บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เดินหน้าขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านฟาร์มโคนม ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ 3 สหกรณ์โคนม ยกระดับเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู พัฒนาฟาร์มโคนมอย่างยั่งยืน
บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด นำโดย คุณสลิลลา สีหพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการพัฒนาฟาร์มโคนมอย่างยั่งยืน กับตัวแทนสหกรณ์โคนม 3 แห่งในจังหวัดนครราขสีมา ได้แก่ สหกรณ์โคนมพิมาย จำกัด สหกรณ์โคนมชุมพวง จำกัด และสหกรณ์โคนมครบุรี จำกัด
โดยสหกรณ์โคนมทั้ง 3 แห่งนี้เป็นพันธมิตรรายสำคัญของเนสท์เล่ ตลอดเวลามากกว่า 30 ปีที่ผ่านมา การลงนามในครั้งนี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างเนสท์เล่และสหกรณ์ทั้ง 3 แห่ง ยกระดับจากการซื้อขายสู่การพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน การลงนามในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหาร ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ ณ สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้
การลงนามในบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์มโคนม รวมทั้งการยกระดับปริมาณและคุณภาพของน้ำนมดิบ เพื่อเสริมสร้างรายได้ที่ดีให้แก่เกษตรกร และเพื่อผลผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพสูงสำหรับผู้บริโภค
โดยเนสท์เล่จะเป็นผู้ที่ริเริ่มการประยุกต์ใช้หลักเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture)ในการพัฒนาฟาร์มโคนมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ด้วยการให้ความรู้ในหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อาทิ การจัดการของเสียในฟาร์มเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาหญ้าอาหารวัวที่เหมาะสม เพื่อยกระดับคุณภาพและปริมาณของน้ำนมดิบ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำนมวัว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050
ในโอกาสเดียวกันนี้ เนสท์เล่ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการรับซื้อน้ำนมโคดิบ พ.ศ. 2567-2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรในการมีตลาดรองรับผลผลิตน้ำนมดิบและได้รับราคาที่เป็นธรรมตามเกณฑ์มาตรฐานการรับซื้อที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ เนสท์เล่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจในการซื้อน้ำนมโคดิบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดี และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น