จีนมีอารยธรรมมากกว่า 5,000 ปี ผ่านพ้นวิกฤตมาหลายยุคสมัย มีศิลปะวิทยาการ และประสบการณ์มากมายให้โลกได้เรียนรู้ แต่เนื่องจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้การศึกษาเกี่ยวกับจีนวิทยาถูกปิดกั้น และขาดตอนมาเป็นระยะเวลานานในสังคมไทย
สมาคมปัญญาภิวัฒน์ มุ่งหวังเรียนรู้และส่งเสริมสิ่งดีๆ จากอดีต จึงได้จัดตั้ง ‘อาศรมสยาม–จีนวิทยา’ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ผู้รู้และผู้ใฝ่รู้ทางจีนวิทยา ได้ร่วมกันสร้างความแข็งแกร่ง และความเจริญงอกงามด้านจีนศึกษาในสังคมไทย
ล่าสุด อาศรมสยาม – จีนวิทยา สมาคมปัญญาภิวัฒน์ และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมกันจัดโครงการพิเศษ ‘เยือนมณฑลไหหลำ สัมผัสวัฒนธรรมอวกาศจีน’ เพื่อศึกษาภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสถานที่สำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน
สำหรับมณฑลไหหลำ หรือมณฑลไห่หนาน เป็นพื้นที่เกาะทางใต้ของจีน นับเป็นมณฑลที่มีพื้นที่ทางบกน้อยที่สุดราว 3.54 หมื่นตารางกิโลเมตร และพื้นที่ทะเลประมาณ 2 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรทั้งสิ้นกว่า 10.43 ล้านคน (ข้อมูลปี 2023) และเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชุมชนกลุ่มน้อยถึง 37 ชนเผ่า โดยมี ชาวหลี, ชาวม้งหรือแม้ว, และชาวหุย เป็นชนเผ่าดั้งเดิม รวมทั้งชนเผ่าอื่นๆ และชาวฮั่น ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุด
ขณะที่แบ่งการปกครองออกเป็น 4 นครระดับจังหวัด ประกอบด้วย เมืองไหโขว่, เมืองซานย่า, เมืองซานซา และเมืองตันโจว โดยมีเมืองเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ คือ ไหโขว่ เมืองหลวงซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ชายฝั่งทางตอนใต้ อุดมด้วยทิวทัศน์ชายทะเล และเป็นทั้งศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งชาติของไหลำ
และอีกหนึ่งเมืองคือ ซานย่า ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตอนใต้สุดของมณฑล ล้อมรอบด้วยภูเขา เนินเขา ที่ราบชายฝั่งทะเล รวมทั้งยังมีท่าเรือและเกาะเล็กๆ จำนวนมาก ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ จนได้รับการขนานนามว่า ‘ฮาวายตะวันออก’
สำหรับหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวที่สำคัญของมณฑลไหหลำ คือ ศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศเหวินซาง ที่สร้างขึ้นเพื่อบูรณาการด้านทหารและพลเรือน เมื่อปี 2016 เพื่อปลูกจิตสำนึกความรักชาติ ผ่านแนวคิด ‘ระเบิด 2 ลูก 1 ดาวเทียม’ สะท้อนถึงการบุกเบิกโครงการนิวเคลียร์และอวกาศในช่วงแรกของจีน ซึ่งระเบิด 2 ลูก หมายถึง ระเบิดนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ส่วน 1 ดาวเทียม หมายถึง ดาวเทียมประดิษฐ์ พร้อมทั้งการพัฒนายานอวกาศที่สามารถพามนุษย์เดินทางไปกลับระหว่างโลกและอวกาศได้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคมจีนให้มีความเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น ผ่านการให้ความสำคัญและสนับสนุนเทคโนโลยีด้านการบินและอวกาศ ซึ่งสามารถมีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย
อาคารหลักภายในศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศเหวินซาง จะประกอบด้วย พื้นที่จัดแสดงเครื่องบินกลางแจ้ง ลานจัดแสดงจรวด ฐานปล่อยจรวด ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดให้เยี่ยมชมได้ 2 จุด คือ อาคารจัดแสดงวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศ ซึ่งได้มีการจัดแสดงโมเดลจำลองจรวด, โมเดลจำลองดาวเทียมแบบต่างๆ, โมเดลยานสำรวจดาวอังคารขนาด 1:3, แบบจำลองสถานีอวกาศขนาด 1:1 พร้อมให้ผู้เยี่ยมชม สามารถสัมผัสประสบการณ์บนห้วงอวกาศจริงผ่านเก้าอี้ VR เป็นต้น และอีกหนึ่งพื้นที่คือ จุดชมพื้นที่ฐานปล่อยจรวดอวกาศเหวินซาง ซึ่งเป็นฐานปล่อยจรวดอวกาศสมัยใหม่เพียงแห่งเดียวของจีนที่ผสมผสานระบบนิเวศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีสำหรับแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะได้สัมผัสทั้งพื้นที่ปล่อยจรวด พื้นที่ทางเทคนิค และพื้นที่ทดลองความร่วมมือต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสสัมผัสวัฒนธรรมในอีกหลายแลนด์มาร์กสำคัญของไหหลำ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีนอย่าง เขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดหนานซาน อุทยานเชิงพุทธศาสนาขนาดใหญ่ของจีน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของซานย่า ภายในรวบรวมจุดเช็กอินด้านพุทธศาสนาจำนวนมาก ทั้งวัดหนานซาน วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม 33 ปาง
รวมทั้ง พระโพธิสัตว์กวนอิมเหนือสมุทร ที่มีความสูง 108 เมตร สร้างจากแร่ไทเทเนียมอัลลลอยด์ โดยรูปปั้นมีทั้งหมด 3 องค์ 3 ด้าน ซึ่งแต่ละด้านมีความหมายแตกต่างกันออกไป โดยด้านหนึ่งพระหัตถ์จะถือกล่องคัมภีร์ สะท้อนถึงปรัชญา และความมีสติปัญญา อีกด้านหนึ่งถือกล่องประคำ สัญลักษณ์แห่งการหลุดพ้น และอีกด้านถือดอกบัว สัญลักษณ์ของความสงบสุข สะอาดและบริสุทธิ์ของจิตใจ โดยทั้ง 3 องค์ประทับอยู่บนดอกบัว 108 กลีบ ด้านล่างของดอกบัวคือ บัลลังก์วัชระ หรือตำหนักหยวนทง เป็นอาคาร 6 ชั้นและชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ซึ่งประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม 99,999 องค์
รวมทั้งสถานที่สำคัญด้านอารยธรรมจีนทั้ง ศาลขงจื่อนครเหวินซาง ศาลเจ้าแห่งแรกของไหหลำ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดผู้มีชื่อเสียงและบุคคลสำคัญจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นชุมชนแห่งวัฒนธรรม ขณะที่แนวคิดของขงจื่อ ก็ถูกยึดเป็นหลักดำเนินชีวิตของคนจีนส่วนใหญ่
เขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมปิงหลางกู่ เพื่อสัมผัสวิถีกลุ่มชาติพันธุ์หลีและม้ง ผ่าน 7 โซนท่องเที่ยวอาทิ หมู่บ้านมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หมู่บ้านกันสือของชาวหลี หมู่บ้านชาวม้งในป่าฝน ถนนอาหารปิงหลาง (ผลหมาก) ชาวหลี-ม้ง
ชุมชนภาพยนตร์เฝิงเสี่ยวกัง จากการร่วมทุนระหว่างผู้กำกับหนังเฝิงเสี่ยวกัง และบริษัทผลิตภาพยนตร์ Huayi Brothers Media Corporation ภายในชุมชนประกอบด้วยสตูดิโอภาพยนตร์ รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ควรค่าแก่การศึกษาและเยี่ยมชม โดยพื้นที่บางส่วนยังมีการออกแบจำลองภาพยนตร์ Back to 1942 ถ่ายทอดให้เห็นความอดอยากครั้งใหญ่ในมณฑลเหอหนานช่วงปี 1942 ด้วย พร้อมจุดเช็กอินน่าสนใจหลากหลายโซน เช่น โซนวิวเจียงเฉิงเหยา ความสวยงามของสถาปัตยกรรม 93 หลัง จาก 4 เมืองใหญ่ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ทั้งหานาฬิกาซีซาน โรงละครเซี่ยงไฮ้หรงกรวง สำนักงานหนังสือพิมพ์ซินหัวเดลี่ โซนฟางหัว ซึ่งเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Youth ของผู้กำกับเฝิงเสี่ยวกัง ที่สะท้อนวิถีชีวิตของศิลปะการทหารช่วงปี 1970 ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จากกำแพงภาพเหมือนขนาดใหญ่ของประธานเหมาเจ๋อตง หรือโซนถนนแห่งดวงดาว ทางเท้ายาวกว่า 200 เมตร จำลองมาจาก Hollywood Walk of Fame และถนนซุปเปอร์สตาร์แห่งเกาะฮ่องกง ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เหล่านักแสดง ผู้กำกับ และผู้มีคุณูปการต่อวงการภาพยนตร์จีนและต่างประเทศ โดยตลอดทางมีแท่งหินประทับรอยมือและลายเซ็นต์นักแสดงเกือบ 200 คน ไว้ให้นักท่องเที่ยวไว้ดูเป็นที่ระลึกด้วย
เห็นได้ว่า จีนให้ความสำคัญกับการรักษาความแข็งแรงของวัฒนธรรม และอารยธรรมที่สืบทอดมาหลายพันปี เพื่อสามารถส่งต่อความเป็นรากเหง้ามาถึงปัจจุบันได้ พร้อมสามารถเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ ค่านิยม ความเชื่อ และความเคารพที่มีต่อบรรพบุรุษ เข้ากับการพัฒนาความรู้ เทคโนโลยี รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้ดินแดนมังกรแห่งนี้สามารถเติบโตและพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถปรับตัวรับเมกะเทรนด์ต่างๆ จนกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่แข็งแกร่งของโลก ซึ่งสามารถเรียนรู้ทั้งวิธีคิด และแนวทางปฏิบัติ เพื่อนำมาปรับใช้สำหรับการพัฒนาในหลายๆ มิติได้เป็นอย่างดี