Top StoriesTrending

ส่องเทรนด์ ‘Conscious travel’ พบนักท่องเที่ยวไทย 94% ยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อสิ่งแวดล้อม สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

รายงาน Changing Traveller Report 2025 โดย SiteMinder ​ที่สำรวจนักเดินทางกว่า 12,000 คน ใน 14 ตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก ประกอบด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี เม็กซิโก สิงคโปร์ สเปน ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

เพื่อเข้าใจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ จากการวางแผนเดินทางและความต้องการในระหว่างเดินทาง โดยเฉพาะ​นักท่องเที่ยวกลุ่ม ‘Conscious Travellers’ หรือกลุ่มที่ใส่ใจต่อรายละเอียดในการเดินทาง โดยพบอินไซต์ที่น่าสนใจ​ของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ที่กำลังมองหาที่พักซึ่งไม่เพียงเติมเต็มประสบการณ์การเดินทาง แต่ยังช่วยให้สามารถ​สัมผัสวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น พร้อมทั้งประเด็นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมด้วย  โดยพบประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจ ต่อไปนี้

นักท่องเที่ยวมากกว่าครึ่งคาดว่าจะ ‘ใช้เวลาส่วนใหญ่’ หรือ ‘ใช้เวลาค่อนข้างมาก’ ในโรงแรมในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มสูงขึ้นเป็น 65% ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งผลออกมาสอดคล้องในทิศทางเดียวกันทั้งการเดินทางคนเดียวหรือการเดินทางกับเพื่อน

กลุ่มนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ 29% วางแผนใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่พัก เทียบกับ 11% ของผู้วางแผนเดินทางภายในประเทศ แม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยว​​ต่างประเทศ อาจมาพร้อมกับค่าใช้จ่าย​ค่อนข้างสูง ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยม​ออกไปสำรวจสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้คุ้มค่า​เงินที่จ่าย แต่ท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น หลายคนกลับเลือกที่จะปักหลักอยู่ที่ที่พักของตนเอง

​โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เช่น กลุ่ม Gen Z (อายุ 18-27 ปี) และ Millennials (อายุ 28-43 ปี) ถือเป็นผู้ขับเคลื่อนเทรนด์การใช้เวลาพักผ่อนในที่พักมากขึ้น โดยวางแผนเข้าพักนานกว่ากลุ่มคนรุ่น Gen X (อายุ 44-59 ปี), Baby Boomers (อายุ 60-78 ปี) และ Radio Babies (อายุ 79-96 ปี)

– สำหรับประสบการณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก หรือกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต้อง​การใช้เวลาพิเศษ​ภายในโรงแรม เช่น

บริการสปา (37%)  หลังจากการเดินทางอันยาวนานบนเครื่องบิน การนวดและขัดผิวอาจเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการเพื่อผ่อนคลายอย่างแท้จริง รวมทั้งประสบการณ์การทานอาหารสุดหรูและการชิมไวน์ (35%) การแสดงดนตรีสด (35%) และคลาสโยคะหรือนั่งสมาธิ (18%) ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

นอก​จากอาหารและความบันเทิง​​ นักท่องเที่ยวยังให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการสัมผัส​วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด ได้แก่ คลาสทำอาหารประจำท้องถิ่นนั้นๆ (22%) การเล่าเรื่องราว รวมถึงการเต้นรำแบบดั้งเดิม (16%) การทำฟาร์มหรือทำสวน (16%) เรียนภาษา (14%) และการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ (13%) ​รวมไปถึงการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ โดยนักท่องเที่ยว 16% มองหาโปรแกรมการพัฒนาการนอนหลับ เพื่อช่วยให้พวกเขาพักผ่อนได้ดีขึ้น

ประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวต้องการจากการเข้าพัก อาจแตกต่างกันไปตาม​เชื้อชาติ โดยพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทานอาหารหรูและการชิมไวน์ (61%) และ สปา (50%) มากที่สุด ในขณะที่ชาวอินเดียสนใจคลาสทำอาหารประจำท้องถิ้น(40%) และการปรับปรุงการนอนหลับ (33%) มากที่สุด

เทรนด์ความคุ้มค่า ประสบการณ์ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

– ท่ามกลางความกังวลด้านเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ‘ความคุ้มค่า’ และ ‘ความสะดวกสบาย‘ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกที่พัก ทำให้เครือโรงแรมและรีสอร์ทขนาดใหญ่ รวมถึงโฮสเทลและโมเต็ลราคาประหยัด (18%) ยังคงเป็นรูปแบบที่นักท่องเที่ยวนิยม ​โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะมองหาที่พักราคาประหยัดมากกว่ากลุ่มคนวัยกลางคนถึงวัยเกษียณ ซึ่งคาดว่ามีรายได้สูงกว่าหรือมีเงินออมมากกว่า

ในทางกลับกัน Gen Z (58%) และ Millennials (57%) มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นกับการเดินทางครั้งหน้าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่า Gen X (35%) หรือ Baby Boomers (28%) โดยกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers วางแผนที่จะใช้จ่ายเท่าเดิมหรือน้อยกว่ากับการเข้าพักครั้งถัดไปเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ความแตกต่างทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมยังส่งผลต่อการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวจากแต่ละประเทศ​ด้วย ชาวออสเตรเลียแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อธรรมชาติ และมีแนวโน้ม​จะจองสวนสนุกและสถานที่กางเต็นท์มากที่สุด (11%)  ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน (35%) และชาวสิงคโปร์ (32%) ให้ความสนใจโรงแรมบูติกหรือโรงแรมหรูมากที่สุด ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย (23%) เช่นกัน

– ในภาพรวมยังพบว่า นักท่องเที่ยวยังให้ความสำคัญกับเลือกที่พักที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้ง​สถานที่กางเต็นท์หรือรีสอร์ทหรู โดย นักท่องเที่ยว 7 ใน 10 คนยินดีจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับการเข้าพักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ตัวเลขนี้สูงถึง 94% ซึ่งสูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากชาวอินโดนีเซียที่มีสัดส่วน 95% 

ข้อมูลจากรายงานระบุว่า มีนักท่องเที่ยวเพียง 30% ที่เลือกจะไม่จ่ายเพิ่มเพื่อเข้าพักในโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดลัอม โดยกลุ่มที่ยอมจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม 10% มีจำนวนมากที่สุดถึง 37% ตามมาด้วยจ่ายเพิ่มขึ้น 25% (21%) , จ่ายเพิ่มขึ้น 50% (10%) และจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% (3%) ตามลำดับ

คุณสุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท SiteMinder ​ให้ข้อมูลเชิงลึก​นักท่องเที่ยวกลุ่ม ‘Conscious Travellers’  หรือกลุ่มที่ใส่ใจต่อรายละเอียดในการเดินทางว่า แม้งบประมาณยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่นักท่องเที่ยวกลุ่ม ‘Conscious Travellers’ ยัง พร้อมที่จะใช้เงินกับสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขา รวมถึงการจ่ายเงินเพิ่มสำหรับที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ผู้ให้บริการที่พักควรให้ความสำคัญกับประสบการณ์ต่าง​ๆ นอกเหนือจากความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานมากขึ้น​ เพื่อสามารถตอบโจทย์ผู้มาเข้าพักได้ดีมากขึ้น

 

สิ่งสำคัญพื้นฐานที่ละทิ้งไม่ได้

สำหรับห้องพักส่วนตัว นักท่องเที่ยวยังคงให้ความสนใจและใส่ใจในรายละเอียดพื้นฐาน โดยหมอนและเครื่องนอน (56%), วิวทิวทัศน์ (53%), การควบคุมอุณหภูมิ (35%), ทีวีและเครื่องเสียง (35%), อ่างอาบน้ำ (30%) และแรงดันน้ำฝักบัว (29%) ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น  ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว  อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยว 4 ใน 5 คน พอใจที่จะเห็นผ้าเช็ดตัวแขวนไว้ในห้องน้ำ หรือพับหรือม้วนไว้บนเตียง โดยไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมผ้าเช็ดตัวในรูปแบบงานศิลปะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงคือการสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่น่าจดจำ นักท่องเที่ยวหลายคน (37%) กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง หากโรงแรมมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยม บริการสปา หรือกิจกรรมพิเศษต่างๆ โดย 51% ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ระบุว่าการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมและการสื่อสารที่ชัดเจนมีความสำคัญ และเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจกลับมาพักอีกครั้ง

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวถึง 20% ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย

คุณสุภกฤษฎิ์ กล่าวเสริม “นักท่องเที่ยวในปี 2568 ต้องการให้โรงแรมดูแลสิ่งสำคัญพื้นฐานให้ดี  ควบคู่ไปกับการให้บริการพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งความสมดุลนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Conscious Travellers ให้ความสำคัญ