เลโก้ (LEGO) เปิดตัว ‘ยางรถยนต์รักษ์โลก’ ในคอลเลคชันเซ็ตใหม่ ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล30% รวมทั้งขยะจากทะเล อย่างแห อวน หรือเชือกประมงสำหรับใช้จับปลา และน้ำมันเครื่องเก่า ตามนโยบายในการขับเคลื่อนความยั่งยืน ด้วยการหันมาใช้วัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลสำหรับการผลิตสินค้า ภายในปี 2032
โดยปัจจุบัน เริ่มนำยางรีไซเคิลรุ่นใหม่ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปใช้ในบางคอลเลคชันของ LEGO บางชุดแล้ว และจะเพิ่มเป็น 120 ชุด รวมทั้งคาดว่าจะสามารถเปลี่ยนได้ครบทั้งหมดภายในสิ้นปี 2025 นี้
สำหรับการเปิดตัว ‘ยางรถยนต์รักษ์โลก’ ครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของเลโก้ ในการพยายามสร้างความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้นภายในห่วงโซ่อุปทาน หลังจากช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มสัดส่วนการใช้เรซินรีไซเคิลที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเป็น 30% เพื่อนำมาผลิตตัวต่อ (Brick) รวมทั้งได้ทดสอบการใช้วัสดุยั่งยืนกว่า 600 ชนิด เพื่อนำมาผลิตเป็นตัวต่อ หรือองค์ประกอบอื่นๆ ของเลโก้ เพื่อไปถึงเป้าหมายในการใช้วัสดุรีไซเคิลและหมุนเวียนได้ทั้งหมดภายในปี 2032
สำหรับนวัตกรรมยางรักษ์โลกรุ่นใหม่นี้ ผลิตขึ้นโดยใช้ rSEBS ซึ่งเป็นวัสดุหมุนเวียนจากขยะทางทะเลและประมง เช่น แห อวน เชือกสำหรับจับปลา รวมกับน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว โดยมีคุณสมบัติ มาตรฐานและความทนทาน เหมือนกับยาง LEGO ทั่วไปทุกประการ

Annette Stube ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน LEGO กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ทำให้ LEGO มีความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น และลดการพึ่งพาการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจะเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเพิ่มความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานของเลโก้ในปัจจุบัน อาทิ
– ไบโอโพลีเอทิลีน (bio-PE) : ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา มีการใช้ PE จากอ้อยของบราซิลมาใช้ในชิ้นส่วน LEGO มากกว่า 200 ชิ้น รวมถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับมินิฟิกเกอร์ด้วย
– หินอ่อนเทียมรีไซเคิล (arMABS) : สำหรับชิ้นส่วนโปร่งใส เช่น กระบี่แสง หน้าต่าง ปัจจุบันใช้วัสดุรีไซเคิล 20% และมีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ในชุด LEGO ให้ได้ 85%
– e-Methanol และ ePOM : ความร่วมมือเพื่อพัฒนาวัสดุหรือพลาสติกชนิดพิเศษจาก CO2 ที่แยกได้จากเมทานอลสังเคราะห์ เพื่อผลิตเพลาล้อและองค์ประกอบอื่นๆ
“นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในความทะเยอทะยานของเราที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ LEGO มีความยั่งยืนมากขึ้นและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลบริสุทธิ์ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนเวลาอย่างมากในการพัฒนาและทดสอบวัสดุรีไซเคิลชนิดใหม่นี้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ ความปลอดภัย และความทนทานระดับสูงของเรา”
ทั้งนี้ LEGO ตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050 โดยมีแผนลดการปล่อยคาร์บอนลง 37% ภายในปี 2032 จากฐานในปี 2019 นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการกำหนดเป้าหมายเพื่อลดคาร์บอนฟุตพรินท์รายบุคคลสำหรับพนักงานทุกคนในแต่ละปีอีกด้วย โดยตามแผนจะเริ่มหลังจากปี 2024 ที่ผ่านมา