ในฐานะประเทศเกษตรกรรม และพื้นที่การเกษตรกว่า 65 ล้านไร่ หรือราว 20% ของพื้นที่เพาะปลูกในไทย เป็นพื้นที่สำหรับใช้ปลูกข้าว ทำให้มีปริมาณ ‘ฟางข้าว’ เหลือทิ้งหลังการเก็บเกี่ยวในปริมาณค่อนข้างมาก
โดยวิธีการกำจัดที่นิยมก่อนหน้าคือ การเผา ซึ่งนำมาทั้งมลภาวะทางอากาศ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และภาวะโลกร้อน ทำให้มีความพยายามในการนำฟางข้าวไปต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ ตามแนวทาง Zero Waste ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักนำไปต่อยอดในฟากของการทำเกษตร หรือปศุสัตว์ เช่น นำไปทำปุ๋ยหมัก นำไปใช้เลี้ยงสัตว์ หรือนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมชีวมวล Biomass ต่างๆ
ขณะที่ความร่วมมือครั้งล่าสุดระหว่างผู้นำจาก 2 อุตสาหกรรม อย่างสยามคูโบต้า ผู้นำในกลุ่มเทคโนโลยีด้านการเกษตร และเกรฮาวด์ ออริจินัล ผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย ในการต่อยอดงานวิจัย ‘นวัตกรรมเส้นใยฟางข้าวผสมเส้นใยจากรังไหม สู่การพัฒนาสิ่งทอเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์แฟชั่นไลฟ์สไตล์’ โดยคณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและเลี้ยงไหม และกลุ่มสตรีทอผ้าฝ้าย จ.สุรินทร์
นับเป็นครั้งแรกของการ Collaboration ระหว่าง 2 กลุ่มดังกล่าว เพื่อต่อยอดวัสดุเหลือทิ้งจากแปลงนาอย่างฟางข้าวให้กลายมาเป็นเสื้อผ้าสตรีทแฟชั่น ในคอลเลกชันพิเศษ ‘Turn waste to Agri-Wear‘ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืนให้แก่โลก จากที่ก่อนหน้าเรามักจะเห็นการขับเคลื่อนเสื้อผ้ารักษ์โลก ที่อัพไซเคิลมาจากเส้นใยพลาสติกเป็นส่วนใหญ่
คุณพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และ คุณภาคิน เพ็ญภาคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัด แอนด์ ฮาวด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือโปรเจ็กต์ KUBOTA x GREYHOUND ORIGINAL PRESENT “Turn waste to Agri-Wear” ช่วยเพิ่มแนวทางต่อยอดด้านความยั่งยืนรูปแบบใหม่ เพราะถือเป็นครั้งแรกในวงการแฟชั่น ที่นำวัสดุเหลือใช้ทั้งฟางข้าวในสัดส่วน 20% และรังไหมเหลือใช้ 20% มาผสมกับผ้าฝ้ายในสัดส่วน 60% เพื่อทอเป็นผ้าสำหรับมาออกแบบในคอลเล็กชั่นใหม่นี้ ผ่านดีไซน์แบบสตรีทแฟชั่น ที่เป็น Unisex และเรียบง่ายที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน
ความร่วมมือดังกล่าวตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองแบรนด์ในการขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน โดยเฉพาะความพยายามลดขยะจากการดำเนินงานให้กลับมาสร้างคุณค่าใหม่ได้ ซึ่งไอเท็มในคอลเล็กชั่นนี้มีราว 20 SKU ทั้งในกลุ่มเสื้อยืด เสื้อเชิ้ตแขนสั้น แขนยาว กางเกงขาสั้น ขายาว หมวก กระเป๋า โดยจำหน่ายในราคาที่ไม่แตกต่างจากสินค้าในกลุ่ม GREYHOUND ORIGINAL ทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ง่าย รวมทั้งเพิ่มการมีส่วนร่วมและเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งหลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกคนที่ซื้อสินค้าในคอลเลกชั่นนี้มีโอกาสช่วยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
สำหรับในอนาคตสยามคูโบต้าจะยังต่อยอดแนวคิดที่ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืน และส่งเสริมการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทั้งฟางข้าว หรือในกลุ่มพืชชนิดอื่นๆ มาสร้างไอเดียด้วยวิธี upcycling ให้เกิดมูลค่าเพิ่มในหลากหลายสินค้าเพื่อช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากการกำจัดเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรด้วยวิธีการเผา ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy พร้อมมุ่งมั่นเป็นองค์กรที่ตอบแทนสังคมและสานต่อความยั่งยืน
ขณะที่เกรฮาวด์ก็มุ่งส่งเสริม Eco Fashion เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายในอุตสาหกรรมแฟชั่นในตลอดทั้งวงจรชีวิตของสินค้า ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การผลิต การจำหน่าย การออกแบบเพื่อสวมใส่ได้บ่อยๆ ไปจนถึงการพยายามจำหน่ายสินค้าที่ผลิตออกมาให้หมด รวมทั้งการนำไปทำลาย เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนตามแนวทาง Sustainable Fashion โดยเฉพาะการเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Green Label หรือป้ายแท็กเขียวที่เกืดจากกระบวนการรีไซเคิล เช่น ผ้าจากเส้นใยพลาสติก ผ้าคอตตอนออแกนิก หรือการนำผ้าในสต็อกมาใช้เพื่อลดการผลิตผ้าใหม่ เพื่อลดทั้งปริมาณขยะ ลดการใช้สารเคมี และเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยปัจจุบันมีสินค้าในกลุ่ม Green Label ราว 20% ของสินค้าที่จำหน่ายภายในร้าน
คอลเลกชัน KUBOTA x GREYHOUND ORIGINAL PRESENT ‘Turn waste to Agri-Wear’ มีจำหน่ายแล้วที่ GREYHOUND STORE สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และ EVERYTHINGHOUND STORE สาขาสยามพารากอน สาขาเมกาบางนา และเว็บไซต์ www.greyhound.co.th