บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบริษัท บ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผนึกลาลามูฟ แอปพลิเคชันให้บริการขนส่งแบบออนดีมานด์ เปิดตัวโครงการ CSR “Ride for Chance, Ride for Change” ขับขี่สะอาด สร้าง ‘โอกาส’ และ ‘การเปลี่ยนแปลง’ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ประเทศไทยมีผู้พิการกว่า 2.2 ล้านคน และส่วนใหญ่ต้องเผชิญความท้าทายในการหางาน ทำให้มีอัตราการว่างงานสูงกว่าประชากรทั่วไป ขณะที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคการขนส่งพัสดุ นับเป็นโอกาสและช่องทางให้ผู้พิการได้แสดงความสามารถและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
การเข้าสู่ตลาดแรงงานจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ นำมาซึ่งการริเริ่มโครงการ ‘Ride for Chance, Ride for Change’ ขับขี่สะอาด สร้าง ‘โอกาส’ และ ‘การเปลี่ยนแปลง’ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สานต่อแนวทางการดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มบ้านปู คือ “Embracing Potential, Energizing People – เสริมศักยภาพ สร้างพลังแห่งอนาคต” มุ่งเติมเต็มศักยภาพให้แก่ผู้พิการด้วยการสร้างโอกาสด้านการทำงานระยะยาวในภาคการขนส่งพัสดุ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้โซลูชันพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนท้องถิ่น สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับศักยภาพของ ‘คน’ เป็นหลัก
จึงได้จัดหาฟลีทมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพร้อมจัดอบรมทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพไรเดอร์สำหรับผู้พิการอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ ความปลอดภัย การบริการลูกค้า และการใช้เทคโนโลยี โดยได้เพิ่มระบบให้ความช่วยเหลือที่ออกแบบสำหรับไรเดอร์ผู้พิการโดยเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามอุปสรรคในการทำงาน
นอกจากนี้ โครงการยังสะท้อนความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมของบ้านปู เน็กซ์ และลาลามูฟ โดยส่งเสริมโซลูชันพลังงานสะอาดที่ช่วยลดมลภาวะทางอากาศและการปล่อย CO2 ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมไร้คาร์บอน
คุณสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด บริษัทลูกของบ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า บ้านปู เน็กซ์ มุ่งมั่นส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนโดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านโซลูชันพลังงานสะอาด มาริเริ่มในโครงการเพื่อสังคมนี้ เพื่อถ่ายทอดทักษะและจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ผู้พิการสามารถเป็นไรเดอร์มืออาชีพได้ ตลอดจนส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดผ่านยานพาหนะไฟฟ้า ตอกย้ำความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนและสร้างสรรค์เศรษฐกิจแบบองค์รวมที่ทุกคนจะได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างเท่าเทียม
คุณเบน ลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลาลามูฟ อีซี่แวน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันให้บริการขนส่งแบบออนดีมานด์ ลาลามูฟ (LALAMOVE) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างลาลามูฟและบ้านปู เน็กซ์ ในโครงการเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ ช่วยสร้างโอกาสให้ไรเดอร์ผู้พิการด้วยการใช้แอปพลิเคชันและความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งของลาลามูฟ เพื่อสามารถบริหารจัดการการขนส่งและติดต่อกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น พร้อมช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับชีวิตของผู้พิการและกับสังคม ผ่านการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับผู้พิการเพื่อลดอัตราการว่างงานและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
สำหรับการขับเคลื่อนโครงการ ‘Ride for Chance, Ride for Change’ สามารถสร้างให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในมิติต่างๆ ต่อไปนี้
– ส่งเสริมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม เพื่อเปลี่ยนผ่านจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) สู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ลดการปล่อย CO2 และมลพิษทางอากาศ ด้วยการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่มากขึ้น
– ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยสร้างโอกาสในการทำงานและการมีรายได้เพื่อผู้พิการสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองและมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
– ปลดล็อกโอกาส ผ่านการสร้างงานเพื่อลดอัตราการว่างงานและเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับผู้พิการและครอบครัว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 20 คน ซึ่งเป็นผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน 16 คน และผู้มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว 4 คน โดยแต่ละคนได้รับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพร้อมประกันภัยที่ครอบคลุมสำหรับประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งพัสดุ รวมถึงได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนไรเดอร์อีกด้วย ซึ่งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโครงการประมาณ 12 เดือน บ้านปู เน็กซ์ มีแผนที่จะสร้างเสริมศักยภาพผู้คนต่อไปในอนาคตเพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ของธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับโครงการฯ ผู้ใช้บริการลาลามูฟสามารถใช้รหัสโปรโมชัน ‘LALABANPUNEXT’ เพื่อรับส่วนลด 10% (สูงสุด 20 บาท) สำหรับบริการเสริมอย่างการส่งแบบไป-กลับ (Round Trip) และการเก็บเงินปลายทาง (Cash-On-Delivery) ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ถึง 31 มกราคม 2568