ซีพี ออลล์-เซเว่นฯ ติดอาวุธทักษะอาชีพให้เด็กไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน พาชม “ผู้ประกอบการจิ๋ว” แห่งพัทลุง แปรรูปกระจูด สร้างรายได้ให้ชุมชน

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง และการพัฒนาที่ไม่สมดุล การพัฒนาการศึกษาเพื่อความยั่งยืนจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความตระหนักและเตรียมคนรุ่นใหม่ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ โรงเรียนจึงเป็นสถานที่สำคัญในการติดอาวุธความรู้ให้แก่เด็กทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

โรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) จ.พัทลุง ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนนำร่องโครงการผู้ประกอบการจิ๋ว ซึ่งเป็นแผนงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาโรงเรียนภายใต้ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) เฟสที่ 6 ช่วยให้เด็กไทยเก่งทั้งการบริหาร การเงิน การตลาด ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมสำหรับการเติบโตสู่โลกภายนอกอย่างยั่งยืนหลังจบการศึกษา

ที่ผ่านมา คุณครูและนักเรียนจำนวนกว่า 200 คน ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การประยุกต์หลักสูตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกระจูดและเส้นกกซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกรายวิชา สอนทั้งการแปรรูปกระจูด การแปรรูปเส้นกก การออกแบบและเพนท์ลายกระจูด การบริหาร การเงิน การไลฟ์สดขายของ ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนของการเป็นผู้ประกอบการ สามารถช่วยครอบครัวทำเป็นอาชีพเสริม ช่วยโรงเรียนและชุมชนให้มีรายได้ จากผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด อาทิ กระเป๋าจากกระจูดสานมือ และหูหิ้วถ้วยกาแฟจากเส้นกก ที่วางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นแล้ว จำนวน 19 สาขา ในเขตภาคใต้ตอนล่าง

คุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า โรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) จ.พัทลุง ถือเป็นหนึ่งใน 6 โรงเรียนนำร่อง เพื่อสร้างคนผ่านการศึกษา ให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาทั้งทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต ให้แก่เยาวชนและคนในชุมชน ติดอาวุธทักษะวิชาการควบคู่วิชาชีพให้แก่คนรุ่นใหม่ ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในทุกด้าน

“เราเลือกโรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) เป็นโรงเรียนนำร่องโครงการผู้ประกอบการจิ๋วในภาคใต้ ด้วย 3 เหตุผลหลัก ได้แก่ 1.สามารถบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งวิชาการและวิชาชีพ จนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้กระจูดได้อย่างยอดเยี่ยม 2.สามารถต่อยอดภูมิปัญญาที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่นอย่างกระจูด ให้กลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจ สร้างรายได้กลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืนได้ และ 3.สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับคนในชุมชน ตลอดจนพัฒนานักเรียนและคนในชุมชนให้มีทักษะการเป็นผู้ประกอบการ” คุณยุทธศักดิ์ กล่าว

อาจารย์อรัญญา นามเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) จ.พัทลุง กล่าวว่า “ศูนย์การแปรรูปผลิตภัณฑ์กระจูดที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สามารถสร้างรายได้ให้แก่โรงเรียน นักเรียน และชุมชนโดยรอบ อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นอีกหนึ่งในโครงการผู้ประกอบการจิ๋วประจำภาคใต้ ซึ่งเป็นการยกย่องในความสำเร็จของการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการประกอบการในระดับชุมชน การดำเนินการโครงการนี้ไม่เพียงทำให้เกิดรายได้ แต่ยังสร้างโอกาสให้แก่นักเรียนและชุมชนในการเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการที่สำคัญ รวมทั้งสร้างความมั่นใจ มั่นคง ในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

โรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) ได้รับการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ทำให้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาครอบคลุมทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาลปีที่ 2 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม อาทิ การจักสานผลิตภัณฑ์กระจูด, สายหูหิ้วเส้นใยกกรักษ์โลก และหัตถศิลป์กระจูดออนไลน์ โดยเรียนสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง เนื้อหารายวิชาแบ่งตามชั้นเรียน ซึ่งจะมีความเข้มขึ้นตามระดับชั้น นอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้ตามรายวิชาแล้ว ยังได้นำทักษะที่ได้ไปบอกต่อพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่มีทักษะในการทำจักสานกระจูดแบบดังเดิมอยู่แล้ว ให้พัฒนายิ่งขึ้น ๆ ต่อไปได้อีกด้วย และยังเป็นโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

อาจารย์วิไล ยศกิจ คุณครูผู้ก่อตั้งโครงการ กล่าวว่า การนำวิชาชีพเข้ามาควบคู่กับเรื่องวิชาการเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะวิชาชีพสามารถต่อยอดอาชีพในอนาคตได้ โครงการนี้เข้ามามีส่วนช่วยให้เด็กมีการพัฒนาปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น การพูด การจัดระบบการจำหน่าย การใช้คำเชิญชวน มีเทคนิคลีลาของตัวเอง รู้จักการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยทางผู้ปกครองก็สนับสนุน เพราะนอกจากเด็ก ๆ จะได้รายได้จากการทำหัตถกรรมแล้ว ยังสามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากสิ่งอบายมุขและยาเสพติด

“การที่เราไปเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ คำแนะนำใหม่ ๆ ให้เข้ากับยุคดิจิทัล มันก็ดี เพราะคุณครูของเรายังไม่เชี่ยวชาญ โครงการมาช่วยเติมเต็มความรู้ ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”

อาจารย์วิไล กล่าวต่อด้วยความภาคภูมิใจว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี น่าชื่นชมมาก เห็นความคืบหน้าและพัฒนาการของโรงเรียนแล้วภูมิใจ แล้วที่นี่เป็นชุมชนยากจน ชุมชนแออัด แต่พอเราเป็นต้นแบบเป็นตัวนำ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาสูงขึ้น เป็นที่รู้จักมากขึ้น ปัจจุบันกระจูดไม่ใช่วัชพืช แต่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้คนในชุมชนมีชีวิตที่ดีขึ้น

ตั้งเป้าหมายไว้ว่า “อยากให้ผลิตภัณฑ์กระจูดเป็นที่รู้จักของชุมชนให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และอยากให้ผู้ประกอบการในชุมชนรักสิ่งแวดล้อมด้วย รู้จักพัฒนากระบวนการผลิตให้ดูดี มีคุณภาพ เป็นที่สนใจของตลาดมากกว่าเดิม” อาจารย์วิไล​ กล่าวปิดท้าย

เด็กหญิงธมลวรรณ ปากลาว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) หรือ น้องน้ำขิง เล่าให้ฟังว่า การเข้าร่วมโครงการทำให้ได้เรียนวิธีการทำกระจูด การจักสาน การดีไซน์ลวดลายกระเป๋า รวมทั้งได้เรียนรู้การขายของออนไลน์ ทำให้มีเงินเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาและสามารถนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียนเมื่อต้องการได้

“ในอนาคตหนูอยากเป็นคุณครูที่สอนการจักสาน เพราะมันท้าทาย ในการจักสานต้องใช้เวลานาน และสมาธิให้ดี”

ปัจจุบัน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดูแลโรงเรียนภายใต้ CONNEXT ED รวมประมาณ 610 โรงเรียน รวมจำนวนนักเรียนกว่า 160,000 คน โมเดลที่ประสบความสำเร็จของโรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายผลไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ภายใต้ CONNEXT ED เพิ่มเติม โดยเฉพาะโรงเรียน CONNEXT ED ในภาคใต้ เพื่อสร้างรากฐานการศึกษาไทยให้แข็งแรง ช่วยติดอาวุธให้เด็กไทยยุคใหม่มีภูมิคุ้มกันที่ดี เติบโตไปได้อย่างยั่งยืน

การศึกษาเพื่อความยั่งยืนไม่เพียงแต่ช่วยให้คนรุ่นใหม่มีความรู้และทักษะที่จำเป็น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างอนาคตที่สมดุลและยั่งยืนสำหรับประเทศไทย การลงทุนในการศึกษาเพื่อความยั่งยืนจึงถือเป็นการลงทุนในอนาคตของชาติและโลกใบนี้อย่างแท้จริง

สนใจสนับสนุน “กระเป๋ากระจูด” โรงเรียนวัดประดู่หอม (สุขประชาสรรค์) จ.พัทลุง
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: ร้านกระจูดนักเรียน 

Stay Connected
Latest News

‘มีมากจนจำไม่ได้’ กลุ่มเซ็นทรัล จับมือ หอการค้า แก้ Painpoint ‘ฉลากสินค้ารักษ์โลก’ ผ่านโครงการ ‘ฮักโลก’ (Hug The Earth) พร้อมร่วมกระตุ้นตลาดสินค้า Eco-product ทั้งจากฟากผู้ผลิตและฟากผู้บริโภค