ONNEX by SCG Smart Living ชูกลยุทธ์ EPC+ BUSINESS MODEL เสนอ 5 โมเดลธุรกิจ เสริมแกร่งพลังงานโซลาร์ประเทศไทย

ตลาดพลังงานสะอาดโดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานโซลาร์  มีสัดส่วนหลักๆ มากกว่า 80% ของ Renewable Energy ในประเทศไทย ​โดยมี​ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ราว 3,000 – 4,000 เมกะวัตต์ ​และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมาได้ราว 20-30%

ขณะที่ทิศทางการเติบโตยังอยู่ในระดับสูงจากหลายปัจจัยบวก ทั้งการตื่นตัวเรื่องการใช้พลังงานสะอาดเพื่อรับมือวิกฤตสภาพอากาศ​ อัตราค่าไฟที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีดีมานด์ในการลงทุนโครงการพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น​​ รวมทั้งกฏเกณฑ์ภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่าง RE100 เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ

จากโอกาสที่เปิดกว้าง รวมทั้งความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่แข็งแรงจากการเป็นผู้นำนวัตกรรมและการให้บริการเกี่ยวกับระบบโซลาร์มากว่าสิบปี ทำให้ ONNEX by SCG Smart Living เติบโตจากหน่วยงาน​ให้บริการติดตั้งโครงการโซลาร์ในเครือเอสซีจี มาเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตจากเทรนด์พลังงานสะอาด​ ทั้งจากโซลูชันบริการโครงการโซลาร์ที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ รวมทั้งโมเดลธุรกิจที่เปิดกว้างในการหาพันธมิตร​ ที่ไม่เพียง​​เพิ่มความแข็งแรงให้ธุรกิจของตัวเอง แต่ยังเติมเต็ม Green Energy Ecosystem ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย

เสนอ 5 โมเดลธุรกิจ ​EPC+ BUSINESS MODEL 

คุณวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ONNEX by SCG Smart Living เน้นนวัตกรรมและบริการด้านระบบโซลาร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 โดยเริ่มต้นจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองภายในโรงงานต่างๆ ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากสุดถึง 40% ทำให้ปัจจุบันมีความพร้อมในการรองรับดีมานด์ที่เติบโตในตลาดพลังงานสะอาด โดยเฉพาะโครงการโซลาร์ที่ปัจจุบันดำเนินการแล้วกว่า 321 โครงการ ทั้งในเครือเอสซีจีและนอกเครือ พร้อมวางแผนการเติบโตภายใน 5 ปีจากนี้ จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตโซลาร์ไม่น้อยกว่า 1,000 เมกะวัตต์

“ด้วยประสบการณ์ด้าน EPC (Engineering Procurement and Construction) หรือการให้บริการทั้งด้านการออกแบบทางวิศวกรรมม การขออนุญาตโครงการ รวมทั้งการติดตั้งโครงสร้างระบบแบบครบวงจร ทำให้​ ONNEX มีบริการที่รองรับโครงการในทุกสเกลทั้งในลานจอดรถ หลังคาอาคาร หลังคาโรงงาน  รวมทั้งโซลาร์ฟาร์ม หรือในสระน้ำ ทำให้ธุรกิจสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม”​​​

ด้าน คุณดุสิต ชัยรัตน์ Smart Home Living Solution Director ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า  ONNEX by SCG Smart Living  นำเสนอนวัตกรรมโมเดลธุรกิจ ที่เชื่อว่าจะส่งเสริมให้ทั้งบริษัทรวมทั้ง Renewable Ecosystem ของประเทศไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานทดแทน ต่อยอดสู่กลยุทธ์​ EPC+ Business Model ที่ออกแบบมาสำหรับให้ตอบโจทย์ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร รวมทั้งนักลงทุนที่สนใจธุรกิจพลังงานสะอาด ผ่าน 5 ​​รูปแบบ ต่อไปนี้

– EPC+F (Finance)

เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าพื้นฐานมาติดตั้งระบบโซลาร์ นอกจากธุรกิจจะได้ใช้พลังงานสะอาดแล้ว ผู้ประกอบการยังได้ประโยชน์จากส่วนลดค่าไฟสูงสุดถึง 40% ซึ่งแผน EPC+F นี้ ทางผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนเอง แต่ทาง ONNEX จะดำเนินการหาผู้ลงทุนให้

– EPC+D (Project Development)

เหมาะสำหรับนักลงทุน ที่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ สถาบัน กองทุน ที่สนใจลงทุนในโครงการโซลาร์ แต่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีทีมงานจัดทำโครงการ หรือไม่สามารถหาโครงการที่เหมาะสมได้ ทาง ONNEX จะทำหน้าที่คัดสรรโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุน ขนาดโครงการ ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ลงทุน

– EPC+O&M (Operations & Maintenance)

เหมาะสำหรับเจ้าของโครงการที่ติดตั้งโซลาร์ในหลายโครงการ หรือธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีร้านในเครือต้องบริหารหลายสาขา และเริ่มมีปัญหาในการบริหารจัดการแบบองค์รวม (Centralized monitoring & maintenance) ทาง ONNEX มีบริการตั้งแต่ Efficiency Audit, การทำ Centralized Dashboard ตลอดจนการดูแลระบบให้สามารถผลิตไฟได้ตามเป้าหมาย โดยมี Performance Warranty ในกรณีที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางแผนไว้

– EPC+Alliance

รูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตร EPC ด้วยกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารต้นทุนที่ดีที่สุดผ่านระบบการจัดซื้อ (Cost effectiveness) โดยทาง ONNEX มีแผน​ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาแผงและอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบโซลาร์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว จากต้นทุนต่างๆ ที่จะสามารถลดลงได้จากการรวมกลุ่มซื้อในจำนวนมาก โดย EPC+Alliance ได้เริ่มดำเนินการและเปิดรับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสนใจร่วมกันอยู่ในขณะนี้

– EPC+Authorized Referral

ถือเป็นครั้งแรกของการมีโมเดลรูปแบบนี้ในประเทศไทย ในการมีตัวแทนอิสระเพื่อขยายเครือข่ายในกลุ่มที่มีดีมานด์ในการติดตั้งโซลาร์ทั้งแบบรายบุคคล และนิติบุคคล เพื่อมาเป็น Authorized Referral ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการและไปแนะนำคนรู้จักต่อ เป็นการสร้างเครือข่ายในกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ และมองเห็นดีมานด์ในธุรกิจ เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการขยายตลาดโดยได้รับผลตอบแทนจากการแนะนำโครงการ

ด้าน คุณสุชาติ นอกพุดซา Associate Director – Solar Roof ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิ่ง กล่าวว่า ONNEX by SCG Smart Living มีประสบการณ์ในการติดตั้งระบบโซลาร์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกรูปแบบ (Solar Roof, Solar Floating, Solar Farm และ Solar Carport) ที่ผ่านมา สามารถผลิตพลังงานสะอาดไปแล้วกว่า 200 เมกะวัตต์ (MWp) และยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอีกถึง 400–600 เมกะวัตต์ (MWp) ​

ทั้งนี้ ONNEX by SCG Smart Living  ยังมีพื้นที่โซลาร์ฟาร์มต้นแบบ​ ขนาด 47.5 ไร่ ที่จังหวัดสระบุรี และใช้การบริหารจัดการพลังงานโรงไฟฟ้าเสมือนจริง (Virtual Power Plant) ภายใต้แนวคิด Smart Utilization – Smart Investment – Smart Flexibility และ Smart Monitoring ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ปริมาณการผลิตโซลาร์และการนำพลังงานสะอาดไปใช้อย่างเหมาะสม ถือเป็นโซลาร์ฟาร์มต้นแบบที่มีความสำคัญอย่างมากในการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ทาง ONNEX by SCG Smart Living เคย Develop ได้สูงสุดจะอยู่ที่ IRR 34% และระยะเวลาคืนทุนภายใน 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ทางทีมผู้บริหาร ONNEX เชื่อมั่นว่า จากความเชี่ยวชาญ รวมทั้งโมเดลธุรกิจที่พัฒนาขึ้นมา จะทำให้สามารถขยายโครงการโซลาร์ได้ตามแผน 5 ปี 1,000 เมกะวัตต์ โดยโครงการส่วนใหญ่จากนี้จะเน้น​กลุ่มโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์โฟลทติ้ง เนื่องจากเป็นโมเดลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ เช่น โรงงานขนาดใหญ่ หรือนิคมอุตสหากรรมต่างๆ ​ขณะที่โซลาร์รูฟท็อป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินโครงการไปในเฟสแรกจำนวนมากแล้ว ทำให้​มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่ค่อนข้างเต็มแล้ว แต่หากมองในเชิงจำนวนโครงการจะเป็นรูปแบบโครางการที่มีจำนวนมากที่สุดในพอร์ต แต่ในเชิงปริมาณการผลิตไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการสเกลที่ใหญ่กว่าอย่างโซลาร์ฟาร์ม หรือโซลาร์โฟลทติ้ง เพราะมีกำลังการผลิตปริมาณไฟฟ้าในปริมาณที่มากกว่า

“โมเดลธุรกิจทั้ง 5 แนวทาง จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของพลังงาน​โซลาร์ในประเทศ ทั้งการแมตชิ่งระหว่างดีมานด์ และซัพพลาย รวมทั้งยังเพิ่มส่วนสนับสนุนการลงทุนในโครงการทั้งในแง่เงินทุน นักลงทุน รวมทั้งการขยายเครือข่าย เพื่อได้​ต้นทุน​ที่มีศักยภาพและแข่งขันได้ ซึ่งนอกจากการเติบโตของ ONNEX แล้ว ยัง​ทำให้ Solar Power Ecosystem ของประเทศไทยแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกัน หากธุรกิจเติบโตและแข็งแกร่งได้มากขึ้น ก็มองหาโอกาสจากการขยายไปตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยประเทศที่สนใจลำดับต้นๆ คือ ฟิลิปปินส์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีค่าไฟแพง ขณะที่นโยบายประเทศสนับสนุนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งเป็นประเทศที่เอสซีจีมีเครือข่ายธุรกิจที่ค่อนข้างแข็งแรงตั้งอยู่ด้วย”

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ONNEX Solar หรือสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแผน EPC+ Business Model สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.onnexbyscg.com/th/product/solar-solutions และไลน์ @SCGSolarRoof หรือสอบถามได้ที่เบอร์ 02-586-2222

Stay Connected
Latest News