หนึ่งแลนด์มาร์กงานลอยกระทงของกรุงเทพมหานครปีนี้ คงหนีไม่พ้นงานลอยกระทงที่วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร อีกหนึ่งท่าน้ำสำคัญทางประวัติศาสตร์ ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็น 1 ใน 10 จุดไฮไลท์ของงานลอยกระทงแห่งปีอย่าง “Bangkok River Festival 2024 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 แล้ว
โดยผู้มาร่วมงานลอยกระทง Bangkok River Festival 2024 ที่วัดอรุณแห่งนี้ จะได้เสริมความเป็นสิริมงคลด้วยการสักการะพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถวัดอรุณ ที่เปิดโอกาสให้เข้าไปไหว้พระขอพรยามค่ำคืน
พร้อมร่วมส่งเสริม สืบสานวัฒนธรรม และประเพณี อันทรงคุณค่าของไทยที่มีต่อเนื่องมายาวนาน ในแบบรักษ์โลกด้วยการลอยกระทงและประทีปเทียนหอมในบ่อลอยรักษ์โลก ซึ่งเป็นการลอยแบบปิดที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการลอยในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะช่วยป้องกันการตกค้างของกระทง จนกลายเป็นขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บรรยากาศภายในงานยังสะท้อนให้ผู้มาร่วมงานสัมผัสได้ถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบวิถีไทย ทั้งการแแสดงดนตรีพื้นบ้านมรดกไทยและมหรสพแบบจัดเต็มแสงสีเสียง การแต่งกายด้วยชุดไทยมาร่วมลอยกระทง และตลาดนัดที่รวบรวมของดีและอาหารเด็ดภายในชุมชนมาให้ร่วมลิ้มลอง และไม่ลืมเรื่องการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการตั้งจุดแยกขยะไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบริเวณงานด้วย
‘เยาวชนเจ้าบ้าน’ ร่วมสืบสานวัฒนธรรม พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งความพิเศษของ Bangkok River Festival 2024 คือ การมีส่วนร่วมของเยาวชนในท้องถิ่น ในการทำหน้าที่ ‘เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม’ ช่วยทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงในท้องถิ่นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำอัตลักษณ์ของชุมชน การร่วมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีอันดีของไทย พร้อมทั้งปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ในการเป็นแนวร่วมสร้างความรักและส่งเสริมวิถีชีวิตในชุมชน ไปจนถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชน ควบคู่ไปกับมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมรวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจและความยั่งยืนภายในชุมชน
สองพี่ฝาแฝดอย่าง น้องพลอย – ปัญชรัศม์ อัมรนันท์ อายุ 18 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนโยธินบูรณะ และ น้องเพชร – ภรรญภัทร อัมรนันท์ อายุ 18 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ตัวแทนเยาวชนเจ้าบ้านชุมชนวัดอรุณ ซึ่งทำหน้าที่มายาวนานถึง 8 ปีแล้ว กล่าวว่า “การเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนชุมชน สร้างให้เกิดความภาคภูมิใจและมีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชนที่ตัวเองอยู่มากขึ้น พร้อมทั้งสามารถถ่ายทอดไปยังนักท่องเที่ยวเพื่อสานต่อเรื่องราวไม่ให้เลือนหายไป ไม่ว่าจะเป็นความน่าสนใจของวัดอรุณซึ่งมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของประเทศ และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวประเทศไทย รวมทั้งการทำให้ผู้คนเห็นความสำคัญของประเพณีไทยต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาลลอยกระทงซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของวัดอรุณและยังสามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้ด้วย”
และในฐานะที่เป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ชาวชุมชนวัดอรุณตระหนักถึงการอนุรักษ์ประเพณีลอยกระทงควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน นำมาสู่การจัดทำ ‘บ่อลอยรักษ์โลก’ ที่เปิดให้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวนำกระทงมาลอยในบ่อปิดแทนการลอยลงแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากสามารถทำความสะอาดและเก็บกระทงหลังจากการลอยได้อย่างสะดวก และไม่มีขยะตกค้างในธรรมชาติ รวมทั้งยังมีกิจกรรมถ่ายรูปกิจกรรมรักษ์โลกเพื่อร่วมสะสมแต้มและนำไปแลกของที่ระลึกภายในงานได้ด้วย เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกิจกรรมรักษ์โลกของนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน
ด้าน น้องชิน –ภูมิพฤกษ์ จารุทัศนีย์ อายุ 17 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง และ น้องฮานะ –ภูญาดา จารุทัศนีย์ อายุ 15 ปี ชั้น ม.4 โรงเรียนวัดนายโรง คู่พี่น้องที่ทำหน้าที่เยาวชนเจ้าบ้านชุมชนวัดอรุณมาแล้ว 9 ปี และ 7 ปี กล่าวว่า “รู้สึกดีใจ ที่ได้ร่วมทำหน้าที่ตัวแทนคนรุ่นใหม่ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของคนไทยที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พร้อมทั้งสร้างสรรค์แนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้วัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงามอยู่แล้ว มีคุณค่ามากขึ้น และการได้เข้ามาทำหน้าที่ตัวแทนชุมชนทำให้พวกเรามีความกล้าแสดงออก และมีโอกาสให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัดอรุณแก่นักท่องเที่ยว ทำให้ผู้คนมีความสนใจและดึงดูดให้มีการเข้ามาท่องเที่ยวในชุมชนเพิ่มมากขึ้น”
ส่วนแนวคิดดูแลสิ่งแวดล้อมถือเป็นอีกสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรหันมาร่วมรณรงค์ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ประเพณีที่สวยงาม ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกในการลอยกระทงที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการลอยกระทงออนไลน์ รวมทั้งการลอยกระทงในบ่อปิด เพื่อลดการเกิดขยะในแม่น้ำลำคลอง เพราะแม้จะเลือกใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ แต่อาจจะยังมีตะปู หรือวัสดุอื่นๆ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งหากหลุดรอดไปในแม่น้ำจะสร้างให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทางชุมชนวัดอรุณก็ได้มีการตั้งบ่อลอยรักษ์โลก ซึ่งเป็นบ่อระบบปิดไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาลอยกระทงที่วัดอรุณในช่วงเทศกาลปีนี้
น้องกาย –ศิวพล ลิ้มมงคลจินดา อายุ 12 ปี ชั้น ป.6 โรงเรียนราชสิทธาราม เยาวชนเจ้าบ้านที่อายุน้อยที่สุด และเข้ามาทำหน้าที่เป็นปีที่ 2 ซึ่งคอยทำหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระปรางค์วัดอรุณแก่นักท่องเที่ยวที่มาภายในงาน ตามสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจ รวมทั้งมุมมองต่อการมีบ่อปิดสำหรับลอยกระทงซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถช่วยลดปัญหาการเกิดขยะในแหล่งน้ำได้ ซึ่งนอกจากมีบ่อลอยกระทงรักษ์โลกแล้ว ยังส่งเสริมการแยกขยะก่อนทิ้งภายในพื้นที่จัดงาน และเห็นถึงความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวที่มีการแยกทิ้งขยะในถังแต่ละประเภทเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
รวมพลังพันธมิตรจิตอาสา ร่วมคัดแยกขยะฟื้นฟูแหล่งน้ำ
นอกจากเต็มอิ่มกับวัฒนธรรม ประเพณี อันทรงคุณค่าของไทย รวมทั้งอิ่มใจกับแนวคิดของน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญในการสืบสานอนุรักษ์ประเพณีไทย ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ดูแลสิ่งแวดล้อมระหว่างการจัดงาน Bangkok River Festival 2024 แล้ว ทางคณะผู้จัดงานยังได้ขับเคลื่อนอีกหนึ่งโครงการเพื่อสังคมดีๆ อย่าง ‘คลีนคลอง’ (Clean klong) เพื่อร่วมฟื้นฟูแม่น้ำมนช่วงหลังเทศกาลลอยกระทง เพื่อให้กลับมามีทัศนียภาพที่สวยงาม และมีสายน้ำที่ใสสะอาดเช่นเดิมอย่างยั่งยืน
สำหรับกิจกรรม คลีนคลอง ถือเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของ “Bangkok River Festival 2024” โดยปีนี้ จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 แล้ว ถือเป็นโครงการต้นแบบของชุมชนริมน้ำ เพื่อขยายผลสู่การพัฒนาชุมชนและสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์สายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ โดยปีนี้ได้รวบรวมขยะกระทงจากวัสดุธรรมชาติกว่า 1,000 กิโลกรัม ที่รวบรวมจากทั้ง 10 ท่าน้ำ เพื่อส่งต่อให้กรุงเทพมหานครนำไปรีไซเคิลเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ขณะที่ประทีปเทียนหอมกว่า 50 กิโลกรัม จะถูกส่งต่อรวบรวมมายังวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อนำไปหลอมและนำกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการคัดแยกขวดพลาสติกภายในงาน เพื่อส่งต่อโครงการ “เก็บกลับ-รีไซเคิล” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด (TBR) เพื่อนำบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และนำไปผลิตเป็นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก แจกให้ตามชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เขตหนาวต่อไป
ทั้งนี้ เป็นประจำทุกๆ ปี ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมงานลอยกระทง จะมีการรวมตัวกันของพันธมิตรทั้ง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด, สำนักงานเขตธนบุรี ,กองทัพเรือ รวมทั้งชาวบ้านจิตอาสาชุมชนริมน้ำ, เยาวชนโครงการ Beta Young Entrepreneur และเยาวชนจิตอาสาคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาร่วมกิจกรรมเพื่อคัดแยกขยะในกิจกรรมคลีนคลองครั้งนี้ด้วย
น้องๆ ตัวแทนเยาวชน ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างพลังคนรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมทำหน้าที่สืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่มีคุณค่าของไทย ควบคู่ไปกับการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนทั้งแนวคิดและกิจกรรมที่สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังสร้างให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชน พร้อมทั้งมีส่วนช่วยส่งต่อเครือข่ายที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน