30 ปี ‘โลตัส’ จากผู้นำ ‘กลยุทธ์ราคา’ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะ Smart Community Center ​และเหตุผลในการเลือก ‘กงยู’ มาเป็นของขวัญให้คนไทย

ฉลองครบ 30 ปี พร้อมความสำเร็จในการขับเคลื่อนจาก ซูเปอร์เซ็นเตอร์ที่ได้ใจลูกค้าคนไทยในยุคบุกเบิก ด้วยกลยุทธ์ ‘ราคา’ จนปัจจุบัน โลตัส (Lotus’s) ​สามารถ​เติมเต็มไลฟ์สไตล์คนไทยในฐานะ  SMART Community Center หรือ ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนในชุมชน​ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคปัจจุบันได้มากกว่าแค่เรื่องของราคา แต่ยังเติมเต็มทั้งประสบการณ์ รวมทั้งมุ่งสร้างการเติบโตร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

คุณสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า ​ตลอดการเดินทาง 30 ปี โลตัสไม่หยุดเติมเต็มประสบการณ์การช้อปปิ้ง เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพ พร้อมพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้ลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อมุ่งสู่การเป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนในชุมชน เช่น

ปี 2537 เริ่มดำเนินการสาขาแรกในประเทศไทย ด้วยฟอร์แมท ‘โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์‘ ที่ซีคอนสแควร์ , ปี 2541 กลุ่มเทสโก้​เข้ามา​บริหารงาน​ , ปี 2546 เปิดตัวแคมเปญลดราคาอย่าง ‘โรลแบ็ค’ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้คนไทย, ปี 2547 เปิดตัว กรีนสโตร์ สาขาแรกที่ สาขาพระราม 1,  ปี 2552 เปิดตัว ‘คลับการ์ด’ เพื่อสะสมแต้มจากการใช้จ่ายของลูกค้า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาด้าน Personalized ที่แข็งแรง, ปี 2553 เปิดตัวแคมเปญ ‘ภูมิใจไม่ใช้ถุง’ รายแรกในกลุ่มค้าปลีกไทย ที่ชวนลูกค้าไม่รับถุงพลาสติกและมอบแต้มเป็นการตอบแทน,

ปี 2556 เริ่มพัฒนาช่องทางออนไลน์ , ปี 2564 รีแบรนด์ Lotus’s ให้มีความสดใสมากขึ้น เพื่อการเป็นจุดหมายการใช้ชีวิตแบบ SMART ให้แก่ชุมชน,  ปี 2565 เริ่มพัฒนา Lotus’s Smart App และปี 2566 มีการพัฒนา Store Format รูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้บริโภคปัจจุบันได้มากขึ้น เช่น โลตัส พรีเว่, โลตัส อีทเทอรี หรือร้านค้าอัตโนมัติ โลตัส พิคแอนด์โก เป็นต้น

ขณะที่กลยุทธ์เพื่อ​ขับเคลื่อนการเติบโตในทศวรรษที่ 4 ของโลตัส จะตอกย้ำความแข็งแรงของการเป็น SMART Community Center ที่สามารถ​ตอบโจทย์ความต้องการให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พาร์ทเนอร์ เพื่อสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

1) การเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับอาหารและอาหารสดคุณภาพสูง (Fresh Food Destination) เพื่อตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางของผู้คนในแต่ละชุมชนได้อย่างแท้จริง จาก​กว่า 2,400 สาขาที่กระจายอยู่ทำเลต่างๆ ทั่วประเทศไทย ในรูปแบบสโตร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง

2) การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตรอบด้าน ทั้งความบันเทิง กิจกรรม รวมถึงการให้บริการแบบ omni-channel เชื่อมต่อการให้บริการทั้งที่สาขาและแพลตฟอร์มออนไลน์ (SMART Life Solutions) สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน และเชื่อมโยงให้โลตัสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริโภคได้มากกว่าแค่การเข้ามาจับจ่ายซื้อของ แต่สามารถมอบประสบการณ์และโมเมนต์ที่ดีให้ลูกค้าได้ด้วย

3) การมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและตรงใจในแต่ละบุคคล ด้วยโปรแกรมสมาชิกมายโลตัส (Personalized Value Beyond Price) จากความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลฐานสมาชิก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งการนำเสนอสินค้าพิเศษ หรือการจัดโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้มากที่สุด

4) ความยั่งยืนในทุกมิติที่ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจในทุกวัน (Every Day Sustainability)  ผ่าน​แนวทาง​การขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2030 (​ Vision 2030. Actions every day.)  

“สำหรับการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของโลตัสในปีนี้ จะมุ่งเน้นใน 3 มิติใหญ่ ตามกรอบ ESG ​ทั้งเรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และสอดคล้องไปกับ Core Value ของโลตัส ไม่ว่าจะเป็น การให้ความสำคัญในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ​จากการดำเนินธุรกิจ เพื่อส่งต่อให้กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างประโยชน์ให้ผู้คนในสังคมแล้ว ยังเป็นการช่วยลดปริมาณ Food Waste จากการดำเนินธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Zero Food Waste ในปี 2030 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่โลตัสจะเร่งขับเคลื่อนอย่างจริงจังในปีนี้ รวมทั้งการส่งเสริมให้กลุ่มคู่ค้า ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี เติบโตไปพร้อมกับโลตัส​ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการมุ่งสร้างประโยชน์ให้สังคม และสะท้อนถึงการให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล​เช่นเดียวกัน”

ฉลอง 30 ปี กับ 3 กล่องของขวัญ ให้ ‘คนไทย’

นอกจากความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนตามแนวทาง SMART Community Center โลตัสยังได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 30 ปี ผ่าน 3 กล่องของขวัญ สำหรับลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะ ประกอบด้วย 2 แคมเปญ ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมทั้งอีก 1 กิจกรรมพิเศษ ที่สำรวจมาจากความต้องการของลูกค้าโลตัส ได้แก่

– มหกรรมล้านคอยน์ ​จากการรับคอยน์พิเศษ เมื่อสินค้ากว่า 110 แบรนด์ดัง 650 รายการ ที่เข้าร่วมรายการ หรือช้อปครบ 100 บาท ก็สามารถสแกน QR ท้ายใบเสร็จหรือเล่นเกมใน แอปเพื่อรับคอยน์เพิ่ม แลัวใช้เพียง 1 คอยน์เพื่อลุ้น 1 ล้านคอยน์ได้ทุกวัน​​ตลอดแคมเปญ รวมทั้งยังมีแคมเปญ มหกรรมกินแลกคุ้ม เพียงรับประทานอาหารในพื้นที่ศูนย์การค้าโลตัสครบ 200 บาท ได้สิทธิ์รับ 1 e-stamp สะสมเพื่อใช้แลกของรางวัลมากมาย อาทิ ตู้เย็น โทรทัศน์ Lotus’s Gift Card ฯลฯ

– แคมเปญ “โรลแบ็ค ลดหนัก ประหยัดจริง”  ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์แคมเปญของโลตัส โดยปีนี้ได้นำ​ทัพสินค้าราคาพิเศษกว่า 1,00o รายการ จากพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์ดัง  ที่เข้ามาร่วมลดราคาแบบแรงที่สุดในรอบปี ให้ลูกค้าได้ช้อปแบบลดหนักประหยัดจริงกันต่อเนื่อง เรียกว่ายิ่งซื้อยิ่งคุ้มตลอดแคมเปญ

– กิจกรรม  “Lotus’s 30th Anniversary with Gong Yoo in Bangkok” ด้วยการพาศิลปินเกาหลีระดับตำนานอย่าง “กงยู” มาพบแฟนคลับชาวไทย ซึ่ง การเลือก ‘กงยู’ มาจากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้า และพบว่าชื่อของกงยู คือศิลปินเกาหลีที่ลูกค้าโลตัสรู้สึกผูกพันและอยากพบมากที่สุด และยังถือเป็น  K-Star ยุคแรกๆ ที่เข้ามาบุกเบิกตลาดกระแส K-pop ในประเทศไทย จึงนับได้ว่า​เป็นศิลปินเกาหลี ที่เติบโตมาพร้อมๆ กับลูกค้าโลตัส ​ก็ว่าได้

ทั้งนี้ โลตัสยังได้จัด แคมเปญ “ซื้ออะไรก็ได้เจอกงยู” ที่ดึงศิลปินเกาหลีอย่าง “กงยู” มาร่วมกิจกรรม Lotus’s 30th Anniversary with Gong Yoo in Bangkok แบบพิเศษสุดที่ประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่เป็น Top Spender 2,000 ท่านแรก ทั้งที่ซื้อสินค้าในโลตัสทั่วประเทศ รวมทั้งที่ช้อปร้านค้าในศูนย์การค้าโลตัส (ร้านทองไม่เข้าร่วมกิจกรรม Top Spender) พร้อมลุ้น Lucky Draw อีก 1,300 รางวัล โดยทุกการช้อป 100 บาทในโลตัสทั่วประเทศ และร้านค้าในศูนย์การค้าโลตัสรับไปเลย 1 สิทธิ์ทันที เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดี โดยลูกค้าสามารถร่วมสนุกกับแคมเปญนี้ได้ตั้งแต่ 15 สิงหาคมถึง 2 ตุลาคมนี้ (เฉพาะสมาชิกมายโลตัส) แล้วเตรียมไปพบโมเมนต์ดี ๆ ของแฟนคลับชาวไทยกับกงยูได้ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-6 โดยผู้ที่สนใจสามารถดูเงื่อนไขกิจกรรมเพิ่มเติมที่ https://l.lotuss.com/DwfaL

นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายเพื่อมอบความรู้สึกดีดีให้ลูกค้าทุกวันที่โลตัส โดยสามารถติดตามผ่านทางเว็บไซต์โลตัส (www.lotuss.com), Lotus’s Smart App รวมถึงทางเพจเฟซบุ๊ค Lotus’s – โลตัส (https://www.facebook.com/lotussth) ตลอดระยะเวลาของแคมเปญ ตั้งแต่ 15 สิงหาคมถึง 2 ตุลาคมนี้

Stay Connected
Latest News