ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน “ซีพี ออลล์” ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ ได้กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) พร้อมปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อให้องค์กรเติบโตควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ มีโยบายด้านความยั่งยืน ตามแนวทาง “2ลด 4 สร้าง 1 DNA” โดยบูรณาการแนวคิด ESG เข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งการให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG)
โดยเฉพาะมิติสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญเร่งด่วน จากปัญหาวิกฤตสภาพอากาศที่อยู่ใกล้ตัวและเริ่มส่งผลกระทบเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการผลักดันตามมาตรการ “2 ลด” ได้แก่ ลดการใช้พลาสติก และ ลดการใช้พลังงาน เพื่อสอดรับแนวทาง 7 Go Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ตามปณิธาน Giving&Sharing
คุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวถึงการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของซีพี ออลล์ ว่า ได้ดำเนินการตามนโยบาย “2 ลด” ได้แก่ ลดการใช้พลาสติก และ ลดการใช้พลังงาน สอดรับแนวทาง 7 Go Green เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชั่วโมง โดยมีแนวทางปฏิบัติ ต่อไปนี้
1. ลดการใช้พลาสติก : มีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณพลาสติกไปสู่หลุ่มฝังกลบให้น้อยที่สุด ผ่านการจัดการตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในทุกกระบวนการ ร่วมกับภาคีเครือข่ายโรงเรียนไร้ถัง ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ
– โครงการ “รักษ์เกาะ 24 ชั่วโมง” นำร่องแก้ปัญหาขยะพลาสติกกว่า 50 ตันต่อวัน ของ 3 เทศบาลบนเกาะพะงัน สู่การขยายผล “โครงการต้นกล้าไร้ถัง” ภายใต้ CONNEXT ED และสามารถผลักดันให้ “โรงเรียนเกาะพะงันศึกษา” ขึ้นแท่นสู่ศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน สนับสนุนองค์ความรู้ด้าน Reuse, Recycle, Upcycle เปลี่ยนขยะพลาสติกบนเกาะสู่ “อิฐรักษ์โลก” และสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยสามารถลดปริมาณขยะลงได้ 70% พร้อมสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนบนเกาะ
– โครงการ “ลานอเนกประสงค์รักษ์โลก” จากการนำขยะพลาสติกกำพร้าที่ผ่านการคัดแยกผสมกับวัตถุดิบหลักในการทำ eco-concrete ตามกระบวนการ Circular Economy ร่วมกับเพจ Green Road สร้างสนามเพื่อส่งมอบ “ลานอเนกประสงค์รักษ์โลก” ให้ชุมชนเกาะพะงัน, ชุมชนบ้านหนองอุ่ม จ.มหาสารคาม และโรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-Use Plastic) และช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตลอดวงจรการผลิต การบริโภค และการนำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันทั้งลดการใช้หลอด ช้อนส้อมพลาสติก เริ่มจากการปฏิเสธการรับถุงหิ้วพลาสติก เปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าแทน
2. ลดการใช้พลังงาน : กำหนดนโยบายการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน อาทิ โครงการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle :EV) ในกระบวนการขนส่งและส่งมอบสินค้า, ส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับร้าน 7-Eleven และศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ, การบริหารจัดการพลังงานภายในอาคาร (Building Energy Management System: BEMS) รวมทั้งปรับปรุงระบบทำความเย็นและใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยมีเป้าหมายลดใช้พลังงานสะสมถึงปี 2025 ให้ลดลงได้ 160 ล้านหน่วยไฟฟ้า เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 80,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
Best Practice ต้นแบบโมเดลอนุรักษ์พลังงาน
หนึ่งสิ่งที่ช่วยการันตีความสำเร็จในการนำแนวคิดด้านการอนุรักษ์พลังงานมาประยุกต์ใช้และพัฒนาอาคารสำนักงาน คือ การที่อาคาร “เดอะ ธารา” ซึ่งซีพี ออลล์ เป็นผู้บริหารอาคาร ได้รับ 2 รางวัลใหญ่ด้านอนุรักษ์พลังงาน ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับรางวัล อาคารสร้างสรรค์ เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน (อาคารใหม่ New and Existing Building) จากงาน Thailand Energy Award 2023
อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการประกวดผลงานอาคารอนุรักษ์พลังงานระดับภูมิภาคในงาน ASEAN Energy Awards 2023 ซึ่ง อาคารเดอะ ธารา สามารถคว้ารางวัล Winner of the Energy Efficient Building-New and Existing Building of the ASEAN Energy Efficiency and Conservation Best Practices Awards 2023
นอกจากนี้ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ยังได้มอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ประจำปี 2024 ให้อาคารต่างๆ ของ บมจ. ซีพี ออลล์ ประกอบด้วย
– อาคาร เดอะ ธารา รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ Platinum และ ระดับ Standard ประเภท อาคารสำนักงาน โดยพื้นที่กว่า 50% ของอาคาร THE TARA เป็นพื้นที่สีเขียว มีการประหยัดพลังงานใน 3 ด้าน คือ ด้านเปลือกอาคาร ด้านอุปกรณ์ในอาคาร อาทิ Air Conditioning and Ventilation System ระบบกรองอากาศ 2 ชั้น เพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก, ระบบไฟฟ้าแสงสว่างใช้หลอด LED และด้านพฤติกรรมของผู้ใช้งานอาคาร
– อาคาร ซีพี ออลล์ อะคาเดมี่ รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ Standard ในประเภท มหาวิทยาลัย โดยมีจุดเด่นด้านพลังงาน อาทิ ใช้ Sky light เพื่อรับแสงธรรมชาติ ออกแบบอาคารให้เปิดรับลม เพื่อช่วยระบายความร้อน ใช้แสงสว่างธรรมชาติในห้องเรียน พร้อมแผงบังแดด
– อาคารโรงเรียนสาธิต สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ Standard ในประเภทโรงเรียน โดยมีดำเนินการด้านประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ยังได้รับมอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ Standard ในประเภทร้านค้าขนาดเล็ก/ ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 23 แห่ง หรือ 23 สาขา
ซีพี ออลล์ ยังมีมาตรการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมผ่าน การเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้พื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายในการ ปลูกไม้ยืนต้น จำนวน 1 ล้านต้น ภายในปี 2568 ผ่านโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนการปลูกต้นไม้ ได้แก่
1. ชวนลูกค้าร่วมปลูกต้นไม้ผ่าน 7APP ในแคมเปญ “แค่ไม่รับ=ปลูกต้นไม้” เพิ่มทั้งการมีส่วนร่วมและมอบประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้าได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมที่สวยงามร่วมกับ เซเว่น อีเลฟเว่น
2. โครงการป่าล้อมวัด เพื่อสร้างความสงบร่มรื่นภายในบริเวณพื้นที่วัด
3. โครงการปลูกป่าล้านต้น กทม. เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนเมือง
4. โครงการไผ่พอเพียงสู่อนาคตที่ยั่งยืน เพื่อสร้างระบบนิเวศ เสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้โรงเรียนต่างๆในโครงการ
“การตระหนักถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมคือนโยบายที่ ซีพี ออลล์ ดำเนินการมาโดยตลอดผ่านปณิธานองค์กร Giving&Sharing โดยเราได้ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าสูงสุด ลดการใช้พลังงานควบคู่กับการใช้พลังงานทดแทน ตลอดจนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อประเทศชาติและสังคมไทยที่ยั่งยืน” คุณยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย