เคยสงสัยกันไหม? ในเมื่ออุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคโลกร้อน จนตอนนี้เข้าสู่ยุคโลกเดือด แล้ว แต่ทำไมยังเห็นหลายๆ องค์กรยังเดินหน้าบริจาคเสื้อกันหนาวอย่างต่อเนื่อง
หลายคนคงแอบนึกในใจ ถ้าอยากทำเพื่อสังคม ทำไมไม่หาวิธีทำให้เข้ากับบริบทโลก ทั้งๆ เสื้อหนาวที่มีอยู่ในตู้ยังแทบไม่มีโอกาสได้หยิบออกมาใส่กันเลย
หนึ่งความเห็นในเรื่องนี้จากยูนิโคล่ ประเทศไทย ที่มองว่า แม้เราจะเรียกปัญหาเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศรวมๆ ว่า ‘โลกร้อน’ แต่จริงๆ มันคือ เรื่องของ Climate Change เป็นเรื่องความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว ซึ่งพื้นที่บางแห่งอาจจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ขณะที่บางพื้นที่ก็อาจจะหนาวเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน
ซึ่งในประเทศไทย ก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เพราะในแต่ละปีจะมีผู้คนเสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวเย็นถึง 50-70 คนเลยทีเดียว และเป็นความจริงที่ว่า ยังมีผู้คนที่ประสบภัยจากสภาพอากาศหนาวเย็นอยู่ทั่วโลก แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคโลกร้อน จนมาถึงโลกเดือดแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีกลุ่มเปราะบาง และผู้ขาดแคลนกระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทย รวมไปถึงพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก
นอกจากช่วยเรื่องภัยหนาวแล้ว การบริจาคเสื้อกันหนาว หรือเสื้อผ้าต่างๆ ยังช่วยลดผลกระทบปัญหาสภาพอากาศด้วย เพราะการบริจาค จะช่วยลดซัพพลายส่วนเกินภายในห่วงโซ่ไปให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ประโยชน์จากเสื้อผ้าที่ผลิตออกมาแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยลดปริมาณการเพิ่มขยะที่หลุมฝังกลบซึ่งจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในที่สุด
สำหรับยูนิโคล่ ประเทศไทย เอง ก็มีโครงการบริจาคเสื้อกันหนาวด้วยเช่นกัน คือ RE.UNIQLO 50,000 Warm Clothes เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ที่ริเริ่มในปี 2566 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย RE.UNIQLO เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการใช้ประโยชน์จากเสื้อผ้าให้ยาวนานที่สุด เพื่อช่วยลดปริมาณขยะจากเสื้อผ้าที่จะไปสู่หลุมฝังกลบ ผ่านแนวทาง Reuse, Remake, Repair และ Recycle
คุณเขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการ RE.UNIQLO 50,000 Warm Clothes หรือ การบริจาคเสื้อกันหนาว 50,000 ตัว เพื่อช่วยผู้ประสบภัยหนาว โดยเชิญชวนให้คนไทยนำเสื้อหนาว หรือเสื้อแขนยาวมาบริจาคให้ผู้ประสบภัยหนาว เพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการผ่านความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ประเทศไทย และสามารถรวบรวมเสื้อผ้าได้กว่า 94,155 ตัว ซึ่งสูงกว่าการบริจาคเสื้อผ้าในปี 2565 ถึงกว่า 4 เท่า
“ยูนิโคล่เห็นถึงความสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ถึงการใช้เสื้อผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ จึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรม “ส่งต่อความอบอุ่นด้วยพลังของเสื้อผ้า” (Passing Warmth Through THE POWER OF CLOTHING) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมกับ 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนทับทอง และโรงเรียนอนุบาลกลมเกลียว เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ความขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาวในประเทศไทย รวมถึงพลังแห่งการแบ่งปัน โดยกิจกรรมนี้ทำให้สามารถรวบรวมเสื้อกันหนาวเด็กได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ”
ทั้งนี้ ทางยูนิโคล่ได้คัดแยกเสื้อกันหนาว เสื้อแขนยาว และเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ ที่อยู่ในสภาพดี ส่งมอบต่อให้ผู้ที่ขาดแคลนแล้วกว่า 24,000 ชิ้น และยังคงทยอยส่งมอบต่อเนื่องภายในปีนี้ โดยที่ยอดบริจาคเสื้อกันหนาวก็ได้ครบตามเป้าหมาย พร้อมทั้งตั้งเป้าบริจาคเสื้อผ้าให้ครบ 50,000 ชิ้น ภายในต้นปี 2567 รวมถึงพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ทางภาคเหนือ ผ่าน UNHCR ประเทศไทยอีกด้วย และจะยังคงเดินหน้ากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการทำให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนไทยดียิ่งขึ้น