ท็อปส์ ทุ่ม 1.6​ พันล้านบาท เร่งขยายครบ​ 1 พันสาขา วางกลยุทธ์ T-O-P-S เติม ‘ประสบการณ์ + ความยั่งยืน’ ​สู่ Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail

ท็อปส์ ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ใหม่ “Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail” พร้อมเผยผลประกอบการ​ครึ่งแรกของปี 2567 มียอดการใช้บริการที่ร้าน (Ticket Counts) เติบโต 11% และจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มกว่า 1.6 พันล้านบาท ขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่อง เพื่อเป็น​ผู้นำซูเปอร์มาร์เก็ตเชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ด้วยจำนวนสาขารวมกว่า 1,000 แห่ง ภายในปี 2570

มร.สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ความสำเร็จตลอด​ 28 ปีที่ผ่านมา ท็อปส์มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจฟู้ดรีเทล เคียงข้างสังคมไทย โดยยึดลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ พร้อม​​เดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกยุค และสามารถครองความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกกลุ่มฟู้ดในประเทศไทยมา​ยาวนาน โดยมี​ความสำเร็จที่ผ่านมา อาทิ

– First-in & Exclusive: ผู้นำเทรนด์ตลาดค้าปลีกกลุ่มฟู้ดรูปแบบใหม่ๆ และการจำหน่ายสินค้านำเข้าภายใต้เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์

– Truly World-Class: ผู้นำด้านการ เฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่ครบครันที่สุด ผ่านการคัดสรรอย่างดีทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 50,000 รายการ

– Omni-Channel Excellence: ผู้นำด้านการพัฒนารูปแบบร้านในหลากหลายโมเดลและช่องทางการจำหน่าย

– First Loyalty Program in Thailand: ผู้นำธุรกิจค้าปลีกรายแรกของเมืองไทยที่พัฒนาระบบลอยัลตี้โปรแกรม เพื่อเข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้าและนำเสนอสิทธิประโยชน์ได้อย่างตรงใจ

ขณะที่แผน​ขับเคลื่อนธุรกิจจากนี้ จะเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้า​ได้ครอบคลุม ผ่านสาขาที่มีทุกฟอร์แมตรวมกันกว่า 730 แห่ง​​ ทั้งท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 20 สาขา, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต 150 สาขา , ท็อปส์ เดลี่ 520 สาขา, ท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์​ 10 สาขา และ มัทสึคิโยะ อีก 25 สาขา โดยมีแผนท้ังการขยายสาขาและอัพเกรดสาขาในแต่ละปีที่ราว 100 สาขา และมีสาขารวมถึง 1 พันแห่งในปี 2570 โดย​ปีที่ผ่านมา​ได้​รีแบรนด์และปรับโฉม​​ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศโดยออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์​ลูกค้า​แต่ละพื้นที่ผ่านแนวคิด Joy-venience Store ​พร้อม​​พัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนลให้​สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้มาก​ขึ้น

“เราวางเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 8% ต่อเนื่องตลอด​ 4 ปี (พ.ศ. 2567-2570)  เพื่อเป้าหมาย​เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเชน​ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยสาขารวมมากกว่า 1,000 แห่ง ภายในปี พ.ศ. 2570 ​พร้อมตั้งเป้าลงทุนในปีนี้ที่กว่า 1.6 พันล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนสู่  Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail ผ่าน 4 กลยุทธ์​สำคัญ หรือ T-O-P-S เพื่อเติมเต็มประสบการ​ณ์ในแต่ละมิติอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพ ความสามารถในการเข้าถึงได้ทุกช่องทาง ความหลากหลายของกลุ่มสินค้า รวมทั้งการขับเคลื่อนความยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมิติสำคัญที่ธุรกิจในปัจจุบันไม่สามารถมองข้ามได้” 

สำหรับรายละเอียด​การขับเคลื่อนกลยุทธ์แต่ละมิติ ประกอบด้วย

– T : Truly World Class: ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้เหนือกว่าและแตกต่าง ด้วยสินค้าคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 80 ประเทศ 210 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก นำเสนอให้ลูกค้า​ในที่เดียว พร้อมมุ่ง​สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มเกษตรกรเพื่อพัฒนาสินค้าคุณภาพ พร้อมกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ เพื่อโปรโมทสินค้าจากประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ให้ลูกค้าได้ค้นพบประสบการณ์การซื้อสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกได้ในที่เดียวที่ท็อปส์

– O : Omni-Channel:  ประสบการณ์ช้อปสะดวกแบบไร้รอยต่อ แบบ Whenever, Wherever ผ่านช่องทางออมนิแชแนล ที่สะดวก ครบ จบได้ในทุกช่องทาง ทั้ง​ร้านค้าแบบมีหน้าร้าน (Brick & Mortar store) ที่เปิดให้บริการ​ใน 46 จังหวัด รวมกว่า 700 แห่งท่ัวประเทศ ​ควบคู่​การพัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนล  และการพัฒนาช่องทาง​ขนส่งผ่านแพลตฟอร์มดิลิเวอรีรายใหญ่ของประเทศ และบริการท็อปส์ ออนไลน์ บริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว หรือ Personal Shopper หรือช่องทางโซเชียลอย่าง Tik Tok เป็นต้น

– P : Pleasure:  ประสบการณ์ที่ดีจากความหลากหลายของสินค้าทั้ง 14 กลุ่มสินค้า (14 Wonders) อาทิ สินค้าผักและผลไม้ (Fruits & Vegs) ​ ขนมขบเคี้ยว (Snackers) ​ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ท็อปส์​, ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ (Wine & Spirits) นำเข้าจากแหล่งผลิต​ชั้นดีจากทั่วโลก รวมทั้งกลุ่มสินค้า Own Brand และเอ็กซ์คลูซีฟไอเท็ม Only at Tops รวมกว่า 300 รายการ ซึ่งมาพร้อม​กลยุทธ์สร้างความประทับใจ​ผ่านบริการชั้นเลิศ​​ Yes! Topster ยกระดับมาตรฐาน​บริการ​ พร้อม​​ประยุกต์นวัตกรรม​ AI โซลูชัน ที่ทันสมัย รับเทรนด์การเปลี่ยนแปลง

– S : Sustainability: ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกๆ มิติ  สานต่อโครงการ “Small Acts Together” เพื่อ​บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยสนับสนุนให้ทั้งคู่ค้าและลูกค้า​เข้ามามีส่วนร่วมในการทำให้โลกน่าอยู่และยั่งยืน สอดคล้อง​กลยุทธ์ ​ReNEW ของเซ็นทรัล รีเทล และสะท้อนปรัชญา​​ธุรกิจ​ CRC Care​ ผ่านการขับเคลื่อน​แผนงาน 12 Journeys to Net Zero เพื่อ​ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่

1. ดูแลฐานราก ผลักดันผู้ผลิต (Curating) อาทิ ช่วยเหลือเกษตรกรไทย​ผ่านตลาดจริงใจ Farmers’ Market กว่า 11,000 ครัวเรือน สนับสนุน SMEs ไทย ผ่านโครงการท็อปส์ ท้องถิ่นกว่า 200 ราย จาก 29 จังหวัด ปรับใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 40 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

2. หมุนเวียน (Circulating) ด้วยนโยบายจัดการอาหารส่วนเกิน ลดจำนวนสินค้าใกล้หมดอายุ ส่งต่ออาหารส่วนเกินสู่ชุมชนรวม 6.2 ล้านมื้อ แปรรูปอาหารส่วนเกินเป็นผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงรวม 10,085 ถุง

3. คิดค้นสร้างสรรค์ (Creating Green Innovation) อาทิ สร้างความยั่งยืน​ในภาคส่วนโลจิสติกส์ มีแผนขยายการใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) รวม 29 คันภายในปีนี้   ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 13,335 ตัน

4.แบ่งปัน (Contributing) อาทิ ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ในโครงการเด็กทุกคนอ่านได้

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 28 ปี ท็อปส์ ได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษสำหรับ Stakeholders ทุกภาคส่วน​ ทั้งลูกค้า​ พนักงาน พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และชุมชน ภายใต้แนวคิด “Infinite Happiness เติมพลังสุขไม่สิ้นสุดได้ทุกวัน” ​มอบความคุ้มค่าด้วยแคมเปญ “สติกเกอร์ แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ”

สำหรับลูกค้าสมาชิก The1 เพียงซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด​ รับสติกเกอร์ส่วนลดทันทีสูงสุด 20% ติดสติกเกอร์บนสินค้าที่ต้องการ รับส่วนลดแบบที่ตนเลือกได้เองทันที สะสมสติกเกอร์ได้ง่ายๆ เพียงซื้อสินค้าครบ 300 บาท/ใบเสร็จ รับสติกเกอร์ส่วนลดสูงสด 10% 1 แผ่น หรือซื้อสินค้าครบ 800 บาท/ใบเสร็จ รับสติกเกอร์ส่วนลดสูงสด 15% 1 แผ่น หรือซื้อสินค้าครบ 1,200 บาท/ใบเสร็จ รับสติกเกอร์ส่วนลดสูงสด 20% 1 แผ่น ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม – 10 กันยายน 2567 ที่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์  และ ท็อปส์ เดลี่ ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัว “ท็อปสเตอร์” (Topster) มาสคอตแรกของท็อปส์ ที่จะมาร่วมเป็นตัวแทนส่งมอบความสุขให้กับลูกค้ามอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษนี้

“ความสำเร็จในวันนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าท็อปส์เป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและสังคมไทย โดยความสำเร็จนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความร่วมมือและการสนับสนุนจากพันธมิตร พนักงานทุกคน   ที่ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ตลอดจนลูกค้าที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ท็อปส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสานต่อภารกิจการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน ให้สมกับความเป็นผู้นำแห่งธุรกิจฟู้ดค้าปลีกที่ยึดครองใจผู้บริโภค เพื่อมุ่งสู่การเป็น “Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail” มร.สเตฟาน กล่าวสรุป

Stay Connected
Latest News