กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) ในกลุ่มบริษัทบางจาก สนับสนุนการจัดการน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วอย่างถูกวิธี ไม่ทิ้ง ไม่ทอดซ้ำ ภายใต้โครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และ “ไม่ทอดซ้ำ” ของบางจาก เพื่อส่งต่อให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) นำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน แทนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในอุตสาหกรรมการบิน
โดยมีร้านอาหารในเครือบริษัทไทยเบฟเวอเรจ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 708 สาขาทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) ได้อย่างครบวงจร
ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร พร้อมด้วย คุณนิพนธ์ เลิศทัศนีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารโครงการวิศวกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย คุณสุรพร เพชรดี ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด, คุณธนวัฒน์ ลินจงสุบงกช ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทธนโชค และ คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามความร่วมมือรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF)
คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจอาหารไทยเบฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารที่ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจต่อผู้บริโภค คำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมา เรามีกระบวนการจัดการน้ำมันในการปรุงอาหารอย่างครบวงจร โดยเลือกใช้น้ำมันคุณภาพ งดการใช้น้ำมันทอดซ้ำจนเสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันการเกิดสารอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค อันจะก่อให้เกิดโรคตามมา โดยมีมาตรการตรวจสอบและควบคุมสารโพลาร์ในน้ำมัน ไม่ให้เกิน 25% เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงส่งต่อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากร้านอาหารในเครือให้แก่คู่ค้า เพื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานสะอาดไบโอดีเซล
สอดคล้องกับแนวคิด “โครงการทอดไม่ทิ้ง” และ “โครงการไม่ทอดซ้ำ” ที่ส่งเสริมการจัดการน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วอย่างถูกวิธี ไม่ทิ้งลงพื้นที่สาธารณะ และสร้างมาตรฐานการใช้น้ำมันปรุงอาหารอย่างปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว มาส่งต่อให้ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel – SAF ที่สามารถใช้กับเครื่องบินได้โดยไม่ส่งผลกับเครื่องยนต์ แสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อลดภาวะโลกร้อน”
“วันนี้ กลุ่มธุรกิจอาหารไทยเบฟ เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมสุขภาพดี สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยให้กับผู้บริโภค มุ่งมั่นวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุดเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปด้วยกัน” นางนงนุช กล่าวปิดท้าย
สำหรับโครงการทอดไม่ทิ้งและไม่ทอดซ้ำ มุ่งแก้ไขปัญหาการทิ้งน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วอย่างไม่ถูกวิธี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้น้ำมันปรุงอาหารซ้ำ ทำให้เร่งการเสื่อมสภาพของน้ำมัน ก่อให้เกิดสารอันตรายแก่ร่างกาย ได้แก่ สารโพลาร์ สารประกอบโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโครคาร์บอน และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคตามมา คือ ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกระเพาะอาหาร หากสูดดมไอระเหยของน้ำมันเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด
ด้าน บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) ในกลุ่มบริษัทบางจาก จึงรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว เพื่อนำไปผลิตเป็น SAF ซึ่งการใช้ SAF สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ประมาณ 80% เทียบกับน้ำมันอากาศยานแบบเดิม
ปัจจุบันมีแบรนด์ร้านอาหารรระดับประเทศ ตอบรับเข้าร่วมโครงการหลายแบรนด์ รวมถึงร้านอาหารในเครือบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ได้เข้าร่วม โครงการทอดไม่ทิ้ง ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน พร้อมต่อยอดสู่ โครงการไม่ทอดซ้ำ รวมทั้งสิ้น 11 แบรนด์ร้านอาหาร จำนวน 708 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ได้แก่ โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, โออิชิ บุฟเฟต์, ชาบูชิ, นิกุยะ,โฮว ยู, โออิชิ ราเมน, คาคาชิ, โออิชิ บิซโทโระ รวมถึงร้านเคเอฟซี โดยบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด และร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ยุโรป แวนเทจ พอยท์
ทั้งนี้ ร้านอาหารที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติได้เข้าร่วมโครงการไม่ทอดซ้ำ จะได้รับประกาศนียบัตรจากกรมอนามัย เพื่อรับรองมาตรฐานการไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำและนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาขายให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด นำไปผลิตเป็น SAF
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและประชาชนทั่วไป ก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการนำน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วมาขายได้ที่สถานีบริการบางจาก 162 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด นำไปผลิตเป็นพลังสะอาด และยังช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่ทุกคนอีกด้วย