ธนาคารกรุงศรี คาดยอด Sustainable Finance ทะลุ 1 แสนล้านก่อนเป้าหมาย พร้อมเล็งขยายวงเงินเพิ่ม เร่งขับเคลื่อนวาง Framework ภาคธนาคารหนุนธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ตั้งเป้า Net Zero Emission ทั้งพอร์ตโฟลิโอ ภายในปี 2050
คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรี ประกาศขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการเป็น ‘ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน’ (The Leading Sustainable and Regional Bank) ด้วยแนวคิด ‘GO Sustainable with krungsri’ ผ่านแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ ช่วง 3 ปี (2024 -2026) เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ทั้งความสามารถในการตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ควบคู่ไปกับความสามารถในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมและสิ่งแวดล้อม
“การขับเคลื่อนตามแผนธุรกิจฉบับล่าสุด กรุงศรี มุ่งเน้นขับเคลื่อน 2 ด้าน คือ 1.การเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจหลัก (Sustainable Core Business) ผ่าน 3 Keys คือ การต่อยอดความแข็งแกร่งด้าน Digital และ Data Driven เพื่อทำความเข้าใจและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และสานต่อ Go Regional ขยายเครือข่ายในภูมิภาค เพื่อ Diversify ธุรกิจได้มากกว่าแค่ในประเทศไทย ส่วนด้านที่ 2. การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Society) เพื่อรับบริบทและความเสี่ยงที่เปลี่ยนไปของโลก โดยเฉพาะประเด็น Climate Change ที่ส่งผลกระทบเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงสำคัญของทุกธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายไว้ทั้งการมุ่งสู่ Net Zero ในส่วนของ Own Operation (Scope 1-2) ในปี 2030 รวมทั้งลดการปล่อยคาร์บอนของทั้งพอร์ตโฟลิโอให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050”
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนสู่ Zero Emission ในส่วนของ Own Operation ซึ่งมีปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ที่ราว 5.2 หมื่นตันคาร์บอนเทียบเท่า จะเน้นการลดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในองค์กร พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กร Zero Waste รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนพลังงาน Renewable เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในอาคารสำนักงานต่างๆ รวมทั้งการเพิ่ม EV Fleet ให้มากขึ้น เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนลงให้ได้ตามแผน ขณะที่การลดคาร์บอนฟุตพรินท์ในส่วนของพอร์ตโฟลิโอนั้น จะเน้นการสนับสนุน Sustainable Finance เพื่อให้คู่ค้าพันธมิตรเปลี่ยนผ่านมาสู่ Green Business มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ทำตลาดส่งออก หรือเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของธุรกิจต่างประเทศ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านแก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) ของคู่ค้าพันธมิตรไว้ที่ 1 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ทำการอนุมัติวงเงินไปแล้วกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะถึงเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทได้ก่อนแผนที่วางไว้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มวงเงินเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเพิ่มเติมในอนาคตให้สอดคล้องกับการเติบโตของดีมานด์ในตลาด
“การขับเคลื่อนของกรุงศรีจากนี้ จะวางประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็น Priority ในการขับเคลื่อนทุกมิติ โดยเฉพาะการใช้ Sustainability มาเป็นเฟรมเวิร์คในการกำหนดกรอบ หรือ Market Shaper สำหรับขับเคลื่อนภาคการเงิน ภายใต้มาตรฐานสากล TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) ผ่านคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IECC) ของธนาคาร เพื่อสร้างงรากฐานด้านความยั่งยืนให้แข็งแกร่ง โดยหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนที่ทางกรุงศรีเร่งดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้คือ การประเมิน Climate Risk สำหรับการวางแผนธุรกิจและประเมินความเสี่ยง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของภาคการเงินไทยที่นำประเด็นความเสี่ยงนี้มาทำ Climate Risk Stress Test อย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการวางแผนธุรกิจ จากที่ก่อนหน้าจะเน้นความเสี่ยงในมิติของ Global Risk และ Market Risk เป็นหลัก สะท้อนถึงบทบาทจากประเด็นความเสี่ยงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า นอกจากนี้ ภายในปีหน้าจะเร่งจัดทำแผนเปลี่ยนผ่านสู่ Green Economy นำร่องใน 2 อุตสาหกรรม คือกลุ่มพลังงานและภาคขนส่ง เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่ม High Emission เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสัดส่วนในพอร์ตโฟลิโอจาก Red และ Brown ไปสู่กลุ่ม Green Economy รวมทั้งนำร่องยุติการให้สินเชื่อธุรกิจในกลุ่มที่มีการใช้ถ่านหิน เพื่อมุ่งสู่ Zero Emission ของทั้งพอร์ตโฟลิโอตามแผน รวมทั้งสนับสนุนแผนการเปลี่ยนผ่านเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ของประเทศอีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนนโยบายการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) เพื่อสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน กรุงศรีได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทแม่อย่าง MUFG ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล รวมทั้งเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกรุงศรีถือเป็นผู้นำในตลาดทุนและตลาดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย เป็นผู้ออกตราสารเพื่อความยั่งยืน (ESG Bond Underwriting) โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 20% และเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยรายแรกที่ออกผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืนใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินเชื่อเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และเงินฝากเพื่อความยั่งยืน ตอกย้ำการเป็น Market Shaper เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคการเงินและขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืน ด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการ ผ่านการสนับสนุนลูกค้า พันธมิตร และทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อเดินหน้าสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน ในฐานะฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า สร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นต่อไป ภายใต้แนวคิด GO Sustainable with krungsri