Top StoriesTrending

แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ตั้งเป้าใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั้ง 100% ภายในปีนี้ พร้อมเผย 3 กลยุทธ์ โตต่อเนื่อง

แผนเติบโตอย่างยั่งยืนของ 'แมคโดนัลด์ ประเทศไทย' เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดเบอร์เกอร์ของไทย และตลาด QSR​ ที่​​มีแชร์และเติบโตในตลาดไก่ทอดต่อเนื่อง พร้อมการสร้าง Positive Impact ให้สังคมและสิ่งแวดล้อม​​ โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญในปีนี้ ที่จะ​เปลี่ยน​บรรจุภัณฑ์ในธุรกิจให้เป็น Sustainable Packaging 100%

เปิดเผยความสำเร็จผ่านการเติบโตของยอดขายปีที่ผ่านมา พร้อมสถิติตัวเลขสูงสุดในรอบ 39 ปี ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สำหรับ บริษัท แมคไทย จำกัด  ผู้บริหารแบรนด์ แมคโดนัลด์ ประเทศไทย เจ้าตลาดเบอร์เกอร์​และ​แบรนด์ผู้นำที่แข็งแกร่งในตลาด QSR ประเทศไทย มูลค่ารวมกว่า 4 .7 หมื่นล้านบาท

พร้อมเป้าหมายต่อไปในปี 2025 ด้วยเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นโอกาส​ก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ในประเทศไทย จึงวางกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่าง​ยั่งยืน ​​ผ่านการสร้างความแข็งแรงให้แบรนด์แมคโดนัลด์ทั้งด้านศักยภาพในทางธุรกิจ การมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า รวมทั้งการขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกให้ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ

คุณกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2024 ที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ทำยอดขาย 7,957 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10%  ขณะที่กำไรเติบโต 11% และเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี  พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้นได้อีก 10% จากการต่อยอดกลยุทธ์ที่​ทำให้แมคโดนัลด์ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยได้ครบถ้วน ทั้งความคุ้มค่า รสชาติ ความสะดวกในการเข้าถึงแบรนด์  เพื่อสามารถส่งมอบประสบการณ์​ที่ดีให้ลูกค้าคนไทยได้อย่างมาต่อเนื่องมาตลอด 4 ทศวรรษ

“ในปีนี้แมคโดนัลด์ ประเทศไทย พร้อมจะรักษาศักยภาพทั้งความแข็งแรงในการขับเคลื่อนธุรกิจ ​การตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าคนไทย รวมทั้ง​การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการรักษาจุดเด่นของแบรนด์ด้านผู้นำการนำเสนอแพลตฟอร์มที่มีความคุ้มค่า  เพื่อส่งมองได้ทั้งคุณภาพ รสชาติ และราคาที่ตอบโจทย์ เช่น การจัดเซ็ตเมนูสุดคุ้มเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับประทานได้ทุกวัน หรือ​มอบคูปองสุดคุ้มผ่าน ‘แอปคูปอง แมคโดนัลด์’ การขยายความแข็งแรงในตลาดไก่ทอดอย่างต่อเนื่องผ่านพรีเซ็นเตอร์ตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่าง ‘ต้าห์อู๋-ออฟโรด’  ที่ช่วยผลักดันการเติบโตตลาดไก่ทอดในปีที่ผ่านมาได้ถึง 33%  ควบคู่ไปกับการรักษาเจ้าตลาดเบอร์เกอร์ด้วยการนำเสนอทั้งเมนูยอดนิยม และการพัฒนาเมนูใหม่เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี”​

สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ ตั้งเป้าเพิ่มสาขาใหม่ 20 แห่ง จากปัจจุบันมี 240 แห่ง​ พร้อมแผนปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ให้ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ใหม่อีก 25 แห่ง ภายใต้งบลงทุนรวม 700 ล้านบาท ผ่าน 3 คอนเซ็ปต์ที่สามารถเข้าถึงทั้งกลุ่มครอบครัว และกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ได้มากขึ้น ทั้ง Geometry  สไตล์โมเดิร์น ทันสมัย สีสันสดใส, Essential Ingredients 2.0  ถ่ายทอดแบรนด์บนศิลปะป๊อปอาร์ต และ คอนเซ็ปต์ CUBE​ ถ่ายทอดแบรนด์ผ่านชิ้นงานกราฟฟิก ​พร้อมให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าในร้าน ทั้งบรรยากาศ และการบริการ ผ่านการดูแลพนักงาน  ซึ่งเป็นตัวกลางในการดูแลความสุขไปสู่ลูกค้า พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับบริการ เช่น เครื่องบริการสั่งอาหารอัตโนมัติ  หรือ SOK (Self Ordering Kiosk) ซึ่งปัจจุบันติดตั้งครบทุกสาขาแล้ว  และมีแผนขยายเพิ่มเติมในสาขาที่มีความต้องการมากขึ้น รวมทั้ง GEL (Guest Experience Leadership) เพื่อให้การต้อนรับ และเป็นผู้ช่วยคอยให้บริการลูกค้าภายในร้าน

ตั้งเป้า Sustainable Packaging 100% ภายในปีนี้ 

อีกหนึ่งเป้าหมายในปีนี้ ที่แมคโดนัลด์ ประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อน​​คือ การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ภายในร้านให้เป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั้ง 100% ภายในปีนี้  โดยที่ผ่านมาได้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ และลดการใช้พลาสติกลง โดยหันมาเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์จากกระดาษ ซึ่งเป็นกระดาษที่ได้รับรองมาตรฐาน FSC ที่มาจากการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์จากป่าที่ถูกต้อง หรือได้มาจากป่าปลูกที่ไม่กระทบต่อการตัดไม้ทำลายป่าตามธรรมชาติ เช่น กระดาษห่อเบอร์เกอร์, ถุงกระดาษบรรจุเมนูอาหาร, ถ้วยกระดาษใส่ซอส และภายในไตรมาสที่ 2 ​​จะขยายบรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มเติม ​ เช่น กล่องบรรจุเมนูข้าว  กล่องกระดาษบรรจุซอสดิปต่างๆ รวมทั้งกล่องบัคเก็ตพร้อมฝา

“สำหรับแนวทางการขยาย Green Store ในประเทศไทย อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อหาทำเลที่เหมาะสม เนื่องจาก จำเป็นต้องเลือกทำเลที่มีความเหมาะสม และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการรองรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น มีสถานีชาร์จ  EV ​ โครงสร้างที่รองรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ​การคำนึงถึงพื้นที่สีเขียวภายในร้าน รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งการตกแต่ง หรืออุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการลงทุนแต่ละสาขาคาดใช้งบไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาท ขณะที่ผลการตอบรับของ Green Store ที่ให้บริการอยู่รวมทั้งสิ้น 2 แห่ง ในปัจจุบัน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะประสิทธิภาพด้านพลังงานทดแทน ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าลงได้ถึง 10-15%”​

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการดำเนินงานของแมคโดนัลด์ ประเทศไทย ในทุกสาขา ก็ให้ความสำคัญต่อเรื่องผลกระทบสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการ​ลด​ใช้พลาสติกในร้านลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีส่วนที่เป็นพลาสติกไม่ถึง 10% ​​ และพยายามลดการใช้ให้น้อยลง เช่น ช้อนส้อมพลาสติก  หรือถุงบรรจุบางประเภท ที่พยายามปรับเปลี่ยนเป็นไบโอพลาสติก ส่วนหลอดพลาสติก ก็มีนโยบายปรับเปลี่ยนให้มีความรักษ์โลกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องดูนโยบายจากทางโกลบอลรวมทั้งการพิจารณาความพึงพอใจของผู้บริโภคควบคู่ไปด้วย

นอกจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญในใการดูแลผลกระทบเชิงสังคมมาอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งการขับเคลื่อนแคมเปญ McHappy Smile และการสนับสนุนมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮ้าส์ ประเทศไทย ที่มุ่งเน้นดูแล และยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ทั้งผ่านกิจกรรมร่วมส่งมอบรอยยิ้มและความสุข เพื่อ​ส่งมอบมื้ออาหารให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ  รวมถึงการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กและครอบครัว ภายใต้โครงการต่างๆ ที่ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 24 ปี