื่อ​นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายได้ เมื่อทุกคนร่วมมือกัน โดยเนสท์เล่ จะลงทุนในการสื่อสารครบวงจรเพื่อให้เข้าถึงคนไทยมากกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ​​

คุณเจนิกา คอนเด ครูซ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด